ไลสไตล์คลายเหนื่อย... วันศุกร์สุดสัปดาห์ สัมผัสชีวิตสาวใต้ลูกแม่ค้าตลาดเมืองคอน นครศรีธรรมราช ตั้งใจศึกษาเล่าเรียนจบปริญญาตรี พอดีสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดรับสมัครผู้เข้าสอบเป็นข้าราชการตำรวจ สายอำนวยการในวุฒิปริญญาตรี เลยไปสมัครสอบปรากฎว่าสอบติดได้เป็นตำรวจสมความตั้งใจที่ปราถนา ถืออุดมคติการทำงานของชีวิต "ถ้าไม่ได้ทำในสิ่งที่รัก จงรักในสิ่งที่ต้องทำ
เพื่อความสุขในการทำงาน"
พ.ต.ท.หญิง ศิริวรรณ บิลมาศ
สารวัตรฝ่ายนโยบายส่งเสริมการมีส่วนร่วม
สำนักงานคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ
ดิฉันเกิดที่อำเภอท่าศาลา จังหวัดนครศรีธรรมาราช มีพี่น้อง 6 คน ดิฉันเป็นลูกคนที่สอง แต่เป็นลูกสาวคนโต พ่อ-แม่ ประกอบอาชีพค้าขายในตลาดสด เข้ารับการศึกษาระดับชั้นประถมศึกษา ปีที่ 1 ถึงระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่โรงเรียนบ้านในถุ้ง และได้เข้าศึกษาต่อระดับมัธยมศึกษาปีที่ 1 ถึงระดับมัธยมศึกษาปี 6 ที่โรงเรียนท่าศาลาประสิทธิ์ศึกษา จบศึกษาระดับปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตตรัง สาขาการจัดการสารสนเทศและคอมพิวเตอร์ เมื่อปี พ.ศ. 2550 และศึกษาระดับปริญญาโทที่มหาวิทยารามคำแหง สาขารัฐประศาสนศาสตร์มหาบัณฑิต เมื่อปี พ.ศ. 2554
ไลฟ์สไตล์ ส่วนตัวกับการให้เวลาและวันว่างกับตัวเอง ตกค้างเมื่อมีโอกาสได้หยุดพักดิฉัน ชอบนั่งรถไฟ เที่ยวชมธรรมชาติ และบางครั้งชอบออกเดินป่า ตามอุทยานแห่งชาติต่างๆ เพื่อเที่ยวชมความสวยงาม ของ ธรรมชาติ และสูดอากาศบริสุทธิ์ บางครั้งเป็นแนวร่วมอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ร่วมสนับสนุนการปฏิบัติงานของหมอล็อต นายสัตวแพทย์ ภัทรพล มณีอ่อน ในการอนุรักษ์สัตว์ป่าและสิ่งแวดล้อม หากมีเวลาเหลือก็จะออกกำลังกาย บางคราวก็ไปร่วมกิจกรรมด้วยการลงสมัครวิ่งฮาล์ฟมาราธอน มินิมาราธอน
จุดเริ่มต้นของการก้าวสู่อาชีพตำรวจเมื่อปี พ.ศ. 2551 สอบเข้ารับราชการตำรวจครั้งแรก บรรจุเป็นข้าราชการตำรวจชั้นประทวน ซึ่งครั้งนั้นสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดรับสมัครผู้เข้าสอบเป็นข้าราชการตำรวจสายอำนวยการในวุฒิปริญญาตรี จึงมีชื่อเล่นของรุ่นว่า “ป.ตรี รุ่น 1” โดยได้รับการบรรจุแต่งตั้งเป็นสิบตำรวจตรีหญิง ศิริวรรณ บิลมาศ ตำแหน่งผู้บังคับหมู่ ที่ กองบังคับการอำนวยการ สำนักงานจเรตำรวจ. ต่อมาปี พ.ศ. 2555 สอบผ่านการคัดเลือกข้าราชการตำรวจเพื่อดำรงตำแหน่งชั้นสัญญาบัตร และได้รับการบรรจุแต่งตั้งเป็น ว่าที่ร้อยตำรวจตรีหญิง ศิริวรรณ บิลมาศ ตำแหน่ง รองสารวัตรฝ่ายนโยบายส่งเสริมการมีส่วนร่วม สำนักงานคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ (สง.ก.ต.ช.),ปี พ.ศ. 2560 สอบผ่านการคัดเลือกเพื่อเข้ารับการอบรมระดับสารวัตรในหลักสูตร “ฝ่ายอำนวยการตำรวจ รุ่นที่ 39” ซึ่งหลักสูตรนี้ ใน 1 ปี จะมีเพียง 1 รุ่นเท่านั้น และจำนวนผู้เข้าอบรมทั้งสิ้น 66 ราย เท่านั้น
,ปี พ.ศ. 2562 ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง สารวัตรฝ่ายนโยบายส่งเสริมการมีส่วนร่วม สำนักงานคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ. จบสาขาการ จัดการสารสนเทศและคอมพิวเตอร์ เพื่อนๆ หลายๆ คนดิฉันเสมอว่าคิดอย่างไรมาเป็นตำรวจ ดิฉันตอบทันทีเลยว่าอาจจะเป็นเพราะโชคชะตากำหนด เพราะก่อนที่จะมาเป็นตำรวจ ก็มีโอกาสได้ทำงานที่ฝ่ายวิชาการที่มหาวิทยาลัยสงขลานนครินทร์ วิทยาเขตภูเก็ต เป็นระยะเวลา 1 ปี และรู้สึกว่าตัวเองน่าจะทำอะไรได้มากกว่านี้ ประจวบเหมาะกับเป็นช่วงเวลาที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดรับสมัครสอบตำรวจสายอำนวยการ จึงถือโอกาสมาลองสนามสอบข้าราชการครั้งแรกในชีวิตไม่เคยคิดว่าความอดทน ความตั้งใจทำงานที่หนักเอาเบาก็ทำ ขอแค่มีโอกาสให้ได้แสดงศักยภาพของตัวเอง จะพาให้ชีวิตการทำงานมาได้ไกลเพียงนี้
ซึ่งเมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรองสารวัตรฝ่ายนโยบายส่งเสริมการมีส่วนร่วม สง.ก.ต.ช. ได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบงานคณะกรรมการตรวจสอบและติดตามการบริหารงานตำรวจ (กต.ตร.) ทั่วประเทศ ทำให้ได้เก็บเกี่ยวความรู้ มุมมองการทำงานของตำรวจโรงพักกับประชาชนที่เข้ามาเป็น กต.ตร. ตลอดจนปัญหาอุปสรรคในการดำเนินงานเกี่ยวกับ กต.ตร. จากการลงพื้นที่ไปตรวจติดตามการผลการดำเนินงานของ กต.ตร.สถานีตำรวจ ทั้งนครบาลและภูธร รวมระยะเวลากว่า 10 ปี ทำให้ผู้บังคับบัญชาไว้ว่างใจในการทำงานเกี่ยวกับ กต.ตร. และมอบหมายภารกิจสำคัญให้ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนเป็นหนึ่งในคณะทำงานยกร่างระเบียบ ก.ต.ช.ว่าด้วยคณะกรรมการตรวจสอบและติดตามาการบริหารงานตำรวจ พ.ศ. 2567 สง.ก.ต.ช. แม้จะเป็นหน่วยงานเล็กๆ เทียบเท่าระดับกองบังคับการ เป็นหน่วยขึ้นตรงสำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แต่เป็นหน่วยงานที่ทำหน้าที่เป็นเลขานุการของคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ (ก.ต.ช.) ซึ่งมีนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ก.ต.ช. ดังนั้น การปฏิบัติงาน ณ ที่แห่งนี้ ทำให้มีโอกาสได้เห็นมุมมองการทำงานตั้งแต่ระดับสถานีตำรวจไปจนถึงระดับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้เรียนรู้วิธีคิดในแบบผู้บริหารระดับสูง และได้รับฟังเสียงสะท้อนจากหน่วยปฏิบัติในระดับสถานีตำรวจ
คิดยังไงจึงมาเป็นตำรวจ รู้สึกว่าเครื่องแบบตำรวจเท่ห์ดี อยากใส่ชุดตำรวจ....(เป็นคำตอบที่เคยตอบกรรมการตอนสอบสัมภาษณ์ ตอนสอบตำรวจสนามแรก ชั้นประทวน)
อุดมคติในการทำงาน ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา คือ “ขอให้ถือผลประโยชน์ส่วนตัวเป็นที่สอง ประโยชน์ของเพื่อนมนุษย์เป็นกิจที่หนึ่ง ลาภทรัพย์และเกียรติยศจะตกมาแก่ท่านเอง ถ้าท่านทรงธรรมะแห่งอาชีพไว้ให้บริสุทธิ์” เป็นคำสอนพระบิดา ที่นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยสงขลานนครินทร์ทุกคนท่องจำไว้ขึ้นใจ