สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ได้ร่วมกับสมาคมแผ่นวงจรพิมพ์ไทย (THPCA) และสมาคมแผ่นวงจรพิมพ์ฮ่องกง (HKPCA) ประกาศยุทธศาสตร์ยกระดับอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ขั้นสูงของประเทศไทย โดยมีเป้าหมายผลักดันไทยให้เป็น ศูนย์กลางของห่วงโซ่อุปทานด้าน PCB และ Semiconductor แห่งภูมิภาคเอเชีย ผ่านการประสานงานร่วมกันอย่างเป็นระบบระหว่างภาครัฐ สถาบันวิจัย และภาคอุตสาหกรรม
งานแสดงสินค้าและบริการวงจรอิเล็กทรอนิกส์แห่งเอเชีย หรือ THECA 2025 มีกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 20–22 สิงหาคม พ.ศ. 2568 ณ อาคาร EH99–100 ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา กรุงเทพฯ บนพื้นที่จัดแสดง 12,000 ตารางเมตร รวบรวมผู้ประกอบการจากทั้ง 3 กลุ่มหลักในห่วงโซ่อุปทานของอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ ทั้งต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ ไว้ครบถ้วนในเวทีเดียว พร้อมปูทางสู่การเป็นฐานการผลิตด้านเทคโนโลยีขั้นสูงของภูมิภาคเอเชีย
นายวิเชียร งามสุขเกษมศรี กรรมการผู้จัดการ บริษัท มิตซูบิชิ อีเล็คทริค แฟคทอรี่ ออโตเมชั่น (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า THECA 2025 ถือเป็นก้าวสำคัญในการเปลี่ยนผ่านภูมิทัศน์อุตสาหกรรมของประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการเข้ามาของอุตสาหกรรมแผงวงจรพิมพ์ (Printed Circuit Board - PCB) ซึ่งเป็นภาคส่วนสำคัญในกระบวนการผลิตอิเล็กทรอนิกส์ ที่เข้ามามีบทบาทในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ โดย PCB ถือเป็น "กลางน้ำ" ในสายการผลิต
ประโยชน์และโอกาสของอุตสาหกรรม PCB ต่อประเทศไทย:
สร้างห่วงโซ่อุปทานที่สมบูรณ์: การมีอุตสาหกรรม PCB กลางน้ำที่แข็งแกร่ง จะเปิดโอกาสให้เกิดการพัฒนาอุตสาหกรรมต้นน้ำและปลายน้ำตามมา ซึ่งในปัจจุบันประเทศไทยมีปลายน้ำบางส่วนแล้ว และกำลังจะเริ่มโฟกัสที่ต้นน้ำ หากสามารถเชื่อมโยงการผลิตตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำได้ จะส่งผลโดยตรงต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (TDP) ของประเทศไทยอย่างแน่นอน
ยกระดับศักยภาพซัพพลายเชนเดิม: กลุ่มซัพพลายเชนเดิมที่มีอยู่กว่าพันรายในประเทศไทย แม้จะมีศักยภาพ แต่ก็จำเป็นต้องมีการ "อัปสกิล" และเติมเต็มความสามารถใหม่ๆ เพื่อรองรับห่วงโซ่อุปทานใหม่นี้ การเปลี่ยนผ่านนี้เน้นไปที่การใช้ เทคโนโลยี ระบบหุ่นยนต์ และระบบอัตโนมัติ เข้ามาช่วยในการผลิต ไม่ใช่แค่การใช้แรงงานอีกต่อไป
การร่วมมือภาคส่วน: การเข้ามาของอุตสาหกรรมใหม่นี้ ไม่ได้เน้นการใช้แรงงาน แต่เน้นการนำเทคโนโลยีมาปรับใช้ โซลูชั่นที่นำมาแสดงในงานนี้ เป็นความพยายามร่วมมือกับภาครัฐและสมาคมต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับระบบอัตโนมัติ หุ่นยนต์ และเทคโนโลยีซอฟต์แวร์ประมวลผล เพื่อตอบโจทย์และให้ผู้ประกอบการในทุกส่วนของซัพพลายเชนได้เห็นถึงเทคโนโลยีและโอกาสใหม่ๆ รวมถึงการฝึกอบรม เพื่อให้ซัพพลายเชนใหม่และลูกค้าทั้งต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ ได้มาพบปะและร่วมมือกัน
ในงานนี้ บริษัท มิตซูบิชิ อีเล็คทริค แฟคทอรี่ ออโตเมชั่น (ประเทศไทย) จำกัด ได้นำนวัตกรรมและโซลูชั่นมาจัดแสดงเพื่อตอบรับการเปลี่ยนผ่านทางอุตสาหกรรม พร้อมผนึกกำลังนำพันธมิตรซัพพลายเชนมาจัดแสดงนวัตกรรม เช่น Gemini GMIN9: เป็นซอฟต์แวร์ของมิตซูที่ใช้ในการจำลอง (simulation) การตั้งโรงงาน รวมถึงระบบอัตโนมัติต่างๆ ระบบ Visualiz การแสดงผลข้อมูลต่างๆ เช่น PLC (Programmable Logic Controller), หน้าจอ และระบบ SCADA ที่ใช้ในการแสดงผลพลังงานทั้งหมด เป็นต้น
ด้านประธานการจัดงาน นายนฤชา ฤชุพันธุ์ รองเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ได้เน้นย้ำถึงจุดแข็งของประเทศไทยในการเป็นฐานการผลิตสำคัญของอุตสาหกรรม PCB และกลุ่มธุรกิจรับจ้างผลิตผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ (EMS) ซึ่งหากสามารถเสริมสร้างความแข็งแกร่งในจุดนี้ จะสามารถต่อยอดสู่การพัฒนา Advanced Electronics เช่น เซมิคอนดักเตอร์ได้ง่ายขึ้น บีโอไอเชื่อว่ากุญแจสำคัญในการพัฒนาอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ในวันนี้ ไม่ใช่เพียงการส่งเสริมเงินลงทุน แต่ต้องประกอบด้วย 3 ปัจจัยหลัก คือ 1) การพัฒนาเทคโนโลยีขั้นสูงและซัพพลายเชนที่เกี่ยวข้อง 2) การสนับสนุนทางด้านนโยบายจากภาครัฐ และ 3) การเร่งพัฒนาบุคลากรคุณภาพอย่างเป็นระบบ เพื่อส่งเสริมความร่วมมือและการพัฒนาห่วงโซ่อุปทานอย่างครบวงจร งาน THECA 2025 จึงจัดให้มี BOI Forum ภายใต้หัวข้อ "Building the Future: Investment Policies Shaping Thailand’s Advanced Electronics and Semiconductor Ecosystem"
นายพิธาน องค์โฆษิต นายกสมาคมแผ่นวงจรพิมพ์ไทย (THPCA) และประธานจัดงาน THECA 2025 ได้กล่าวย้ำบทบาทสำคัญของประเทศไทยในการเป็น "ศูนย์กลางการผลิตและนวัตกรรมอิเล็กทรอนิกส์แห่งเอเชีย" โดยเฉพาะในอุตสาหกรรม PCB ซึ่งเป็นหัวใจหลักของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทุกชนิด ผ่านแนวทางยุทธศาสตร์ 3 มิติ ได้แก่:
การสร้างห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) ที่แข็งแกร่ง เชื่อมโยงอุตสาหกรรมทั้งต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำให้ครบวงจร เพื่อลดความเสี่ยงจากสถานการณ์โลกที่ผันผวนและเพิ่มความสามารถในการแข่งขันอย่างยั่งยืน
การเชิญชวนบริษัทชั้นนำจาก 11 ประเทศทั่วโลก เข้าร่วมจัดแสดงสินค้า นวัตกรรม และเจรจาธุรกิจในงาน THECA 2025 ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความได้เปรียบของไทยทั้งด้านโครงสร้างพื้นฐาน ต้นทุนที่แข่งขันได้ และแรงงานคุณภาพสูง โดยผู้เข้าร่วมแสดงงานจากกลุ่มอุตสาหกรรมต้นน้ำคิดเป็นร้อยละ 43 กลางน้ำร้อยละ 46 และปลายน้ำร้อยละ 11
การยกระดับระบบนิเวศอิเล็กทรอนิกส์ของไทย ผ่านความร่วมมือแบบบูรณาการระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และสถาบันวิจัย เพื่อรองรับความต้องการของตลาดโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทั้งในด้านมาตรฐานสิ่งแวดล้อม เทคโนโลยีขั้นสูง และความคาดหวังของลูกค้าในยุคดิจิทัล
นายลูเธอร์ หว่อง รองนายกสมาคมแผ่นวงจรพิมพ์ฮ่องกง (HKPCA) และผู้ร่วมจัดงาน THECA 2025 ได้เน้นย้ำถึง "เงื่อนไขสำคัญ" สำหรับผู้ผลิตอิเล็กทรอนิกส์และ PCB ที่ต้องการอยู่รอดในเวทีโลก นั่นคือ แนวทางการผลิตแบบคาร์บอนต่ำ การปฏิบัติตามหลัก ESG และการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยแนะนำให้ผู้ประกอบการนำเครื่องมืออย่างโครงการ LCMP ของ WWF และแนวทาง ESG จาก IPC มาใช้ เพื่อรองรับการประเมิน ESG ซึ่งจะเป็นตัวแปรสำคัญในการเข้าถึงเงินทุน ลูกค้า และความน่าเชื่อถือของแบรนด์
นายสราญโรจน์ สุทัศน์ชูโต รองผู้อำนวยการ TCEB ผู้สนับสนุนการจัดงาน กล่าวเสริมว่า งาน THECA 2025 สอดคล้องโดยตรงกับแผนยุทธศาสตร์ที่มุ่งผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางงานแสดงสินค้าเทคโนโลยีระดับภูมิภาค และเป็น ต้นแบบของงานแสดงสินค้า Carbon Neutral Exhibition ที่ตอบโจทย์ Thailand 4.0 และปูทางสู่ Industry 5.0
ด้านการพัฒนาบุคลากร ดร.วุฒินันท์ เจียมศักดิ์ศิริ นักวิจัยอาวุโส ศูนย์เทคโนโลยีไมโครอิเล็กทรอนิกส์ ชี้ให้เห็นว่า Advanced PCB ไม่ได้ต้องการแค่แรงงาน แต่ต้องการ "นักคิด-นักแก้ปัญหา" ที่เข้าใจกระบวนการทั้งระบบ การพัฒนาบุคลากรต้อง "เปลี่ยน mindset จากแรงงานผลิต เป็นแรงงานเทคโนโลยี" โดยเฉพาะในสายการผลิต PCB ที่เชื่อมโยงกับ AI Server, 5G Satellite และระบบยานยนต์ไฟฟ้า ซึ่งต้องการบุคลากรที่สามารถควบคุมระบบอัตโนมัติ แก้ไขปัญหาได้แบบ real-time และมี Soft Skill ด้านคุณภาพและความคิดสร้างสรรค์ ดังนั้น ศูนย์ TMEC (Thailand Microelectronics Center) จึงได้ร่วมออกแบบหลักสูตร เครื่องจักร และแนวทางฝึกอบรมร่วมกับภาคอุตสาหกรรม (TSPCA) เพื่อให้เกิดการเรียนรู้แบบ Hands-on Training ผ่าน Thailand Electronics Circuit Center (TECC) ซึ่ง นายเสวก ประกิจฤทธานนท์ อุปนายกและเลขานุการสมาคมแผ่นวงจรพิมพ์ไทย และประธานศูนย์แผ่นวงจรอิเล็กทรอนิกส์ไทย อธิบายว่า TECC ถูกออกแบบให้เป็นมากกว่าแค่ศูนย์อบรมทั่วไป แต่เป็น "สนามฝึกจริง" สำหรับแรงงานยุคใหม่ ที่ต้องเข้าใจทั้งเครื่องจักร ระบบอัตโนมัติ และมาตรฐานคุณภาพในระดับโลก เพื่อให้ไทยไม่เป็นเพียง "ทางผ่าน" ของการลงทุน แต่เป็น "ฐานผลิตถาวร" ในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ระดับโลก หรือกล่าวอีกนัยหนึ่ง TECC คือ "สะพาน" ที่เชื่อมงานวิจัยจาก TMEC เข้ากับระบบการผลิตในโรงงานจริง และเป็น "กลไกหลัก" ที่จะปั้นบุคลากรไทยให้มีทักษะเฉพาะทาง พร้อมใช้จริงในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง
ทั้งนี้ผู้สนใจสามารถลงทะเบียนเข้าชมงานล่วงหน้าได้ที่ https://thecaregistrations.jupinnothai.net/Registration/ChooseTypeRegis....