(28 ก.ค.68) นายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวความคืบหน้าแนวทางบริหารจัดการรถโดยสารสาธารณะพลังงานไฟฟ้า BMA FEEDER ฟรี ว่า ปัจจุบัน กทม.เปิดให้บริการแล้ว 6 เส้นทาง ได้แก่ 1.เส้นทาง สำนักงานเขตทวีวัฒนา-รพ.ราชพิพัฒน์-MRT หลักสอง เวลา 06.00-20.00 น. ทุกวัน 2.เส้นทาง ดินแดง-BTS สนามเป้า เวลา 06.00-20.00 น. ทุกวัน 3.เส้นทาง ชุมชนเคหะร่มเกล้า-ARL ลาดกระบัง เวลา 06.00-20.00 น. ทุกวัน

4.เส้นทาง สามเสน-ตั้งฮั่วเล็ง (เชื่อมฝั่งธนบุรี) เฉพาะวัน จ.-ศ. ช่วงเช้าเวลา 06.00-09.00 น. และช่วงบ่ายเวลา 15.20-19.00 น. 5.เส้นทาง MRT บางขุนนนท์-4 ตลาดน้ำ เฉพาะวัน ส.-อา. และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 09.00-17.30 น. 6.เส้นทาง พิพิธภัณฑ์เด็กกรุงเทพฯ (จตุจักร)-BTS หมอชิต เฉพาะวัน ส.-อา. และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 08.00-17.30 น. ทั้งหมดนี้ให้บริการรถจำนวน 14 คัน ตามสัญญาตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.68-14 มิ.ย.71 (36เดือน)

ด้านการบริหารจัดการ เนื่องจาก การใช้บริการส่วนมากคือช่วงเช้าและเย็น ในวัน จ.-ศ. กทม.จึงต้องจัดรถที่มีอยู่หมุนเวียนให้เกิดประโยชน์สูงสุดโดยไม่เพิ่มค่าจ้าง หรือเพิ่มรถครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมด เพราะมีค่าใช้จ่ายที่ต้องคำนึงความคุ้มค่า เช่น สายที่ 1 สำนักงานเขตทวีวัฒนา มีค่าใช้จ่ายโดยประมาณ 1 ล้านบาท/เดือน มีผู้ใช้ประมาณ 6,000 คน/เดือน เฉลี่ยค่าใช้จ่ายหัวละ 160 บาท/ครั้ง ดังนั้น ต้องทำให้คนใช้งานเพิ่มขึ้น เพื่อลดค่าใช้จ่ายต่อหัวลง หรือจัดรถหมุนเวียนอย่างคุ้มค่ามากขึ้น

นอกจากนี้ กทม.อยู่ระหว่างพิจารณาร่วมกับคณะกรรมการกรมขนส่งทางบก (ขบ.) เพื่อเพิ่มเส้นทางรถ BMA FEEDER รองรับรถไฟฟ้า เบื้องต้นวางแผนไว้ 30 เส้นทาง หากสรุปอย่างเป็นทางการแล้ว กระทรวงคมนาคม โดยกรมขนส่งทางบก จะมีการเปิดให้เอกชนเข้ามาให้บริการ หรือให้ ขสมก.เป็นผู้ให้บริการ ก็จะลดภาระอุดหนุนค่าจ้างเดินรถของ กทม.ได้ ขณะเดียวกัน กทม.ยินดีรับข้อเสนอการปรับเส้นทางในพื้นที่ต่าง ๆ ก่อนสรุปอย่างเป็นทางการต่อไป

นายวิศณุ กล่าวว่า เป้าหมายหลักของ BMA FEEDER คือนำร่องให้บริการเส้นทางที่ยังไม่มีขนส่งสาธารณะ เพื่อนำข้อมูลมาปรับเปลี่ยนพัฒนาการเดินรถให้เหมาะสมกับผู้ใช้ หากพบว่า เส้นทางใดมีผู้ใช้มากเพียงพอและต่อเนื่อง กทม.มีแผนให้เอกชนมาดำเนินการแทน เพื่อลดงบประมาณลง โดยเสนอให้ ขบ.พิจารณาเส้นทางดังกล่าว เพื่ออนุญาตให้เอกชนยื่นขออนุญาตประกอบการขนส่งได้ หรือให้ ขสมก.จัดการเดินรถเสริม ซึ่งปัจจุบัน ขสมก.อยู่ระหว่างจัดหารถพลังงานสะอาดมาให้บริการ เพื่อรองรับนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาท วันที่ 1 ต.ค.นี้

นอกจาก BMA FEEDER กทม.ยังส่งเสริมการเดินทางรูปแบบต่าง ๆ ให้สะดวกต่อการใช้รถไฟฟ้ามากขึ้น เช่น พัฒนาทางเท้าและจักรยานรัศมี 1 กม. เชื่อมต่อสถานีรถไฟฟ้า ส่วนการให้บริการทางเรือ เช่น คลองผดุงฯ คลองแสนแสบช่วงปลาย ที่ผ่านมาพบผู้ใช้บริการน้อย โดยเฉพาะคลองแสนแสบ กทม.เสียค่าจ้างเดินเรือเดือนละ 2.7 ล้านบาท มีผู้ใช้บริการประมาณเดือนละ 7,500 คน เฉลี่ยหัวละ 360 บาท/ครั้ง ส่วนคลองผดุงฯ เฉลี่ยหัวละ 280 บาท/ครั้ง จึงต้องทบทวนความคุ้มค่า เช่น ลดขนาดเรือลง หรือใช้เรือลักษณะแท็กซี่ตามความต้องการจริงของผู้ใช้ เฉพาะช่วงเช้าและเย็น เพื่อไม่ต้องเสียค่าจ้างเดินเรือตลอดวัน ปัจจุบัน กทม.อยู่ระหว่างจัดหาเอกชนเข้ามาให้บริการในคลองสายหลักต่าง ๆ ตามการใช้งานจริงของผู้โดยสารแต่ละพื้นที่