อัยการพิเศษเกาหลีใต้ยื่นหมายจับ “คิม กอน ฮี” อดีตสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งและภรรยาของอดีตประธานาธิบดี ยุน ซอก ยอล ในข้อหาปั่นหุ้นและติดสินบน เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา นับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์เกาหลีที่ภริยาผู้นำประเทศถูกจับกุม โดยคำร้องขอหมายจับมีขึ้นเพียงหนึ่งวันหลังจากคิมถูกสอบปากคำในฐานะผู้ต้องสงสัยนานกว่า 12 ชั่วโมง
การเคลื่อนไหวครั้งนี้ถือเป็นการยกระดับการสอบสวนคดีทุจริตที่เกี่ยวโยงกับอดีตประธานาธิบดีถึงสองราย อัยการชี้ว่าบทบาทของคิมในคดีปั่นหุ้นบริษัท Deutsch Motors ซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่ายรถยนต์รายใหญ่ในประเทศ เป็นความผิดทางเศรษฐกิจร้ายแรงและอาจมีความพยายามทำลายหลักฐาน ศาลแขวงกลางกรุงโซลมีกำหนดพิจารณาคำร้องต้นสัปดาห์หน้า
ขณะเดียวกัน คดีอีกด้านของอดีตประธานาธิบดี ยุน ซอก ยอล ยังคงตึงเครียด หลังเขาปฏิเสธความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่สอบสวนถึงสองครั้งระหว่างถูกควบคุมตัวที่ศูนย์กักขังโซล จังหวัดคยองกี ความพยายามจับกุมครั้งล่าสุดเมื่อเช้าวันพฤหัสบดีล้มเหลว หลังยุนขัดขืนอย่างแข็งขัน ทำให้อัยการต้องยุติปฏิบัติการเพราะกังวลเรื่องความปลอดภัย
ทีมอัยการพิเศษเดินทางไปศูนย์กักขังเวลา 8.25 น. เพื่อบังคับใช้หมายจับคดีหาเสียงผิดกฎหมายที่ออกตั้งแต่เดือนก่อน แต่ต้องยกเลิกเวลา 9.40 น. เนื่องจากการต่อต้านอย่างหนัก ฝ่ายกฎหมายของยุนระบุว่าเจ้าหน้าที่กว่า 10 นายพยายามจับแขนขาและลากตัวไปยังห้องสอบสวนจนเกิดการปะทะ ทำให้ยุนล้มและบาดเจ็บ
ความพยายามจับกุมครั้งแรกเมื่อ 1 ส.ค. ก็ไม่สำเร็จเช่นกัน โดยรายงานระบุว่ายุนนอนกับพื้นในสภาพชุดชั้นในเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกพาตัว ทนายความอ้างว่าเขาเพียงเปลี่ยนเสื้อผ้าในขณะนั้น เนื่องจากหมายจับใกล้หมดอายุ อัยการจึงเหลือเวลาจำกัดมากในการดำเนินการ
ยุนถูกควบคุมตัวตั้งแต่ 10 ก.ค. ในหลายข้อหา รวมถึงการประกาศกฎอัยการศึกเมื่อ 3 ธ.ค. และรับบริการสำรวจความคิดเห็นหาเสียงโดยมิชอบ เพื่อแลกกับการช่วยเหลือให้บุคคลได้รับการเสนอชื่อ ฝ่ายกฎหมายของเขามองว่าการเคลื่อนไหวของอัยการเป็นเกมการเมือง และชี้ว่ากฎหมายไม่รองรับการบังคับให้ผู้ต้องสงสัยให้ปากคำ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม จอง ซอง โฮ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามหมายจับอย่างถูกต้องและเป็นกลาง ขณะที่อัยการพิเศษยังพิจารณาว่าจะขอหมายจับใหม่หรือไม่ โดยแม้จะพาตัวยุนไปสอบปากคำได้ ก็มีการคาดการณ์ว่าเขาจะยังคงนิ่งเงียบ ซึ่งอาจทำให้อัยการต้องตั้งข้อหาโดยไม่มีคำให้การ