พ่อค้าแม่ค้า และชาวบ้าน อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ เริ่มทยอยกลับเข้าพื้นที่เพื่อทำมาหากินหลังเสียงปืนเงียบลง แม้จะยังกังวลและเสี่ยงอันตรายเพราะทิ้งบ้านและสัตว์เลี้ยงไปร่วมสัปดาห์ และยังไม่ไว้ใจเขมรไม่รู้จะตลบหลังโจมตีไทยอีกตอนไหน ขณะ ชรบ.ลงพื้นที่สำรวจชาวบ้านที่กลับเข้าบ้านรายงานอำเภอ เพราะยังไม่มีประกาศจากทางการให้กลับเข้าพื้นที่
วันที่ 30 ก.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงานถึงบรรยากาศในพื้นที่อำเภอบ้านกรวด จังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งเป็นอำเภอที่ติดแนวชายแดน ที่เคยถูกสั่งอพยพประชาชนออกจากพื้นที่ช่วงที่มีการสู้รบ รวมทั้งสถานที่ราชการ รพ. สถานประกอบการ ร้านค้าต้องปิดทำการ 100 เปอร์เซ็นต์ สภาพคล้ายเมืองร้างร่วมสัปดาห์ ว่า เริ่มกลับมามีสีสัน ชีวิตชีวาอีกครั้ง หลังจากผู้ประกอบการร้านค้า พ่อค้าแม่ค้าทยอยกลับมาเปิดทำการค้าขาย ขณะที่ประชาชนที่อพยพหนีการภัยสงครามไปอยู่ตามศูนย์พักพิงชั่วคราว รวมถึงบ้านญาติที่ต่างอำเภอ และต่างจังหวัด ก็เริ่มเดินทางกลับบ้านของตัวเอง เพื่อไปใช้ชีวิตและทำมาหากินตามปกติ
หลังจากเมื่อคืนที่ผ่านมาจนถึงช่วงเช้าวันนี้ ตลอดแนวชายแดนในพื้นที่ อ.บ้านกรวด ยังไม่มีเสียงปืนใหญ่จากการปะทะกันถึงแม้ทางการจะยังไม่มีประกาศให้ชาวบ้านกลับเข้าพื้นที่ก็ตาม แต่ทั้งพ่อค้าแม่ค้าและประชาชนเริ่มกลับเข้ามาในพื้นที่ ก็ยอมรับว่า ยังมีความกังวล แม้จะมีข้อตกลงประกาศหยุดยิง แต่ยังไม่ไว้ใจทางกัมพูชาว่าจะปฏิบัติตามข้อตกลง เพราะหลังจากทำข้อตกลงแล้วก็ยังมีการยิงปืนใส่ทหารไทยที่แนวชายแดน จ.ศรีสะเกษ
ขณะที่ ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ) ของแต่ละหมู่บ้าน ในพื้นที่ อ.บ้านกรวดก็ได้ลงพื้นพื้นที่สำรวจจำนวนประชาชน ที่ยังอยู่อาศัย หรือที่เริ่มที่เดินกลับเข้ามาในหมู่บ้าน เพื่อรายงานให้ทั้งอำเภอ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับทราบ เนื่องจากตอนนี้ยังไม่มีประกาศจากทางการให้ผู้อพยพกลับเข้าพื้นที่
ด้านนายนราทิพย์ อินทเสน ชาวบ้านในตำบลปราสาท อ.บ้านกรวด บอกว่า หลังจากคนในครอบครัว 4 ชีวิต ได้อพยพไปอยู่ที่บ้านใน อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ มาร่วมสัปดาห์ตั้งแต่ที่มีการสู้รบ หลังจากมีการเจรจาหยุดยิงและในพื้นที่ไม่มีการปะทะกัน ตนกับภรรยาจึงตัดสินใจเดินทางกลับมาบ้านก่อน เพราะทิ้งบ้านและสัตว์เลี้ยงไว้เกือบสัปดาห์แล้ว
ส่วนพ่อตาแม่ยายยังให้รอดูสถานการณ์ก่อน แต่ก็ยอมรับว่า ยังมีความกังวลเพราะไม่ไว้ใจทางกัมพูชา ไม่รู้ว่าจะตลบหลังโจมตีไทยอีกตอนไหน แต่ก็จำเป็นต้องยอมเสี่ยงเพราะเป็นห่วงบ้านและสัตว์เลี้ยง แต่หากมีสถานการณ์สู้รบอีกก็พร้อมอพยพตลอดเวลา
ซึ่งไม่ต่างจาก นายปสัตถ์ แซ่ย่าง พ่อค้าขายไก่ทอด บอกว่า ได้กลับมาเปิดค้าขายวันนี้เป็นวันแรก หลังจากปิดร้านพาครอบครัวอพยพไปอยู่ที่ศูนย์พักพิงเกือบสัปดาห์แล้ว ทำให้ขาดรายได้ แต่ก็ยอมรับว่า การกลับมารอบนี้ยังมีความกังวล เพราะไม่มั่นใจว่าเขมรจะยิงใส่ไทยอีกตอนไหน แต่ก็เตรียมพร้อมอพยพไว้ตลอด เพราะเป็นห่วงลูก 6 ขวบและ 4 ขวบ แต่หากเป็นไปได้ก็อยากให้หยุดยิงเพราะอยากกลับมาใช้ชีวิตและค้าขายได้ตามปกติเหมือนเดิม
ขณะที่ นายอำนาจ ชะรอยรัมย์ ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน หรือ ชรบ. บอกว่า ทางอำเภอได้ให้ลงพื้นที่สำรวจจำนวนประชาชนทั้งที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้าน และผู้อพยพที่เริ่มกลับเข้าพื้นที่ เพื่อรายงานทางอำเภอทราบ เพราะขณะนี้ยังไม่มีคำสั่งจากทางการว่าให้กลับเข้าพื้นที่ จึงต้องรายงานความเคลื่อนไหวให้ทางราชการทราบตลอด ซึ่งคนที่กลับเข้าพื้นที่ก่อนก็ให้เหตุผลว่าเป็นห่วงบ้านและสัตว์เลี้ยงของตนเอง