EOD เข้าตรวจสอบเก็บพยานหลักฐานมัดเขมรยิงใส่ชุมชน รพ.และพื้นที่สาธารณะ เพื่อเสนอข้อเท็จจริงต่อชาวโลก หลังสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านอำเภอพนมดงรัก ปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาควาย เงียบไร้เสียงปืนเป็นวันที่ 3 แล้ว
วันที่ 31 กรกฏาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์ที่ชายแดนไทย- กัมพูชาด้านอำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ สถานการณ์โดยทั่วไปยังคงปกติยังไม่มีเสียงปืนหรือเสียงปะทะกันเกิดขึ้นแต่อย่างใดที่ประสาทตาเมือนธมและประสาทตาควาย เป็นวันที่ 3 แล้ว หลังมีการเจรจาหยุดยิง แต่ก็ยังคงมีการเฝ้าระวังและจับตาอย่างใกล้ชิด เนื่องจากสถานการณ์ก็ยังคงไม่ไว้วางใจ ทหารไทยยังคงตรึงกำลังและเฝ้าระวังอย่างเข้มงวดตามแนวชายแดน
ในขณะเดียวกันบรรยากาศโดยทั่วไปตามหมู่บ้านชุมชนต่างๆที่อำเภอพนมดงรัก บ้านเรือนประชาชนก็ยังยังคงปิดรวมไปถึงร้านค้าซึ่งก็ปิดเป็นส่วนมาก ส่วนผู้อพยพส่วนมากก็ยังคงอยู่ที่ศูนย์พักพิงชั่วคราวที่ทางการ จัดไว้ให้โดยผู้อพยพในขณะนี้ก็ยังคงมีกำลังใจที่ดีส่วนมากก็อยากจะกลับเข้ามาบ้านแต่ต้องรอคำสั่งจากเจ้าหน้าที่เพื่อความปลอดภัย แต่ก็มีบางรายกว่านี้ก็กลับเข้าบ้านเนื่องจากเป็นห่วงสัตว์เลี้ยงซึ่งก็ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวก็มีความมั่นใจว่าเหตุการณ์จะสงบลงแต่ถ้ามีเหตุการณ์อีกครั้งก็พร้อมที่จะอพยพกลับไปที่ศูนย์โดยทันที
ในช่วงบ่ายวันนี้เวลา 16.00 น. ทางนายอำเภอพนมดงรัก ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรดงรัก เจ้าหน้าที่ทหาร ได้นำทีมเก็บกู้ระเบิด จากหน่วยเก็บวัตถุกู้ระเบิด ตำรวจภูธรจังหวัดสุรินทร์ หรือ EOD ลงตรวจสอบพิสูจน์ทราบบริเวณจุดกระสุนตกในโรงพยาบาลอำเภอพนมดงรัก ซึ่งได้รับความเสียหายจากลูกกระสุนปืนใหญ่ของกัมพูชาตกลงมาจำนวน 3 ลูก สร้างความเสียหายให้กับอาคารพังเสียหาย สร้างผลกระทบเป็นอย่างมาก จนต้องเคลื่อนย้ายผู้ป่วยและเจ้าหน้าที่ หมอ พยาบาล ออกจากพื้นที่เร่งด่วน เพื่อความปลอดภัย หนึ่งในจุดที่แสดงให้เห็นชัดเจนของฝ่ายทหารกัมพูชาที่ยิงกระสุนปืนมุ่งหวังเข้าทำร้ายประชาชน พลเรือนผู้บริสุทธิ์รวมทั้งโรงพยาบาล ซึ่งไม่เคยมีประเทศไหนทำกัน พร้อมกันนี้ยังได้นำเจ้าหน้าที่ชุดEOD เข้าตรวจสอบเก็บหลักฐานยังบ้านเรือนของประชาชน ที่ วัด ได้รับความสียหาย ในพื้นที่อำเภอพนมดงรักทั้งหมดด้วย
ทั้งนี้เพื่อเก็บรวบรวมเป็นพยานหลักฐาน ที่จะนำเสนอต่อเจ้าหน้าที่ประชาคมโลกให้ได้รับทราบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น จากการกระทำของทหารกัมพูชา มีข้อมูลจากอำเภอพนมดงรัก ซึ่งเป็นอำเภอที่จังหวัดสุรินทร์ ประกาศให้เป็นเขตให้ความช่วยเหลือฉุกเฉิน จากที่เกิดความขัดแย้งชายแดน จนนำมาสู้การเปิดฉากปะทะกันด้วยอาวุธหนักที่ผ่านมา ตั้งแต่วันที่ 24 กรกฏาคม 2568 มาถึงวันที่ 28 กรกฏาคม 2568 หลังจากมีการเจรจาหยุดยิงเกิดขึ้น พบว่ามีกระสุนปืนใหญ่ของกัมพูชาตกลงมาในพื้นที่ใกล้ชุมชน หมู่บ้าน เบื้องต้นกว่า 140 ลูก ตกลงในพื้นที่สร้างความเสียหายให้กับชุมชน บ้านเรือนราษฎร ที่สาธารณะเช่นวัดแล้วกว่า 10 แห่ง แต่ไม่มีผู้เสียชีวิต โดยทางอำเภอ เจ้าหน้าที่ เร่งสำรวจความเสียหายที่เกิดขึ้นอย่างเร่งด่วนในขณะนี้
ด้านนายเอกอนันต์ ศรีอินทร์ นายอำเภอพนมดงรัก กล่าวว่า เป็นเศษชิ้นส่วนของระเบิดที่ระเบิดแล้วจากการตรวจสอบทราบว่า การปะทะกันที่ชายแดนไทยกัมพูชาระหว่างวันที่ 24-28 กรกฎาคมที่ผ่านมาพบว่ามีจรวดหลายลำกล้อง BM 21 ของกัมพูชาตกลงมาในพื้นที่อำเภอพนมดงรัก ที่ตรวจสอบเห็นเบื้องต้นจำนวน 140 ลูกและยังเหลือที่ยังไม่ได้ตรวจสอบอีกจำนวนหนึ่ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในวันพรุ่งนี้ 1 สิงหาคม 2568 เวลา 10.00 น ทหารไทยจะนำเฉลยทหารกัมพูชาทั้ง 18 คนมาส่งมอบให้ทางการกัมพูชาที่ประตูด่านช่องจอม อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์
อีกทั้งรายงานข่าวแจ้งว่า นักข่าวชาวจีน 3 คนที่ถูกจับตรวจสอบได้ที่อำเภอกาบเชิง เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคมที่ผ่านมา ได้ถูกควบคุมแตัวอีกรอบแล้วที่อำเภอบ้านกรวด จังหวัดบุรีรัมย์ และได้ส่งให้ฝ่ายทหารสอบสวนแล้วเช่นกัน เพราะเข้าไปในพื้นที่โดยไม่แจ้งและผิดปกติ