วันที่ 24  ก.ค.68  กองทัพภาคที่ 2  สรุปเหตุการณ์ และจุดยืนที่ชัดเจนของกองทัพ  .. เรามาถึงจุดนี้ได้อย่างไร?

“ปัจจุบันมีเหตุปะทะประปรายในพื้นที่ทั้ง 6 จุด วันที่ ผู้บัญชาการทหารบก เริ่มตรวจพร้อมรบของแต่ละหน่วย เริ่มมีข่าวกรองยังไม่รู้เจตนาที่ชัดเจน แต่ในมุมมองความมั่นคงก็ต้องการ เตรียมพร้อมรบ เรา เห็นความเคลื่อนไหวของกัมพูชา ตั้งแต่กุมภาพันธ์ มีนาคม
จนในที่สุดก็มาขุดคูเลต”

พื้นที่การขุดคูเลตไม่ใช่พื้นที่ต่างฝ่ายต่างอ้างสิทธิ์ แต่เป็นของประเทศไทย ต่อให้ใช้แผนที่ฉบับไหนก็ตาม ทั้ง 1:50,000 และ 1:200,000 ก็เป็น พื้นที่ของประเทศไทย ซึ่งเป็นการรุกล้ำยอมไม่ได้ เราใช้แนวทาง สันติวิธี เป็น 100 ครั้ง ซึ่งช่วงหลังกัมพูชาไม่ให้ความร่วมมือ และนำทุ่นระเบิดไปวางหน้าคูเลต ตลอดจนการพบ ทุ่นระเบิด PMN-2 ล่าสุด เป็นสถานการณ์ที่เจตนาจะก่อกวน เพื่อจะ ดึงพื้นที่ 3 ปราสาทสู่ศาลโลก

วันนี้ยุทธวิธีของกองทัพตอบโต้ ในระดับเหมาะสมกับสถานการณ์ “ทหารไทยเรา มั่นใจในการใช้อาวุธ ทหารมีเกียรติในความเป็นทหาร จะใช้อาวุธกับใคร ก็ต้องอยู่ในสภาพที่มีอาวุธพร้อมใช้เหมือนกัน มันคือกติกา ไม่มีใครอยากให้การปฏิบัติทางการทหารยืดเยื้อ ไม่เกิดผลดีกับใครเลย ยืนยันว่าไทยไม่มีเจตนาหรือแรงจูงใจใดที่จะไปทำอย่างนี้กับกัมพูชา ถ้ามันไม่ได้เป็นไปด้วยความจำเป็นจากการ ถูกบังคับด้วยสถานการณ์ ประเทศไทยยึดหลักสันติมาตลอด และเราจะมุ่งต่อ เป้าหมายทางทหารเท่านั้น”

พล.ต.วินธัย สุวารี
โฆษกกองทัพบก

#กัมพูชายิงก่อน  #CambodiaOpenedFire #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #กองทัพบกทันกระแส #กองทัพภาคที่2

ขอบคุณ เพจ  กองทัพภาคที่ 2