วันที่ 29 ก.ค.2568 เมื่อเวลา 09.00 น. ที่รัฐสภา ในการประชุมวุฒิสภา ที่มี พล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ รองประธานวุฒิสภา คนที่หนึ่ง เป็นประธานในที่ประชุม โดยในช่วงการหารือของสมาชิก พล.ท.สุกิจ ทั่งทอง สว. ลุกขึ้นอภิปรายให้ข้อเสนอแนะต่อสถานการณ์แนวชายแดนไทย-กัมพูชา เพื่อรักษาอธิปไตยของชาติและความมั่นคง ประกอบไปด้วย 1.ประกาศกฎอัยการศึกในพื้นที่ 7 จังหวัดชายแดน ตั้งแต่อุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ สระแก้ว จันทบุรี และตราด เพื่อมอบอำนาจเต็มแก่ค่ายทหารภายใต้หลักการ CI31 เพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติอย่างมีเอกภาพ และกำลังเสริมในพื้นที่ก่อให้บรรจุกำลังพลเสริมเข้าแผนงานป้องกันประเทศ ให้รับสิทธิวันทวีคูณและสิทธิอื่นๆเพิ่มเติมย้อนหลังตั้งแต่วันที่ 28 พฤษภาคม 2568
2.แก้ไขเพิ่มเติม MOU2544 MOU2543 และ JC44 ที่ไทยมีความเสียเปรียบในบางเรื่องให้มีความชัดเจนเพื่อประโยชน์ต่อไทย 3. ปิดด่านทางบกทุกช่องทางทันที ปิดน่านน้ำน่านฟ้าจนกว่าจะปักปันเขตแดนยุตติไม่มีพื้นที่ทับซ้อน ไม่ให้กัมพูชาเข้ามาเด็ดขาด โดยคำนึงถึงความปลอดภัยของสายการบินพาณิชย์ 4. ตัดระบบสาธารณูปโภคทุกชนิดที่เชื่อมต่อกับกัมพูชา ทั้งไฟฟ้า น้ำ อินเทอร์เน็ต โทรศัพท์ จนกว่าสถานการณ์ชายแดนจะยุตติ
5. ยกเลิกการส่งออกพลังงาน น้ำมันดิบ น้ำมันสำเร็จรูป ก๊าซธรรมชาติ ไปยังกัมพูชาโดยเด็ดขาด ผู้ใดฝ่าฝืนถือว่าผิดกฎอัยการศึกต้องขึ้นศาลทันที 6. เห็นควรผลักดันแรงงานต่างด้าวกัมพูชาออกนอกประเทศ และยกเลิกบัตรผ่านแดนกัมพูชาทั่วราชอาณาจักรไทย ให้กับประเทศต้นทางทันทีทั้งที่ผู้ที่เข้ามาโดยชอบและชอบด้วยกฎหมายจนกว่าการปักปันเขตแดนทางบกและทางทะเลจะยุตติอย่างสมบูรณ์
และ 7. เห็นควรตัดความสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชาจนกว่าการปักปันเขตแดนจะแล้วเสร็จและไม่มีพื้นที่ทับซ้อนโดยเด็ดขาด 8. ดำเนินการกั้นรั้วถาวรชายแดน และขับไล่ชาวกัมพูชาที่ตั้งถิ่นฐานในพื้นที่ไทยออกไปทันที และรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างอย่างผิดกฎหมาย
ทั้งนี้หลังการหารือเสร็จสิ้นก่อนเข้าสู่ระเบียบวาระพิจารณาต่อไป พล.อ.เกรียงไกร แจ้งให้ที่ประชุมทราบถึงสถานการณ์การสู้รบบริเวณแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ส่งผลทำให้ประชาชนในพื้นที่ และเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ ส่วนหยึ่งได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมาก ในนามของวุฒิสภาขอเชิญชมาชิก ยืนขึ้นแสดงความไว้อาลัยต่อผู้เสียชีวิต เป็นเวลา 1 นาที