ผบ.ตร. ส่ง “รอง ผบ.ตร. ผบช.ภ.3 บินด่วนลงสุรินทร์ รับแผน 2 คุมสถานการณ์

วันที่ 24 กรกฎาคม 2568 สถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชายกระดับรุนแรงขั้นสูงสุด หลังเกิดเหตุยิงจรวด BM-21 “คาติวชา” จากฝั่งกัมพูชาเข้าใส่ 7 จุดเสี่ยงในเขตจังหวัดสุรินทร์และศรีสะเกษ ส่งผลให้มี ผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 11 ราย บาดเจ็บกว่า 35 ราย เป็นพลเรือนและเจ้าหน้าที่ทหารชายแดน

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ  มีคำสั่งด่วนให้ พล.ต.อ. ไกรบุญ ทรวดทรง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ บินด่วนลงพื้นที่ พร้อมกับ พล.ต.ท.วัฒนา ยี่จีน ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 เพื่อรับผิดชอบบัญชาการสถานการณ์ภาคสนามด้วยตนเอง โดยประกาศใช้ “แผนเผชิญเหตุขั้นสูงสุด” หรือที่เรียกว่า “แผน 2 ภาค 3” ทันที

จากรายงานในพื้นที่ พบว่าเหตุการณ์ความรุนแรงเกิดขึ้นราว 10.40 น. โดยมีการยิงจรวด BM-21 หลายลูกจากฝั่งกัมพูชา ตกลงในชุมชน อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ และ อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ โดยพื้นที่ได้รับผลกระทบหลักมีทั้งหมด 7 จุดสำคัญ ได้แก่พื้นที่ศูนย์พัฒนาชายแดนไทย–กัมพูชา (ต.แนงมุด, อ.กาบเชิง) เขตเทศบาลเสาธงชัย ใกล้ร้านสะดวกซื้อ ชุมชนบ้านตาเมียง และแนวช่องอานม้า เบื้องต้นยืนยันว่ามีผู้เสียชีวิตรวม 11 ราย บาดเจ็บ 35 ราย ถูกลำเลียงส่งโรงพยาบาลกาบเชิง, โรงพยาบาลสุรินทร์ และโรงพยาบาลกันทรลักษ์

พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.วัฒนา ยี่จีน ผบช.ภ.3 ได้รับมอบหมายให้บัญชาการการควบคุมสถานการณ์ร่วมกับกองทัพภาคที่ 2 และฝ่ายปกครองจังหวัดสุรินทร์ โดยให้ความสำคัญสูงสุดกับ ความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่ชายแดน

พล.ต.อ.ไกรบุญ กล่าวที่ประชุมศูนย์บัญชาการว่า นี่ไม่ใช่แค่เหตุการณ์ปะทะชายแดนธรรมดา แต่นี่คือการโจมตีประชาชนอย่างชัดเจน ซึ่งตำรวจต้องแสดงบทบาทในการควบคุมสถานการณ์ รักษาความปลอดภัย และเตรียมแผนอพยพหากจำเป็น

พล.ต.ท.วัฒนา ยี่จีน ตำรวจภูธรภาค 3 ประกาศเข้าสู่ “แผนเผชิญเหตุขั้นสูงสุด (แผน 2)” โดยบูรณาการกับหน่วยทหาร ฝ่ายปกครอง และหน่วยข่าวกรองจังหวัดเพื่อคุมพื้นที่และเฝ้าระวังการยกระดับความรุนแรงพื้นที่เสริมกำลังด่วน ได้แก่พื้นที่ ปราสาทตาเมือนธม (โบราณสถานสำคัญ) ช่องทางธรรมชาติ ช่องอานม้า – ช่องบก แนวปะทะเสี่ยงสูงที่มี ทุ่นระเบิดตกค้าง โดยตำรวจ ตชด., หน่วย EOD, และหน่วยปฏิบัติการพิเศษจาก ตร.ภ.3 ได้ถูกส่งเข้าสนับสนุนจุดตรวจ จุดสกัด และจัดชุดลาดตระเวนเคลื่อนที่เร็ว เพื่อป้องกันการยิงซ้ำหรือแทรกซึมจากแนวชายแดนไทยยืนยันใช้สันติวิธี – แต่ไม่ยอมให้พลเมืองตกเป็นเป้า

พล.ต.ท.วัฒนา กล่าวว่าประเทศไทยยืนยันไม่ต้องการความขัดแย้ง แต่การยิงถล่มพลเรือนคือพฤติกรรมที่โลกไม่อาจยอมรับ เราจะทำทุกอย่างเพื่อปกป้องประชาชนไทยทั้งชีวิตและทรัพย์สิน โดยขอให้ฝ่ายกัมพูชาเคารพหลักสากลและหยุดยั้งการกระทำรุนแรงโดยทันที่ ขณะนี้ ตำรวจภูธรภาค 3 สามารถ ควบคุมพื้นที่ส่วนใหญ่ได้แล้ว แต่ยังมี การเตรียมแผนอพยพ สำหรับประชาชนในพื้นที่แนวหน้า โดยเฉพาะในรัศมี 5 กม. จากแนวชายแดน พร้อมกับการอำนวยความสะดวกด้านการจราจรและการส่งผู้บาดเจ็บช่องทางติดต่อด่วน – เปิด 24 ชั่วโมง

หากประชาชนต้องการแจ้งเหตุ หรือขอความช่วยเหลือสามารถติดต่อได้ที่สายด่วน 191 หรือ 1599 สถานีตำรวจท้องที่ / จุดบริการประชาชนใน ตร.ภ.3

สำนักงานตำรวจแห่งชาติขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนในจังหวัดสุรินทร์–ศรีสะเกษ หลีกเลี่ยงการเดินทางเข้าใกล้แนวชายแดน และติดตามประกาศจากทางราชการอย่างใกล้ชิด