“ขุนพลน้อย ส.สมหมาย” จอมบู๊พลังอึด วัย 32 ปี จากนครศรีธรรมราช มั่นใจปราบนักชกต่างชาติเพิ่มอีกราย โดยอาสารับน้องโหด “วาลิด ซัคคราจี” นักสู้ป้ายแดงจากโมร็อกโก ที่พกดีกรีแชมป์ Road To ONE เวียดนาม มาเปิดตัวครั้งแรก โดยทั้งคู่จะดวลกันภายใต้กติกามวยไทย รุ่นฟลายเวต (125-135 ป.) ในฐานะคู่เอกภาคอินเตอร์ของศึก ONE ลุมพินี 119 ที่จะถ่ายทอดสดจากสนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา) ไปยัง 195 ประเทศทั่วโลก ในวันศุกร์ที่ 8 ส.ค.นี้ เริ่มคู่แรก 19.30 น.
ชั่วโมงนี้ “ขุนพลน้อย” กำลังอยู่ในช่วงมีความมั่นใจเต็มเปี่ยม ล่าสุดไล่ทุบเอาชนะคะแนนเอกฉันท์ “โม เทต ออง” จากเมียนมา ในศึก ONE ลุมพินี 112 เมื่อวันที่ 13 มิ.ย.ที่ผ่านมา เพิ่มสถิติสุดหรูในรายการเป็นชนะ 6 จาก 8 ไฟต์ ซึ่งรวมถึงการเก็บชัยรวดใน 4 ไฟต์หลัง พร้อมรับโบนัส 350,000 บาท เข้ากระเป๋าไปได้อีก 3 และยังครองสถิติไม่เคยแพ้คู่ชกชาวต่างชาติคนใดในรายการนี้
“ขุนพลน้อย” วาดภาพอนาคตไว้ว่าจะได้เดินตามรอยพี่ชาย “เสกสรร อ.ขวัญเมือง” และก้าวขึ้นไปโชว์ฝีมือบนสังเวียนระดับโลก โดยเจ้าตัวทุ่มเทแรงกายแรงใจพัฒนาฝีมือให้ดีขึ้นในทุก ๆ ไฟต์ ด้วยการศึกษาคู่ชกอย่างละเอียดในทุกแง่มุม และปรับปรุงแก้ไขจุดบกพร่องของตัวเองในไฟต์ที่ผ่านมา จนกระทั่งสามารถทำผลงานได้ดีต่อเนื่องถึงปัจจุบัน
“ไม่ว่าจะเจอคู่ชกไทยหรือต่างชาติ ผมยึดเทคนิคเดิมทุกไฟต์คือ ยกแรกจะเน้นดูเชิง ศึกษาจังหวะการออกอาวุธของอีกฝ่ายก่อน จากนั้นถึงนำข้อมูลที่ได้มาปรับใช้เพื่อแก้เกมสู้ต่อในยกสองและสาม”
“ส่วนที่ผมยังคงปรับปรุงและพัฒนาอย่างต่อเนื่องคือ เรื่องความเร็วและความแข็งแกร่ง เทรนเนอร์ก็ช่วยเสริมเทคนิคการออกอาวุธเป็นชุดและหลากหลายมากขึ้น เพื่อให้ผมมีอาวุธครบมือไว้ใช้บนเวที”
“ตอนนี้ผมผ่านศึก ONE ลุมพินี มาแล้ว 8 ไฟต์ ภูมิใจมากครับที่ก้าวมาถึงตรงนี้ได้ แต่ผมยังไม่หยุดพัฒนา เป้าหมายคือโชว์ฟอร์มให้ดีที่สุดในทุกครั้งที่ขึ้นเวที”
ไฟต์นี้ “ขุนพลน้อย” ยังคงปักหลักซ้อมเข้มอยู่ที่ค่ายมวย ส.เสกสรร ของตนเองที่ จ.นครศรีธรรมราช โดยได้รับคำแนะนำจากทั้งคุณพ่อที่เป็นอดีตนักมวย และพี่ชาย “เสกสรร” ช่วยเสริมเทคนิคและปรับสไตล์การชกให้ดีขึ้นเพื่อเตรียมความพร้อมเต็มกำลัง ก่อนเผชิญหน้ากับหน้าใหม่อันตรายอย่าง “วาลิด” ที่หวังมาเปิดตัวแบบเซอร์ไพรส์คนดู
สำหรับ “วาลิด” นักสู้เจ้าของฉายา “เดอะ เรด ไลออน (สิงห์โตแดง)” เป็นอีกหนึ่งนักกีฬาต่างชาติฝีมือไม่ธรรมดาจากทีมเมห์ดี ซาทูต แห่งเมืองพัทยา โดยมาพร้อมกับดีกรีแชมป์จากเวทีค้นหาดาวรุ่ง Road To ONE เวียดนาม และถือครองสัญญานักกีฬา ONE อยู่ด้วย
- ขุนพลน้อย พร้อมพิสูจน์ฝีมือคู่ชกระดับแชมป์
อย่างไรก็ตาม “ขุนพลน้อย” ได้ตอกย้ำอุดมการณ์หนักแน่นว่า ไม่ว่าคู่ชกที่ยืนอยู่ตรงหน้าจะเป็นใคร ตนก็พร้อมสู้แบบสุดฝีมือตามสไตล์ถนัด และตั้งใจให้รูปเกมออกมาสนุกตื่นเต้นประทับใจแฟนมวย โดยเจ้าตัวมั่นใจว่าไม่มีใครหยุดเขาได้ในตอนนี้ และจะเก็บชัยต่อเนื่องเป็นไฟต์ที่ 5 ให้ได้
“ผมศึกษาคลิปของ วาลิด มาแล้ว เขาเป็นมวยที่สเตปขาดี และรูปร่างสูงยาวกว่า แต่จุดอ่อนที่เห็นชัดคือช่วงปลายเกมมักมีแผ่วให้เห็นบ่อย ๆ แม้เขาจะเป็นแชมป์ Road To ONE เวียดนาม แต่ผมไม่รู้สึกกดดันนะ กลับรู้สึกภูมิใจมากกว่าที่ได้เจอกับคู่ชกระดับนี้ เพราะมันคือโอกาสดีในการพิสูจน์ฝีมือตัวเองครับ”
“ไฟต์นี้ผมจะเปิดเกมใส่ตั้งแต่ต้น เพราะรู้ดีว่า วาลิด เป็นมวยต่างชาติที่ปล่อยอาวุธเร็ว ถ้าถอยหรือยืนห่างมีสิทธิ์พลาดง่าย ผมต้องเข้าให้ถึงตัวตลอด และถ้าเจอจังหวะ ผมพร้อมปิดเกมทันที อยากกลับมาเอาชนะน็อกให้ได้อีกครั้งครับ”
“นี่เป็นไฟต์สำคัญสำหรับผมมาก ผมตั้งเป้าเก็บชัยชนะ 5 ไฟต์ติดให้ได้ ถึงจะมั่นใจในพละกำลังและสภาพจิตใจตอนนี้ แต่ผมจะไม่ประมาทเด็ดขาดครับ”
ติดตาม “วาลิด vs ขุนพลน้อย” ศึก ONE ลุมพินี 119 ถ่ายทอดสดจากสนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา) วันศุกร์ที่ 8 ส.ค.นี้ แฟนกีฬาการต่อสู้ชาวไทยสามารถจองบัตรเข้าชมในสนามผ่านทาง THAI TICKET MAJOR คู่แรกเริ่มเวลา 19.30 น. และรับชมทางช่องทางต่าง ๆ ดังนี้
ช่อง 7HD กด 35 (ภาษาไทย) เริ่ม 20.30 น.
เฟซบุ๊ก ONE Championship Thailand เริ่ม 19.30 น.
ยูทูบ ONE Championship (บางประเทศ) เริ่ม 19.30 น.
Watch.ONEFC.com (บางประเทศ) เริ่ม 19.30 น.