วันที่ 2 ส.ค.68 ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ บรรยากาศการชุมนุมใหญ่ “ส่งกำลังใจ รวมพลังแผ่นดิน จากแนวหลังสู่แนวหน้า” ของคณะรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตย ได้เริ่มต้นขึ้นในเวลา 10.00น. โดยตั้งแต่ช่วงเช้า ผู้ร่วมชุมนุมจากหลากหลายอาชีพทยอยเดินทางเข้ามาจับจองที่นั่งรอฟังการปราศรัยจากแกนนำบนเวทีปราศรัย ซึ่งมีการตั้งเวทีที่เกาะกลางบริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ หันหน้าออกไปทาง ถ.พหลโยธิน นอกจากนี้ ยังได้มีการตั้งจุดเปิดรับบริจาคสิ่งของและเงินบริจาคซึ่งจะมีการนำไปมอบให้กับเจ้าหน้าที่ทหารแนวหน้าด้วยที่บริเวณป้ายรถเมล์ ฝั่งมุ่งหน้าไปแยกราชปรารภล โดยมีกำลัง ตำรวจจากกองบัญชาการตำรวจนครบาล เจ้าหน้าที่สำนักงานเขตราชเทวี เทศกิจ และเจ้าหน้าที่หน่วยอีโอดี กว่า1,000นาย พร้อมสุนัขตำรวจ มาตรวจสอบความปลอดภัยและความเรียบร้อยโดยรอบพื้นที่ชุมนุม
กระทั่งเวลา 12.00น. กิจกรรมการชุมนุมเริ่มคึกคักมีประชาชนแนวร่วมซึ่งส่วนใหญ่สวมเสื้อพิมพ์ข้อคงาม"ไทยนี้รักสงบ แต่ถึงรบไม่ขนาด" หรือไม่ติดสัญลักษณ์ธงชาติไทย หรือนำธงชาติมาส่งกำลังใจให้เจ้าหน้าที่แนวหน้าที่ทำหน้าที่ในสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา มาปูเสื้อนั่งนอฟังการปราศรัยที่กลางถนน วงเวียนอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ฝั่งถนนพหลโยธิน กินพื้นที่ประมาณ 2 เลน ขณะที่เวทีปราศรัยมีแกนนำบางส่วนได้ทยอยขึ้นปราศรัยเปิดเวที โดยเน้นย้ำการแสดงจุดยืนเหมือนการชุมนุมในครั้งที่ผ่านมา 3 ข้อ คือ ข้อเรียกร้องเดิมคือ 1. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ต้องลาออกจากตำแหน่ง ไม่ต้องรอให้ศาลฯ ตัดสิน 2. พรรคร่วมรัฐบาล ถอนตัวจากรัฐบาลทันที และ 3.การแสดงจุดยืนปกป้องอธิปไตยจากกองทัพกัมพูชาของประชาชนไทย สลัลกับการเล่นดนตรีสร้างความผ่อนคลาย ท่ามกลางสภาพอากาศที่ร้อนจัด