เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 7 ส.ค. 68 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (คณะกรรมการ ป.ป.ส.) ครั้งที่ 3/2568 

 

จากเวลา 17.13 น. นายภูมิธรรม แถลงหลังประชุมว่า การประชุมมีสาระสำคัญพิจารณาการฟื้นฟูป้องกันปราบปราม และป้องปรามเรื่องยาเสพติด เนื่องจากปัญหายาเสพติดเป็นปัญหาที่ต้องทำทั้งระบบโดยบูรณาการร่วมกัน ผลสำเร็จจึงจะเกิดขึ้นได้ โดยที่ประชุมตกลงที่จะร่วมมือกันทุกระดับ กระทรวงมหาดไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) กระทรวงสาธารณสุข และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) เป็นหน่วยงานหลัก นอกจากนี้หน่วยงานต่างๆของรัฐที่เกี่ยวข้อง ประสานงานกันให้ครบถ้วน  

 

โดยมีการแต่งตั้งคณะกรรมการติดตามปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดในพื้นที่ทั่วราชอาณาจักร ซึ่งเป็นหน่วยเฉพาะกิจ ที่ติดตามการดำเนินงานให้เป็นไปตามคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ทั้งนี้คำสั่งนายกฯ ระบุว่า ตามที่รัฐบาลกำหนดนโยบายในการแก้ไขปัญหายาเสพติดเป็นวาระเร่งด่วน โดยมีแผนปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด แต่ปรากฏว่ายังพบการกระทำความผิดส่งผลให้มีปัญหา การแพร่ระบาดยาเสพติดในพื้นที่ สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนอย่างต่อเนื่อง โดยขาดการควบคุมกำกับดูแลกำกับดูแลของผู้ปฏิบัติหน้าที่รับผิดชอบ 

 

เพื่อให้การแก้ปัญหาบรรลุผลตามนโยบายรัฐบาล อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 11 วรรค 6 แห่งพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534  นายกฯ จึงมีคำสั่งดังต่อไปนี้ 1. คณะกรรมการติดตาม ปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดในพื้นที่ทั่วราชอาณาจักร ประกอบด้วย 1.) พล.ต.ต.สุรสิทธิ์ สังขพงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นที่ปรึกษาคณะกรรมการฯ 2.) พล.ต.อ. รอย อิงคไพโรจน์ ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี เป็นที่ปรึกษาคณะกรรมการฯ  3.) ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานคณะกรรมการฯ 4.) ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นคณะกรรมการ 5.) อธิบดีกรมการปกครอง เป็นคณะกรรมการฯ 6.) เลขาธิการป.ป.ส. เป็นคณะกรรมการฯ  7.) ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด เป็นกรรมการฯ และเลขานุการร่วม 8.) ผู้อำนวยการสำนักการสอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง เป็นกรรมการฯ และเลขานุการร่วม 9.) ผู้อำนวยการสำนักปราบปรามยาเสพติด เป็นกรรมการฯและเลขานุการร่วม 

 

นายภูมิธรรม กล่าวว่า  2. ให้คณะกรรมการดังกล่าว มีอำนาจหน้าที่ดังต่อไปนี้ 1.) กำกับดูแลตรวจสอบการปฎิบัติงานให้เป็นไปตามขั้นตอน และแนวทางตามที่กฎหมายกำหนด 2.) ร่วมปฎิบัติการตรวจสอบ และติดตามการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดและกฎหมายที่เกี่ยวข้องที่ปรากฏในพื้นที่ 3.) กำหนดมาตรการในการดำเนินการต่อผู้รับผิดชอบในพื้นที่ของการกระทำความผิด 4.) แต่งตั้งคณะอนุกรรมการ คณะทำงาน ปฏิบัติการเพื่อช่วยเหลือการปฎิบัติงานได้ตามความจำเป็นและความเหมาะสม 5.) ประสานความร่วมมือจากหน่วยงานของรัฐ เอกชน และองค์กรภาคประชาชนเพื่อสนับสนุนการปฎิบัติงาน 6.) เชิญผู้แทนส่วนราชการของรัฐและบุคคลที่เกี่ยวข้องมาเข้าร่วมประชุมชี้แจงข้อเท็จจริงให้ข้อมูลรวมทั้งจัดส่งเอกสารที่เกี่ยวข้อง เพื่อประกอบการพิจารณาของคณะกรรมการ 7.) รายงานผลการปฎิบัติงานให้นายกรัฐมนตรีรับทราบทุกระยะ และ 8.) ดำเนินการอื่นๆตามที่นายกรัฐมนตรีมอบหมาย

 

นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า 3. คำสั่งอื่นใดที่ขัดหรือแย้งคำสั่งดังกล่าวให้ใช้คำสั่งนี้แทน 4.การเบิกจ่ายค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับการบริหารจัดการที่จำเป็นต่อการปฏิบัติงานของคณะกรรมการ คณะอนุกรรมการ คณะทำงาน หรือชุดปฏิบัติการที่แต่งตั้งตามคำสั่งนี้ ให้เป็นไปตามพระราชกฤษฎีกาเบี้ยประชุมกรรมการ พ.ศ. 2547 และที่แก้ไขเพิ่มเติม หรือตามระเบียบของราชการ แล้วแต่กรณี โดยเบิกจ่ายจากงบประมาณของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป