"จับตาท่าทีจีนในศึกไทย-กัมพูชา"

จากรายงานข่าวที่เผยแพร่เกี่ยวกับการเดินทางของสมเด็จฮุนเซน ผู้นำกัมพูชา โดยเครื่องบินเจ็ท Hawker 800XP ซึ่งคาดว่าเป็นเครื่องบินส่วนตัวจากกรุงพนมเปญไปยังประเทศจีนในช่วงเวลาที่เกิดเหตุการณ์ปะทะกันระหว่างกองทัพไทยและกัมพูชา กลายเป็นประเด็นที่ได้รับความสนใจจากสาธารณชนและสื่อมวลชนอย่างมาก แม้ว่าภายหลังสมเด็จฮุนเซนจะออกมาชี้แจงผ่านโพสต์ในสื่อสังคมออนไลน์ว่าเขายังคงอยู่ในประเทศกัมพูชาและได้สั่งการกองทัพผ่านช่องทางออนไลน์ต่างๆ เช่น วิดีโอคอล

อย่างไรก็ตาม ข่าวการเดินทางของสมเด็จฮุนเซนไปยังประเทศจีน ยังคงได้รับการจับตาจากหลายฝ่าย โดยเฉพาะจากความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดระหว่างกัมพูชาและจีนในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ทั้งในด้านเศรษฐกิจและความมั่นคง ซึ่งมีการลงทุนจากจีนในโครงการต่างๆ ในกัมพูชา ทั้งในด้านโครงสร้างพื้นฐาน ท่าเรือ และเทคโนโลยีทางทหาร ซึ่งมีบทบาทสำคัญในยุทธศาสตร์ Belt and Road Initiative (BRI) ของจีน
การลงทุนของจีนในกัมพูชาไม่เพียงแต่มีผลกระทบในด้านเศรษฐกิจ แต่ยังมีนัยยะทางทหารที่ชัดเจน โดยเฉพาะในโครงการสำคัญ เช่น ฐานทัพเรือเรียม ท่าเรือกำปอต และคลองฟูนันเตโช ซึ่งทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับความใกล้ชิดทางทหารระหว่างจีนและกัมพูชา ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสมดุลความมั่นคงในภูมิภาค

ข่าวการเดินทางของสมเด็จฮุนเซนไปจีน จึงไม่ได้เป็นเพียงแค่ข่าวลือ แต่ยังเป็นประเด็นที่มีการคาดการณ์ว่า กัมพูชาอาจร้องขอความช่วยเหลือด้านอาวุธยุทโธปกรณ์จากจีน เพื่อเสริมความแข็งแกร่งในการรับมือกับสถานการณ์ความตึงเครียดกับกองทัพไทย ซึ่งเป็นการเพิ่มความกังวลให้กับหลายฝ่ายที่เกี่ยวข้อง

แม้จะมีการปฏิเสธข่าวนี้ในภายหลัง แต่การคาดการณ์ถึงความเป็นไปได้ที่อาจเกิดขึ้นจากการต่อรองและร้องขอการสนับสนุนทางทหารจากจีน ยังคงเป็นประเด็นที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในบริบทของการปะทะที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตระหว่างกองทัพไทยและกัมพูชา
สรุปแล้ว การเดินทางของสมเด็จฮุนเซนไปยังจีน แม้จะได้รับการปฏิเสธ แต่ก็ยังคงเป็นประเด็นที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด เนื่องจากความสัมพันธ์ทางทหารและการลงทุนจากจีนในกัมพูชา อาจมีผลต่อความมั่นคงในภูมิภาคอาเซียนและความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับกัมพูชาในอนาคต

นอกจากนี้ จึงน่าจับตามองบทบาทของทางการจีนในการสมดุลอำนาจและรักษาความสัมพันธ์ระหว่างกัมพูชากับจีน และไทยกับจีนในระยะยาว 

 

 

#กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #cambodiaopnedfire #ไทยกัมพูชา #กองทัพบก #ทหารไทย #ฮุนเซน