วันที่ 30 ก.ค.68 ที่ สภ.โพธิ์แก้ว จ.นครปฐม ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องทุกข์จากนายอ๋อง (สงวนนามสกุล) อายุ 30 ปีสัญชาติพม่า ร้องทุกข์ขอความเป็นธรรม ผ่านสื่อกรณีถูก ชายฉกรรจ์ 2-3 คน อ้างเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ประจำตู้ยามตลาดสินสมบูรณ์ ถนนพุทธมณฑลสาย 4 อ.สามพราน จ.นครปฐม จับกุมรีดเงินจำนวน 30,000 บาท แต่ตนไม่มีเงินไปขอยืมญาติได้ 5,000 บาท เหลืออีก 2,500 บาทต้องส่งให้ตำรวจดังกล่าว
นายอ๋อง. เล่าว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 22 ก.ค.68 ที่ผ่านมา หลังจากที่ตนเลิกจากงานแล้วกลับมา นั่งดื่มเบียร์อยู่ที่ หน้าปากซอยทางเข้าหมู่บ้านร้านเจ๊แดง ขณะที่ดื่มกินอยู่นั้น ได้มีนายต่อ ซึ่งเช่าบ้านพักอยู่ที่ บ้านเช่าข้างห้องของตน โทรมาถามว่าอยู่ไหน ตนบอกว่าอยู่ร้านเจ๊แดง นายต่อบอกให้เข้ามาหาที่ห้องพักหน่อย ฝากซื้อเหล้าสีมาด้วย 1 ชุด เมื่อตอนมาถึงที่ห้องพักของนายต่อ และดื่มสุราไปสักพัก เห็นนายต่อหยิบห่อยาออกมาจากกระเป๋ากางเกง ออกมาสูบและยื่นให้ตนสูบไป 1 ครั้ง นายต่อบอกว่ามันเป็นยาสูบแล้วไม่มาเหล้า ไม่เครียด ตนสูบไป 1 ครั้ง จากนั้น มีชายฉกรรจ์ 2 คน เดินเข้ามาในห้อง จับกุมตนกันนายต่อไปที่ ตู้ยามสินสมบูรณ์ เมื่อไปถึงตู้ยาม ชายคนดังกล่าวได้จับแขนตนล็อคใส่กุญแจมือไว้กับเก้าอี้ จากนั้นเดินออกไปกับนายต่อ ประมาณสักพักหนึ่ง แล้วเดินกลับเข้ามาหาตน โดยชายที่อ้างเป็นตำรวจบอกว่า บอกว่าจะติดคุกหรือหาคนมาประกันตัว ตนบอกว่าผมไม่มีเงินให้ผมติดคุกดีกว่า ชายที่อ้างตัวตำรวจบอกว่า มึงโทรหาญาติมึงเลย ตนจึงโทรไปหาและเพื่อนๆ ขอยืมเงินจำนวน 30,000 บาทแต่มาได้จำนวน 5,000 บาท โดยโอนให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ยื่นบัญชีให้ผ่านบัญชี ธนาคารกรุงเทพ ชื่อนายชัชวาล สงวนนามสกุล)เป็นจำนวนเงิน 5,000 บาท
จากนั้นมีตำรวจอีกคนหนึ่งบอกว่า ไม่ได้ต้องหาเงินที่เหลืออีก 25,000 มาเพิ่ม ตนบอกว่าไม่มี พร้อมยกมือไหว้ขอร้อง แต่ ชายที่อ้างเป็นตำรวจได้เรียกนายต่อ ออกไป แล้วพูดคุยกันและกลับเข้ามา โดย ชายจ้างตัวเป็นตำรวจ บอกตนอ้อนวอนนายต่อ เพื่อช่วยยืมเงินมาให้ แต่ก็ไม่ได้เงินดังกล่าว แต่เงินที่ตนได้มาโอนเงินเข้าบัญชีไปแล้ว 5,000 บาท นายต่อบอกว่าส่วนเงินที่เหลือ ตำรวบอกว่าให้โอนผ่านตน จำนวน 25,000 บาท ตนแปลกใจตอนถูกจับไม่มีการเขียนบันทึกจับกุม และบันทึกภาพ และไม่ได้ลงบันทึกการจับกุมแต่อย่างใด หลังจากที่ได้รับเงินไปแล้ว ชายที่อ้างตัวเป็นตำรวจได้ปล่อยตนกลับบ้านพักประมาณเกือบเที่ยงคืน ด้วยความกลัวเกรงว่าจะถูกจับกุม จึงได้โทรติดต่อหาเพื่อน ให้ช่วยหเงินที่หลือ 25,000 บาท นำมาส่งมอบให้ที่ตู้ยามตลาดสินสมบูรณ์ ตนปัญญา หาเงินมาจ่ายได้เนื่องจาก ต้องกินต้องใช้ไปแต่ละวันก็จะไม่พออยู่แล้ว นอกจากนี้ตนไม่มีที่พึ่งอื่นใด เมื่อตนเห็นผู้สื่อข่าวเข้าทำข่าวที่โรงพักจึงเข้ามาพบและเล่าร้องราวทุกข์ เพื่อขอควาเป็นธรรมจาก เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นดังกล่าว