วันที่ 6 ส.ค. 2568 เวลา 10.30 น.ที่รัฐสภา นาวาตรีวุฒิพงศ์ พงศ์สุวรรณ สว.พร้อมด้วยน.ส.นันทนา นันทวโรภาส สว. ร่วมกันแถลงกรณีรวบรวมรายชื่อ สว.ไม่น้อยกว่า 1 ใน 10 ของจำนวนทั้งหมด หรือคือ 20 คน ลงชื่อในหนังสือ เพื่อยื่นถึงประธานวุฒิสภา ขอให้ส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญเพื่อพิจารณาวินิจฉัย ดังนี้ 1. ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยให้สมาชิกภาพของการเป็น สว. ทั้ง 136 คน สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 111 (7) ประกอบมาตรา 113
และ 2. ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้ สว. ทั้ง 136 คน หยุดปฏิบัติหน้าที่เป็นการชั่วคราว จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย หรืออย่างน้อยให้หยุดปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวกับการให้ความเห็นชอบบุคคลดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ กรรมการองค์กรอิสระ ตุลาการศาลปกครองสูงสุด และผู้ดำรงตำแหน่งระดับสูงอื่นๆ ไว้ก่อน จนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัย
โดยนาวาตรีวุฒิพงษ์ กล่าวว่า ในนามของกลุ่มอิสระ หรือที่เรียกตัวเองว่า non blue จำนวนอย่างน้อย 50 กว่าท่าน มีความคิดเห็นร่วมกัน ว่าเหตุการณ์ที่ผ่านมานั้น ปรากฏข้อเท็จจริงและพฤติการณ์จากการสืบสวนของกรมสอบสวนคดีพิเศษ และคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่ปรากฏตามสื่อมวลชนทั่วไป ให้เห็นว่า สว.จำหนวนหนึ่งตามรายชื่อ มีมูลกระทำอันเป็นการทุจริตการเลือกตั้ง สว. พ.ศ. 2567 หรือที่เรียกกันว่าฮั้ว สว. ทำให้การเลือกตั้งไม่สุจริตและเป็นธรรม
อย่างไรก็ตาม ความเป็นจริงเหลือนี้ยังได้พิสูจน์ทราบ แต่เรื่องราวต่างๆ ได้ทำการสืบสวนและไต่สวนในอนุกรรมการของ กกต. ชุดที่ 26 เรียบร้อยแล้ว ขณะนี้ เรื่องอยู่ที่ กกต.ในการดำเนินการต่อไป เนื่องจากมีข้อกังวล ซึ่งตนขออ้างพยานหลักฐานต่อไปนี้ ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งเรียกสำนวนต่อไปนี้มาสืบสวนต่อไป คือ 1. สำนวนการสอบสวนคดีพิเศษที่ 24/2568 ของกรมสอบสวนคดีพิเศษ ในประเด็นที่เกี่ยวกับการดำเนินของพรรคการเมืองหนึ่ง ที่เกี่ยวข้องกับการกำหนดตัวบุคคล ที่ได้รับเลือกเป็น สว.
2.อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือรองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ที่ได้รับมอบหมาย 3.รายงานการสืบสวนและไต่สวนของคณะกรรมการสืบสวน คณะที่ 26 4.ประธานการสืบสวนสวนและไต่สวน หรือรองประธาน หรือกรรมการที่ได้รับมอบหมาย 5.เส้นทางการเงิน ค่าใช้จ่ายของพรรคการเมืองนั้น ในกระบวนการแทรกแซงการเลือกตั้ง สว. ปี 67 ดังที่ ประชาชนทั้งหลายได้รับทราบทั่วไป
"ถึงกับบางคนบอกว่า เห็นได้ชัดเจน แม้กระทั่งอยู่บนดาวอังคารยังเห็นเลยว่า มีกระบวนการที่ไม่ชอบมาพากล เป็นเหตุแห่งความทุกข์ของบรรดา สว.อิสระทั้งหมดที่ไปตามท้องตลาด ก็มีคนซักถามว่า สว.ฮั้วหรือไม่ เพื่อนฝูงโดนติฉินนินทา โลกวัชชะ หรือโลกติเตียน เป็นจำนวนมาก ดังนั้น สว.จำนวนหนึ่ง ที่ไม่ต่ำกว่า 30 คน จึงร่วมกันลงลายมือชื่อ" นาวาตรีวุฒิพงษ์ กล่าว
นาวาตรีวุฒิพงษ์ กล่าวว่า การรวบรวมรายชื่อในครั้งแรกว่า อาจจะมีการพูดคุยกันน้อยไปหน่อย จึงไม่สามารถรวบรวมได้ถึง 20 ชื่อ ส่วนเหตุผลที่ทำไมเราจึงทำเช่นนี้ หากถามว่าเรามีความรักความผูกพันกับเพื่อน สว.หรือไม่ ตนตอบได้เลยว่ามี เพราะหลายท่านก็เป็นคนดี มีฝีมือ มีน้ำใจ แต่วันนี้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้สังคมติเตียน สว.เป็นส่วนใหญ่ ถ้าเป็นไปได้ก็ทำเรื่องนี้ให้เคลียร์ ให้ชัดเจน ในการเร่งดำเนินคดีให้เสร็จเรียบร้อย ไม่มีการดึง หรือถ่วงรั้งเวลาไว้ จึงจะเป็นเรื่องที่เหมาะสม ให้ทุกคนได้ไปทำงานอย่างเต็มที่ ไม่ต้องมานั่งกังวลแบบเดิมอีกต่อไป
”จำนวน สว.ที่ลงชื่อ 30 คนบวกลบขณะนี้ ไม่น่าเป็นห่วง มีโทรศัพท์เข้ามาทุกวัน อยากได้อะไร อยากให้ทำอะไร ทำได้หมดทุกอย่าง แต่สิ่งที่ทำไม่ได้ คือให้ความยุติธรรมกับประชาชนที่ถูกขโมยไป ทั้งนี้ เพื่อความปลอดภัยต่อชีวิตของ สว.ทั้งหลาย ท่านไม่กลัวหรือ ไม่สามารถเปิดเผยชื่อ สว.ที่ร่วมลงชื่อได้” นาวาตรีวุฒิพงษ์ กล่าว
ด้านน.ส.นันทนา กล่าวเสริมว่า กระบวนการของ กกต.อาจใช้เวลาถึง 8 เดือน หรือเสร็จสิ้นในช่วงเดือนมีนาคม ปี 69 หากยังปล่อยให้กระบวนการเห็นชอบผู้ดำรงตำแหน่งดำเนินต่อไป สว. จะสามารถเลือก กกต. เข้าไปเพิ่ม ได้อีก 4 คน ศาลรัฐธรรมนูญเพิ่มไปอีก 1 คน ซึ่งบุคคลเหล่านี้ก็จะเป็นผู้วินิจฉัยตัดสินคดีที่ สว. 138 คน ถูกแจ้งข้อกล่าวหาอยู่ และคดีที่ค้างใน กกต. ก็จะถูกวินิจฉัยโดย กกต.ที่ได้รับเลือกจาก สว. ที่ถูกแจ้งข้อกล่าวหาเหล่านี้ และท่านทั้งหลายคงเกิดความแคลงใจ ถึงผลคำวินิจฉัยที่จะออกมาว่าจะเป็นคุณกับฝ่ายใด ประกอบกับในขณะนี้ เริ่มมีการนำกลไกจริยธรรมดำเนินการกับผู้เห็นต่าง เช่น การร้องเรียนจริยธรรม สว.เสียงข้างน้อยหลายราย รวมถึงตนเองด้วยอย่างไม่สมเหตุสมผล
ทั้งยังมีการกีดกันพยาน เพื่อนำไปสู่การลงมติเอาผิดด้วยเสียงข้างมากในวุฒิสภา และนำส่งคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ต่อไป ขณะที่คำร้องของ สว.สีน้ำเงิน ไม่เคยถูกหยิบยกเข้ามาพิจารณาในกรรมการจริยธรรมวุฒิสภาเลย ดังนั้น หากปล่อยให้วุฒิสภามีพฤติการณ์เช่นนี้ต่อไป ย่อมส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์ฝ่ายนิติบัญญัติ และทำลายความเชื่อมั่นต่อองค์กรอิสระทั้งปวง
"กราบเรียนไปยังประธานวุฒิสภา เพื่อโปรดนำส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญโดยพลัน พวกเราหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ท่านประธานวุฒิสภา จะใช้มาตรฐานเดียวกับการที่ได้รับคำร้องของ สว.เสียงข้างมากในตอนเช้า และดำเนินการส่งไปยังศาลรัฐธรรมนูญในตอนบ่ายทันที จะหวังว่าเราจะได้มาตรฐานเดียวกัน เช่นเดียวกับที่ท่านได้ปฏิบัติกับ สว.เสียงข้างมาก" นางสาวนันทนา กล่าว
นางสาวนันทนา กล่าวต่อว่า การทำหน้าที่ของ สว.หากเป็นการสั่งหยุดปฏิบัติโดยศาลรัฐธรรมนูญ การทำหน้าที่ของ สว.ในวุฒิสภาที่เหลือ ก็สามารถดำเนินการต่อไปได้ เป็นองค์ประชุม ถือว่าเป็นคำสั่งให้ปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว และหลังจากที่มีคำวินิจฉัยแล้ว จึงจะมีการดำเนินการเลื่อน สว.สำรองขึ้นมา
น.ส.นันทนา กล่าวเสริมอีกว่า มีปฏิบัติการคลื่นใต้น้ำการคุกคามและโทรศัพท์มาเจรจาต่อรองให้ถอนชื่อออกตลอดทั้งคืน จึงขอให้มั่นใจว่า ประธานวุฒิสภาส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญแล้วเท่านั้น ก็ยินดีที่จะเปิดเผย แต่ขอให้ปฏิบัติการคลื่นใต้น้ำนั้น ไม่สามารถมาบล็อกเราได้ก่อน เพราะขนาดนาวาตรีวุฒิพงศ์ ยังเกือบถูกชกหน้า ที่หน้าห้องประชุมสภา แต่มี นพ.วีระพันธุ์ สุวรรณามัย สว.ช่วยกันไว้ ถือเป็นปฏิบัติการทางร่างกาย และวาจาด้วย
จากนั้นเวลา 12.00 น.ทางกลุ่ม non blue ได้ยื่นหนังสือกับกลุ่มงานรับเรื่องราวร้องทุกข์ สำนักงานงานประธานวุฒิสภา เพื่อนำไปตรวจสอบความถูกต้องก่อนที่จะยื่นศาลรธน.ต่อไป