ร้านค้า ปั้มน้ำมัน ธนาคาร ในอำเภอบ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ เริ่มกลับมาเปิดให้บริการและค้าขาย หลังได้รับผลกระทบสู้รบชายแดนต้องปิดอพยพออกจากพื้นที่กว่า 10 วัน ทำขาดรายได้ซ้ำของเน่าเสียหายยับ  แม่ค้าต่างคาดหวังประชุม GBC จะเป็นทางออกให้ยุติสู้รบชายแดนไทย-กัมพูชา    แต่ยังแอบกังวลเขมรไร้สัจจะอาจตลบโจมตีไทย  วอนชาติอื่นอย่าฉวยโอกาสแทรกแซงหาประโยชน์

 

 

วันที่ 4 ส.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า ผู้ประกอบการร้านค้า   สถานีบริการน้ำมัน   ธนาคาร  และพ่อค้าแม่ค้าในตลาดเทศบาลตำบลบ้านกรวด  อำเภอบ้านกรวด  จังหวัดบุรีรัมย์   ซึ่งเป็นอำเภอที่อยู่ติดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา  และได้รับผลกระทบจากการสู้รบ   เริ่มกลับมาเปิดให้บริการ และทำการค้าขายสินค้า  อาหาร  พืชผัก  ผลไม้กันแล้ว    หลังต้องอพยพออกจากพื้นที่เสี่ยงภัย ไปอยู่ศูนย์พักพิงและบ้านญาติเพื่อความปลอดภัยนานกว่า 10 วัน  ทำให้ขาดรายได้   ขณะที่บางร้านโดยเฉพาะอาหารสด  พืชผัก  ผลไม้  ที่สั่งของมาไว้แล้วต้องอพยพหนีด่วนตั้งแต่วันแรกที่มีการสู้รบ   ก็ทำให้อาหารสด  พืชผัก  ผลไม้เน่าเสียหายจำนวนมาก   ทางผู้ประกอบการ และพ่อค้าแม่ค้า  จึงตัดสินใจกลับมาเปิดร้านค้าขายอีกครั้ง  แม้สถานการณ์จะยังไม่ปกติดี และทางการยังไม่ได้ประกาศให้กลับเข้าพื้นที่ก็ตาม    แต่หลายคนก็ต้องยอมเสี่ยงเพราะต้องทำมาหากินเลี้ยงครอบครัว และมีภาระหนี้สินที่ต้องรับผิดชอบ   

 

โดยพ่อค้าแม่ค้าส่วนใหญ่  ก็คาดหวังว่าการประชุม GBC ที่ประเทศมาเลเซียครั้งนี้   จะเป็นทางออกให้ทั้งสองประเทศยุติการสู้รบกัน   เพื่อไม่ให้กระทบกับประชาชน    แต่ก็แอบกังวลว่าหลังจากเจรจาแล้ว  กัมพูชาจะไม่ทำตามข้อตกลง และจะตลบหลังโจมตีไทยอีก     เพราะที่ผ่านมากัมพูชาเป็นฝ่ายละเมิดข้อตกลงมาตลอด    และอีกอย่างก็ไม่มั่นใจในรัฐบาลด้วย  เกรงว่าการเจรจาจะทำให้ไทยเป็นฝ่ายเสียเปรียบกัมพูชา  เพราะรัฐบาลไม่เข้มแข็งเด็ดขาด

แต่หากประชุมเจรจากันครั้งนี้   มีแนวโน้มจะทำให้ไทยเสียเปรียบหรือสุ่มเสี่ยงจะเสียดินแดน  ก็ไม่อยากให้มีการเจรจา  ก็รบกันให้รู้แพ้ชนะไปเลย   เพราะประชาชนเชื่อมั่นใจความสามารถของทหารหาญ และยุทโธปกรณ์   ซึ่งที่ผ่านมาทหารก็ดูแลปกป้องประชาชนและประเทศชาติอย่างเข้มแข็งมาตลอด แต่ไม่เชื่อมั่นรัฐบาลมากกว่า  

ทั้งนี้ แม่ค้ายังฝากถึงประชาคมโลก  ที่มาสังเกตการณ์เหตุสู้รบชายแดน  ได้แสดงความเป็นกลางและให้ความเป็นธรรมกับไทยด้วย   ที่ถูกกัมพูชายิงอาวุธเข้ามาในพื้นที่พลเรือนทำให้มีผู้บริสุทธิ์เสียชีวิตบาดเจ็บจำนวนมาก   ทั้งอยากวิงวอนให้ชาติอื่นๆ อย่าฉวยโอกาสสถานการณ์เหตุไม่สงบระหว่างไทย-กัมพูชา เข้ามาแทรกแซงเพื่อหาประโยชน์  หรือทำให้สถานการณ์บานปลายมากกว่านี้  

อย่างไรก็ตาม แม่ค้า และประชาชนส่วนใหญ่ต่างก็อยากให้สถานการณ์เป็นปกติโดยเร็ว  จะได้กลับไปใช้ชีวิต และทำมาหากินได้ตามปกติ  ไม่ต้องใช้ชีวิตด้วยความหวาดระแวงแบบนี้