วันที่ 1 ส.ค.68 ที่อาคารไอราวัตพัฒนา ศาลาว่าการกทม.2 ดินแดง นายวิพุธ ศรีวะอุไร ประธานสภากรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุมสภากรุงเทพมหานคร สมัยประชุมสามัญ สมัยที่สาม (ครั้งที่ 5) ประจำปี 2568 โดยมีนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯกทม. นายจักกพันธุ์ ผิวงาม นายวิศณุ ทรัพย์สมพล นายศานนท์ หวังสร้างบุญ น.ส.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าฯกทม. คณะผู้บริหารกทม. สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) และผู้เกี่ยวข้อง เข้าร่วม ซึ่งวันนี้เป็นการประชุมสภากทม.ต่อเนื่องเป็นวันที่ 3
ก่อนเข้าสู่วาระการอภิปราย แสดงข้อกังวล ข้อเสนอแนะ และข้อสังเกต ญัตติร่างข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 เป็นวันที่ 2 นายพีรพล กนกวลัย ส.ก.เขตพญาไท ลุกขึ้นใช้สิทธิพาดพิงถึงการอภิปรายเมื่อวันที่ 31 ก.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งมีการพูดถึงงบประมาณของสำนักงานเลขานุการสภากรุงเทพมหานคร ที่เสนอขอจัดสรรงบประมาณในการปรับปรุงสภากรุงเทพมหานคร คือ อาคารไอราวัตพัฒนา 4 โครงการ เช่น ปรับปรุงหลังคา แอร์ พื้นที่ และทำห้องสมุดเพิ่ม
โดยกล่าวว่า แม้ฝ่ายบริหารคำนวณราคาตามมาตรฐานและไม่ได้เกี่ยวข้องกับกรรมการโดยตรง แต่การกล่าวหาเรื่องจิตสำนึกของสมาชิกสภาฯ นั้นเกินเลย และอาจเป็นคดีความในอนาคตได้ ยืนยันว่า การตรวจสอบงบประมาณคือหน้าที่ตามกฎหมาย ไม่ใช่ต้นเหตุของการทุจริต ย้ำว่าหากไม่มีเจตนาโกง ก็ไม่ควรกล่าวหากันลอย ๆ
ด้านนายชัชชาติ กล่าวว่า การกล่าวหาบางประเด็นอาจมีถ้อยคำรุนแรง แต่ตนยืนยันว่าไม่เคยดูถูกประชาชน หรือมีเรื่องเงินทอน โครงการต่าง ๆ ที่เข้าสู่ระบบงบประมาณ ต้องผ่านการเสนอจากหน่วยงานและได้รับการกลั่นกรองจากสำนักงบประมาณ ไม่ใช่ความต้องการส่วนตัวของผู้ว่าฯ พร้อมยกตัวอย่างโครงการงบลงทุนที่ถูกตัดออกจำนวนมาก รวมถึงโครงการปรับปรุงสภาฯ ที่สมาชิกอภิปรายเรื่องแอร์ไม่เย็นหลายครั้ง ซึ่งมีตัวแทนจากทุกพรรคร่วมพิจารณา
ทั้งนี้ โครงการที่สำนักเลขานุการฯ เสนอมาถูกตัดงบออกไปถึง 82 ล้านบาท และยังอยู่ในวาระที่1 ต้องพิจารณารายละเอียดอีกหลายชั้น พร้อมระบุว่าไม่มีใครรับทรัพย์ฉ่ำฉ่ำ ตามที่ถูกกล่าวหา
ขณะที่ นางสาวภัทราภรณ์ เก่งรุ่งเรืองชัย ส.ก.เขตบางซื่อ กล่าวว่า ได้ทำหน้าที่ในการอภิปรายอย่างเต็มที่และรองผู้ว่าฯ นั่งกันอยู่ไม่มีใครลุกขึ้นชี้แจงอะไร แต่ผู้ว่าฯกทม. กลับออกไปชี้แจงข้างนอกเป็นคลิป แต่ตนให้เกียรติผู้ว่าฯ ด้วยการไม่ไปชี้แจงข้างนอก
โครงการนี้มาจากคณะกรรมการกิจการสภา ซึ่งเป็นหน้าที่ที่ดูแลอาคารนี้อยู่แล้วแต่คนเขียนโครงการเป็นสำนักการโยธาและสำนักวัฒนธรรม การท่องเที่ยวและกีฬา (สวท.) เมื่อเสนอราคาโอเวอร์ไป ต้องผ่านสำนักอีกครึ่ง ซึ่งสำนักงบประมาณ (สงม.) อยู่ภายใต้การดูแลของผู้ว่าฯกทม. และผู้ว่าฯกทม. ยังเป็นผู้ลงนามโครงการนี้ ดังนั้นจะปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ส่วนเรื่องราคาสูงตั้งไปก่อนแล้ว แต่ขณะนี้ยังไม่จัดซื้อจัดจ้าง ตนเชื่อว่าสามารถเผื่อราคาไว้ได้หลายรายการ
“สิ่งที่ผู้ว่าฯยืนยันว่าไม่ได้มีการทุจริต คิดว่าตรงนี้ใครก็พูดได้ แต่สิ่งที่ต้องพิสูจน์คือการกระทำ แบบก่อสร้างมาจากทางสำนัก ราคาต่าง ๆ ก็เป็นราคาตลาด ที่อาจจะเผื่อกันได้เล็กน้อย หากคาดหวังว่าเมื่อมีการประมูลแล้วราคาจะลดลงเกินกว่า 50% มองว่าเรื่องนี้จะเป็นการลอยตัวของการทุจริตของข้าราชการไป หากจะโยนไปทางนั้น” ส.ก.เขตบางซื่อ กล่าว
ส่วน นายณภัค เพ็งสุข ส.ก.เขตลาดพร้าว ตั้งขอสังเกตงบประชาสัมพันธ์ สำนักปลัดกรุงเทพมหานคร ปีงบ69 ยอดรวม 106,740,000 บาท ซึ่งยอดดูสูงมาก จากการจัดสรรงบประชาสัมพันธ์ ปีงบ66-69 มียอดรวม 376,146,050 บาท แต่ปีงบ69 เพียงปีเดียว 106 ล้านบาท จึงตั้งข้อสังเกตผู้ว่าฯกทม. จะลงสมัครเลือกตั้งสมัยหน้าหรือไม่
โดยในจำนวนนี้เป็นการประชาสัมพันธ์นโยบาย 9 ด้าน 9 ดี ยอด 56 ล้านบาท แยกเป็นสื่อออนไลน์ล้วน ๆ 24 ล้านบาท โดยจ้างกองทัพอินฟลูฯ ที่มียอดผู้ติดตาม ไม่น้อยกว่า 1 ล้านคน ในช่องทาง ยูทูป ติ๊กตอก ต้องมีผู้ติดตาม 5 แสนคนขึ้นไป เฟซบุ๊ก ต้องมีผู้ติดตาม 1 ล้านคนขึ้นไป
นอกจากนี้ยังมีโครงการเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจและส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชน โดยกำหนดให้เผยแพร่ผ่านสื่อโทรทัศน์ วิทยุและสื่อออนไลน์ วงเงิน 14,400,000 บาท จึงต้้งข้อสังเกตเป็นการทิ้งทวนหรือเป็นงบหาเสียงหรือไม่ เพราะระยะเวลาในการดำเนินโครงการสอดคล้องกับช่วงเวลาที่คาดว่าจะมีการเลือกตั้ง นอกจากนี้ในรายละเอียดมีการระบุการมีส่วนร่วม แต่กลับเป็นการประชาสัมพันธ์ตามสื่อช่องทางต่าง ๆ จึงตั้งข้อสังเกตประชาชนจะมีส่วนร่วมได้อย่างไร รวมทั้งการแจ้งปัญหาทราฟฟี่ ฟองดูว์ ใช้ไม่ได้หรืออย่างไร จึงต้องทุ่มงบประมาณจำนวนมากขนาดนั้น
นายชัชชาติ ลุกชี้แจงเรื่องประชาสัมพันธ์ เป็นเรื่องสำคัญ เมืองคือคน เมืองจะพัฒนาได้ต้องมีคนเป็นส่วนร่วมกับเรา เข้าใจนโยบายและก้าวเดินไปกับเรา การประชาสัมพันธ์ จึงเป็นเรื่องจำเป็นที่จะต้องสื่อสารนโยบาย ทั้งการจัดเก็บค่าธรรมเนียมขยะมูลฝอย การจดทะเบียนสุนัขและแมว เป็นเรื่องสำคัญและขาดไม่ได้ ไม่คิดจะนำเรื่องนี้ไปโยงกับการหาเสียง ยืนยันว่างบประชาสัมพันธ์ไม่ได้เป็นการหาเสียง แต่เป็นนโยบาย เป็นผลงานของกทม. นโยบายไม่มีคำว่าผู้ว่าฯชัชชาติ ทั้งสิ้น
"การหาเสียงที่ดีที่สุด คือการทำงานให้ดี ไม่ใช่ประชาสัมพันธ์ ไม่ได้เอาดีใส่ตัวเอาชั่วใส่คนอื่น การหาเสียงคือการทำงานวันนี้ให้ดีที่สุดให้เต็มที่เต็มกำลัง เรื่องเอางบประชาสัมพันธ์มาหาเสียง ไม่มีอยู่ในหัว ไม่มีความคิดในเรื่องนี้ และการใช้งบประมาณประจำปี ก็เริ่มใช้ในเดือน พ.ย. ซึ่งเป็นเรื่องปกติ ส่วนเรื่องผลงานไม่ใช่ของตน ผลงานเป็นของทุกคนร่วมกัน สมัยนี้หาเสียงด้วยการประชาสัมพันธ์ ไม่ได้ผล มันอยู่ที่การทำงานมากกว่า" นายชัชชาติ กล่าว
อย่างไรก็ตาม วันนี้จะพักการอภิปรายในการประชุมสภากทม. และจะมีการอภิปราย ในวันที่ 4 ส.ค.นี้ อีกครั้ง