การสู้รบชายแดนไทย–กัมพูชาในปี 2568 ทวีความรุนแรงจนกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ เมื่อทหารไทยสามารถ “ตีแตก” ยึดภูมะเขือได้สำเร็จ
ชัยชนะครั้งนี้ไม่เพียงเปลี่ยนสมการสงครามชายแดนที่ยืดเยื้อมาหลายวันแต่ยังส่งแรงสะเทือนทั้งเชิงยุทธศาสตร์และการทูตในภูมิภาค
“ภูมะเขือ”หัวใจยุทธศาสตร์ชายแดน
ภูมะเขือคือ “หัวใจของการควบคุมชายแดน” ด้วยเหตุผลสำคัญดังนี้
- ควบคุมพื้นที่ได้กว้างไกล จุดสูงทำให้สามารถสอดแนมการเคลื่อนไหวของข้าศึก ทั้งกำลังพลและยุทโธปกรณ์ได้ชัดเจน
- ตัดเส้นทางลำเลียงสำคัญ ภูมะเขือเชื่อมโยงโดยตรงกับเส้นทางส่งกำลังบำรุงจากฝั่งกัมพูชาไปยังวัดแก้วสิกขาคีรีสวาระและปราสาทพระวิหาร การยึดจุดนี้ได้คือการตัดเส้นเลือดใหญ่ของกองกำลังกัมพูชา
- เป็นไพ่ต่อรองบนโต๊ะเจรจา ในสถานการณ์ที่การสู้รบยืดเยื้อ การครอบครองภูมะเขือสามารถถูกใช้เป็น “ไพ่ต่อรอง” ในการเจรจาเรื่องเขตแดนหรือผลประโยชน์อื่น ๆ
ชัยชนะของไทย – เปลี่ยนเกมสงคราม
- ไทยได้เปรียบเชิงยุทธศาสตร์ทันที สามารถตั้งฐานปฏิบัติการและคุมเส้นทางยุทธศาสตร์ได้อย่างสมบูรณ์
- เสริมภาพลักษณ์บนเวทีโลก ไทยย้ำใช้สิทธิการป้องกันตัวเองตามกฎบัตรสหประชาชาติข้อ 51 ไทยย้ำใช้สิทธิการป้องกันตนเองตามกฎบัตรสหประชาชาติ ข้อ 51
กัมพูชาสะเทือนหนัก
- สูญเสียจุดยุทธศาสตร์สำคัญ ขวัญกำลังใจทหารสั่นคลอน
- อาจต้องหันใช้สงครามจิตวิทยาและแรงกดดันทางการทูตเพื่อต่อรองให้ไทยถอนกำลัง
แนวโน้มสถานการณ์
แม้ไทยคุมเกมได้ แต่การรักษาภูมะเขือไม่ง่ายเพราะ
- ภูมิประเทศยากต่อการลำเลียงเสบียงและกำลังพล
- แรงกดดันทางการเมืองในไทยอาจเร่งให้หาทางเจรจายุติความขัดแย้ง
- กัมพูชาอาจใช้ยุทธวิธีกองโจรหรือโจมตีเล็กๆ เพื่อลดความได้เปรียบของไทย
ไทยคุมเกม แต่สงครามยังไม่จบ
ชัยชนะในการตีแตกภูมะเขือคือจุดเปลี่ยนสำคัญ หากไทยรักษาพื้นที่นี้ได้โดยไม่เสียเปรียบทางการทูต ไทยจะคงความได้เปรียบทั้งในสนามรบและบนโต๊ะเจรจา แต่หากสถานการณ์บานปลาย สงครามจำกัดครั้งใหญ่ที่สุดในรอบหลายสิบปีอาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ
#ภูมะเขือ #ไทยกัมพูชา #ปราสาทพระวิหาร #กองทัพอากาศ #cambodiaopenedfirefirst #ปราสาทตาเมือนธม #CambodiaOpenedFire #ชายแดนไทยกัมพูชา #กองทัพอากาศ #กัมพูชายิงก่อน #กองทัพอากาศ #กองทัพบก #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด