คดีหนุ่มกาญจน์ ร้องกองปราบ ถูกตำรวจทำเกินเหตุใช้อาวุธปืนยิงใส่ 2 นัดจนได้รับบาดเจ็บที่เท้า ผู้การตำรวจฯ สั่งสอบข้อเท็จจริง ด้าน สว.หน.ชุดจับกุมที่ถูกร้อง ยัน คืนเกิดเหตุ หนุ่มผู้ร้องใช้อาวุธปืนกวักเรียกโดยไม่รู้ว่าเป็นตำรวจแถมขี่รถ จยย.ไล่กวดยิงใส่ ตำรวจจึงต้องยิงป้องกันตัวคดีอยู่ในระหว่างดำเนินการของพนักงานสอบสวน สภ.เมืองกาญจนบุรีในข้อหาพยายามฆ่าเจ้าพนักงานขณะปฎิบัติหน้าที่ จากกรณีนายเอิร์ด ได้เข้าแจ้งความกับะนักงานสอบสวน สภ.เมืองกาญจนบุรี เมื่อวันที่ 16 ม.ค.62 ว่าถูกนายดาบตำรวจชาคริ ทองคง อายุ 37 ปี ผบ.หมู่ กก.สส.ภ.จว.กาญจนบุรี กระทำเกินกว่าเหตุ และพยายามฆ่า โดยใช้อาวุธปืนสั้นประจำกายยิงใส่จนได้รับบาดเจ็บที่ข้อเท้า เหตุเกิดเมื่อคืนวันที่ 15 ม.ค.62 เวลาประมาณ 22.00 น.เหตุเกิดบนถนนสายลิ้นข้าง-บ้านเขาปูน หมู่ 3 ต.หนองหญ้า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี เกี่ยวกับคดีนี้ พล.ต.ต.สุวิทย์ ชาวศรีทอง ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง โดยยืนยันจะให้ความเป็นธรรมกับทั้ง 2 ฝ่าย โดยสั่งการให้ พ.ต.อ.ชูศักดิ์ ศรีวงษ์ชัย ผกก.กก.สส.ภ.จว.กาญจนบุรี ทำการสอบสวนข้อเท็จจริงถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นในคืนเกิดเหตุ โดยได้เรียกตัวดาบตำรวจชาคริ ทองคง ผบ.หมู่ กก.สส.ภ.จว.ฯ เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ประสบเหตุ พร้อมด้วย พ.ต.ท.กาจภณ ปฐมัง รอง ผกก.สส.ภ.จว.ฯ และ พ.ต.ต.เกริก เสนาะสำเนียงหน.ตำรวจชุด กก.สส.ที่อยู่ในเหตุการณ์คืนเกิดเหตุ โดยดาบตำรวจชาคริ เปิดเผยเรื่องราวที่เกิดขึ้นในคืนเกิดเหตุต่อหน้าสื่อมวลชนว่า คืนเกิดเหตุเวลาประมาณ 4 ทุ่ม ตนพร้อมกับตำรวจชุด กก.สส.ฯ ได้รับคำสั่งจาก พ.ต.ต.เกริก เสนาะสำเนียงสว.กก.สส.ฯ ซึ่งเข้าเวรปฎิบัติหน้าที่ในคืนนั้นให้ตนขี่รถ จยย.ทำทีเป็นชาวบ้านไปตามถนนเลียบริมทางรถไฟด้านหลังร้านเป็ดย่างเกลือ หมู่ 3 ต.หนองหญ้า อ เมืองฯ เนื่องจากได้รับการร้องเรียน และมีชาวบ้านแจ้งความร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองฯ ว่า เด็กวัยรุ่นและขาวบ้านที่ขับขี่รถ จยย.ผ่านเส้นทางดังกล่าว มักจะถูกวัยรุ่นมช้อาวุธปืนยิงข่มขู่อยู่เป็นประจำ พ.ต.ต.เกริก เสนาะสำเนียง หน.ชุดฯ จึงได้สั่งการให้ตนขี่รถ จยย.ไปเป็นเหยื่อล่อ โดย พ.ต.ต.เกริก พร้อมตำรวจชุด กก.สส.ฯ จะขับรถยนต์ตามไป ขณะที่ตนกำลังขี่รถไปตามถนนสายดังกล่าว มาถึงบ้านหลังหนึ่งได้มีกลุ่มวัยรุ่นนั่งกินเหล้าอยู่หน้าบ้าน พอเห็นตนขี่รถ จยย.มา ก็มีผู้ชาย 2 คน เดินออกมาพร้อมทั้งใช้อาวุธปืนกวักเรียกตนให้หยุดรถ โดยที่ไม่รู้ว่า ตนเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตนไม่สนใจจึงขี่รถต่อไปเรื่อยๆ ผู้ชายทั้ง 2 คนมาทราบชื่อภายหลังว่าขื่อนายเอิร์ด กับนายเต้ย นายเอิร์ด เมื่อเห็นตนไม่ยอมหยุดรถ จึงวิ่งมาและใช้อาวุธปืนชี้มาด้านหลังของตน ตนจึงขี่รถต่อไปเรื่อยๆ นายเอิร์ด จึงใช้อาวุธปืนยิงใส่ตามหลังมาทันที 1 นัด ตนได้ขับขี่รถ จยย.ขึ้นถนนใหญ่พอมาถึงหน้า รร.วัดเขาปูน หมู่ 1 ต.แากแพรก อ.เมืองฯ โดยมีนายเอิร์ด และนายเต้ย ขี่รถ จยย.นั่งซ้อนท้ายไล่กวดติดตามมา ทำให้รถของตนเกิดเสียหลักล้มคว่ำ นายเอิร์ด พยายามจะใช้อาวุธปืนยิงใส่อีก นายเต้ยร้องบอกนายเอิร์ดว่า ตนเป็นตำรวจ ตนจึงชักอาวุธปืนสั้นประจำกายยิงขู่ขึ้นฟ้า จำนวน 2 นัด​ ทำให้นายเอิร์ดและนายเต้ยตกใจ รีบขี่รถหลบหนี ด้วยความรีบร้อนทำให้นายเต้ย ซึ่งนั่งซ้อนท้ายถึงกลับผลัดตกจากรถ และวิ่งหลบหนีไปซ่อนตัวอยู่ในพงหญ้าฝั่งตรงข้ามกับ รร. ส่วนนายเอิร์ด ได้จี่รถ จยย.หลบหนีไป และเป็นเวลาเดียวกันกับที่ พ.ต.ต.เกริก และตำรวจชุด กก.สส.ฯ เดินทางมาถึงเมื่อทราบเรื่อง จึงได้กระจายกำลังปิดล้อม และสามารถจับกุมตัวนายเต้ย เอาไว้ได้นำตัวไปสอบสวนปากคำ ซึ่งนายเต้ย ได้ยอมรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาว่า ได้ร่วมกับนายเอิร์ด ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงเจ้าหน้าที่ตำรวจจริง ซึ่งนายเต้ย ได้ถูกส่งตัวให้แก่พนักงานสอบสวน สภ.เมืองกาญจนบุรี เพื่อสวบสวนปากคำดำเนินตฝคดีแล้ว ส่วนนายเอิร์ด พนักงานสอบสวนได้ขออนุมัติหมายจับจากศาลจังหวัดกาญจนบุรี เพื่อออกหมายจับและทำการจับกุมตัวส่งดำเนินคดีในข้อหาพยายามฆ่าเจ้าพนักงานขณะปฎิบัติหน้าที่ และพกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต คดีอยู่ในชั้นสอบสวน ต่อมานายเอิร์ด ได้ประกันตัวออกมา และพร้อมด้วยญาติๆ ได้พากันเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองกาญจนบุรี รวมทั้งร้องเรียนกับสื่อมวลชนว่า ตำรวจกระทำเกินกว่าเหตุ เมาารายิงชาวบ้าน และพยายามฆ่าดัวกล่าว จนกระทั่งในเวลาต่อมานายเอิร์ด พร้อมด้วยญาติๆ ได้พากันเข้าร้องกองปราบที่กรุงเทพฯ