รวบเครือข่ายแอดเฟซบุ๊กตีซี้หลอกลงทุนอสังหาเสียหายกว่า 1.1 ล้าน อายัดทัน 1.3 แสน นำคืนผู้เสียหาย

วันที่ 6 ส.ค.68 ที่ บก.สอท.2  พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท., พล.ต.ต.อรรถสิทธิ์ สุดสงวน รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์
รอง ผบช.สอท. พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผบก.สอท.1, พล.ต.ต.ศรายุทธ จุณณวัตต์ ผบก.สอท.2 และ พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผบก.สอท.3 พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมแถลงข่าว  “MONEY CASH BACK ปิดบัญชี ตามล่าม้าคว้าเงินคืน EP.25” ตำรวจไซเบอร์รวบเครือข่ายแอดเฟสบุ๊คตีซี้หลอกลงทุนอสังหา เสียหายกว่า 1.1 ล้าน อายัดทัน 1.3 แสน นำคืนผู้เสียหาย

พล.ต.ต.ศิริวัฒน์  กล่าวว่าตามนโยบายของรัฐบาล ได้กำหนดนโยบายในการเร่งแก้ปัญหาอาชญากรรมออนไลน์เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประชาชน โดย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร., พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร., พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รอง ผบ.ตร. ในฐานะ ผอ.ศปปง.ตร. พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จตช. ในฐานะ ผอ.ศปอส./ผอ.ศตคม.ตร. และ พล.ต.ท.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะ รอง ผอ.ศปอส.ตร. ได้สั่งการให้ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. นำเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดสืบสวนจับกุมผู้ต้องหาที่กระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมออนไลน์และดำเนินคดีให้ถึงที่สุด จนนำมาสู่ปฏิบัติการดังกล่าว สืบเนื่องจาก พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดดำเนินการตามโครงการ “MONEY Cash Back ปิดบัญชี ตามล่าม้า คว้าเงินคืน” โดยก่อนหน้านี้ สามารถจับกุมเครือข่ายบัญชีม้าของขบวนการหลอกลวงออนไลน์ และสามารถติดตามนำคืนให้แก่ผู้เสียหายตามขั้นตอนในโครงการ “MONEY CASH BACK” ไปแล้วหลายครั้ง รวมจำนวนเงินกว่า 230.5 ล้านบาท 

ล่าสุด ได้มีคนร้ายใช้เฟซบุ๊กโปรไฟล์หน้าตาดีขอเพิ่มเพื่อนในบัญชีเฟซบุ๊กผู้เสียหาย เมื่อผู้เสียหายกดรับเป็นเพื่อน คนร้ายจึงเริ่มแชทหาทำทีเป็นสนใจสินค้าไม้แกะสลักที่ผู้เสียหายเปิดร้านค้าขายอยู่ ต่อมาคนร้ายได้ขอแอดไลน์แล้วได้ชวนพูดคุยตีสนิทจนทำให้ผู้เสียหายเชื่อใจ จากนั้นคนร้ายเริ่มชักชวนให้ลงทุนซื้อขายอสังหาริมทรัพย์เพื่อเก็งกำไร โดยคนร้ายพยายามส่งรูปการฝากเงินที่คนร้ายได้กำไรจากการลงทุนดังกล่าว กระทั่งผู้เสียหายหลงเชื่อและได้โอนไปเงินลงทุนทั้งหมด 6 ครั้ง รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 1,130,000 บาท

จากกรณีดังกล่าว กก.2 บก.สอท.2 ได้รวบรวมพยานหลักฐานและสืบสวนติดตามจับกุมผู้ต้องหาในขบวนการได้แล้วบางส่วน โดยดำเนินคดีในข้อหา “'เป็นผู้สนับสนุนในการกระทำความผิดฐานฉ้อโกง โดยแสดงตนเป็นคนอื่น, โดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่บุคลคลใดบุคคลหนึ่ง หรือเปิดหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์หรือบัญชีอิเล็กทรอนิกส์ของตน โดยมิได้มีเจตนาใช้เพื่อตนหรือเพื่อกิจการที่ตนเกี่ยวข้อง ทั้งนี้โดยประการที่รู้หรือควรรู้ว่าจะนำไปใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือความผิดทางอาญาอื่นใด”

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถประสานงานธนาคารเพื่ออายัดเงินในบัญชีธนาคารของ นายศรีวงค์ฯ หนึ่งในผู้ต้องหาไว้ได้ ซึ่งผู้เสียหายได้โอนเข้าบัญชีดังกล่าวเพื่อลงทุนตามที่ถูกหลอก จำนวน 1 ครั้ง เป็นเงิน 250,000 บาท ซึ่งอายัดได้ทันจำนวน 130,168 บาท และภายหลังรับทราบข้อกล่าวหา นายศรีวงค์ฯ ผู้ต้องหา ให้ถ้อยคำว่า ตนเองไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเงินที่อายัดไว้ ไม่โต้แย้งในกรรมสิทธิ์ และยินยอมให้เจ้าหน้าที่ตำรวจส่งมอบเงินในบัญชีตามจำนวนดังกล่าวคืนให้แก่ผู้เสียหายจำนวน 130,168 บาท คืนให้แก่ผู้เสียหาย ตามโครงการ “MONEY Cash Back ปิดบัญชี ตามล่าม้า คว้าเงินคืน”