# นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและ รมว.มหาดไทย รักษาราชการแทนนายกฯ กล่าวกรณีที่ นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่าได้มีการพูดคุยกับตนและ พล.อ.ฮุน มาเนต นายกฯกัมพูชา ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาว่า นายอันวาร์ได้โทรศัพท์มาหาตน และได้พูดคุยกันจริงตามที่เป็นข่าว 

โดยนายอันวาร์ พยายามที่จะเป็นตัวกลางในการแก้ไขปัญหา เราจึงได้คุยกันในหลักการ และเห็นว่าควรจะหาทางยุติการปะทะและการเผชิญหน้ากัน ซึ่งโดยหลักการเราไม่ได้ขัดข้องอะไร แต่การที่จะให้หยุดยิงเมื่อไหร่ ต้องให้มีความชัดเจนจากทางกัมพูชา เพราะไทยได้พยายามทำการเจรจามาตลอดแต่ไม่เกิดผล  "ไม่ว่ากัมพูชาจะพูดอะไร ยังไม่เคยเห็นท่าทีของกัมพูชาที่รู้สึกว่าได้ก่อกรรมกระทำผิด รู้สึกว่าตัวเองผิดกฎระเบียบต่างๆ เพราะฉะนั้นเรื่องนี้ก็ต้องรับผิดชอบ

# นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการกองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย  ทั้งนี้คณะกรรมการกองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย มีมติอนุมัติในหลักการให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา

ดังนี้ 1. กรณีเสียชีวิต เป็นค่าจัดการศพ รายละ 1,000,000 บาท 2. กรณีทุพพลภาพ รายละ 700,000 บาท 3. กรณีบาดเจ็บสาหัส รายละ 200,000 บาท 4. กรณีบาดเจ็บมาก รายละ 100,000 บาท 5. กรณีบาดเจ็บเล็กน้อย รายละ 50,000 บาท

# พล.ร.ต.สุรสันต์ คงสิริ รองโฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย ในฐานะโฆษกศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) แถลงยอดผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ปะทะกันระหว่างไทย-กัมพูชา  สำหรับยอดผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บของฝ่ายไทยที่เป็นพลเรือน ณ วันที่ 25 ก.ค.เวลา 09.00 น. มีพลเรือนเสียชีวิตทั้งหมด 14 ราย บาดเจ็บสาหัส 7 ราย บาดเจ็บปานกลาง 13 ราย บาดเจ็บเล็กน้อย 11 ราย รวมทั้งสิ้น 45 ราย

ทั้งนี้ กระทรวงมหาดไทย โดย 4 จังหวัด ประกอบด้วย สุรินทร์ อุบลราชธานี ศรีสะเกษ และบุรีรัมย์ ได้ทำการอพยพประชาชนไปแล้วกว่า 130,000 คน หรือร้อยละ 100 ของประชาชนในพื้นที่ จังหวัดได้จัดเตรียมศูนย์พักพิงอพยพผู้ลี้ภัยซึ่งสามารถรองรับประชาชนได้มากกว่า 300,000 คน รวมทั้งจัดชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ดูแลความปลอดภัยและทรัพย์สินให้แก่ประชาชนในพื้นที่