สาวพิษณุโลกช้ำ ถูกมิจฉาชีพปลอมโปรไฟล์ “เป้ บางกรวย” แชทจีบตีสนิท ก่อนหลอกลงทุนเทรดทองหมดตัวสูญเงิน 1.8 ล้าน 

วันที่ 24 ก.ค.68 ที่ เวลา 10.00 น. ที่สภ.บางกรวย จ.นนทบุรี น.ส.พร (นามสมมุติ) อายุ 54 ปี หญิงสาวจากจังหวัดพิษณุโลก ต้องสูญเงินสะสมกว่า 1,851,108 บาท  หลังถูกมิจฉาชีพใช้รูปและชื่อของ “เสี่ยเป้ บางกรวย” เจ้าของอู่รถเบนซ์และผู้ก่อตั้งเพจ “เป้ บางกรวย - นนทบุรีไม่ทิ้งกัน” แอบอ้างตัวตีสนิทผ่านแอปพลิเคชันไลน์ ก่อนลวงให้ร่วมลงทุนเทรดหุ้นทองคำ อ้างผลตอบแทนสูง ได้เงินครั้งแรกจริงจนหลงเชื่อ สุดท้ายหมดเงินเก็บ ขายทอง 17 บาท และยังไม่พอ ต้องโอนเงินเพิ่มอีกหลายรอบ จนมารู้ตัวว่าโดนหลอก ล่าสุดเจ้าตัวเดินทางมาที่ สภ.บางกรวย พร้อมเสี่ยเป้ตัวจริงเพื่อลงบันทึกประจำวันยืนยันความบริสุทธิ์ และขอให้ตำรวจเร่งติดตามจับกุมผู้แอบอ้าง โดยน.ส.พร แจ้งความไว้ที่สภ.บางระกำ จ.พิษณุโลก 

น.ส.พร ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 4 มิ.ย.68  ที่ผ่านมาได้มีบุคคลหนึ่งทักมาทางไลน์โดยอ้างว่าทักผิด แต่ใช้ชื่อและภาพโปรไฟล์ของ “เสี่ยเป้ บางกรวย”  โดยตั้งชื่อในไลน์ว่า “เป้ สจ.บางกรวย” พร้อมอ้างว่าเป็นเจ้าของอู่ซ่อมรถหรู ได้ทักมาบอกตนว่า “ให้ไปเอารถเพราะซ่อมเสร็จแล้ว” ตนจึงรู้สึกแปลกใจเพราะไม่เคยรู้จักหรือใช้บริการอู่รถดังกล่าว จึงตอบกลับไปว่า “ทักผิดคนแล้ว” แต่ทางตัวเขากลับทักคุยเรื่อยๆ ก่อนจะอ้างว่าให้ไปคุยส่วนตัวอีกไลน์หนึ่งที่โปรไฟล์เป็นเสี่ยเป้ บางกรวยเช่นเดียวกัน  หลังจากเขาทักมาต่อก็มีการพูดคุยทุกวันและโทรหา ทั้งเช้า กลางวัน เย็น ถามไถ่สารทุกข์สุขดิบเสมือนคนรู้ใจ ส่งภาพขณะออกกำลังกาย ลงพื้นที่ช่วยเหลือชาวบ้านชาว ประชุมงานต่างๆ  และกิจกรรมอื่นๆอีกมากมาย  ทำให้เริ่มไว้ใจโดยไม่รู้ตัว

ผ่านไปเกือบเดือนครึ่ง เสี่ยเป้ตัวปลอมเริ่มชักชวนให้ร่วมลงทุนในเพจเทรดหุ้นทองคำ โดยส่งภาพสลิปผลกำไรให้ดูเป็นระยะ พร้อมโทรศัพท์มาอธิบายขั้นตอนการลงทุน จนสุดท้ายตนตัดสินใจโอนเงินครั้งแรก 50,000 บาท และสามารถถอนกำไรได้จริง 6,000 บาท จึงเริ่มหลงเชื่อ

จากนั้นอีกฝ่ายได้ชวนให้เข้ากลุ่ม “วีไอพี” โดยอ้างว่าต้องลงทุนก้อนใหญ่ ตนจึงโอนเงินไปอีก 400,000 บาท และมีผลตอบแทนกลับมาบ้าง แต่เมื่อจะถอนเงิน กลับถูกบอกว่าต้องชำระ “ภาษี” ก่อนเบิกเงิน ตนจึงโอนเพิ่มอีก 400,000 กว่าบาท รวมเป็นเงินกว่า 800,000 บาท

แต่เรื่องยังไม่จบ มิจฉาชีพอ้างว่าตนกรอกเลขบัญชีผิด ต้องโอนเงินค้ำประกันอีกครั้งละ 400,000 บาท และบางครั้ง 500,000 บาท โดยล่อหลอกว่าหากโอนครบ จะสามารถเบิกเงินรวมกับกำไรทั้งหมดได้ถึง 2 ล้านบาท ทำให้ตนต้องขายทองคำที่สะสมไว้นานถึง 17 บาท และใช้เงินเก็บที่มีอยู่จนหมด  รวมยอดเงินที่สูญไปทั้งสิ้น 1,851,108 บาท  ทั้งนี้ตนยังได้มีการนำรถยนต์ 1 คัน ไปเข้าไฟแนนซ์เพื่อหาเงินมาให้มิจฉาชีพเพิ่มแต่โชคดีที่ทำเรื่องไม่ผ่าน

จุดแตกหักเกิดขึ้นเมื่อมิจฉาชีพโทรกลับมาอ้างว่า เงินของตนที่มียอดรวม 2 ล้านกว่าบาทนั้น เข้าข่ายการฟอกเงิน และต้องโอนเงินเพิ่มอีก 400,000 บาทเพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ ตนเริ่มสงสัยว่าถูกหลอก แต่คนร้ายยังส่งรูปการลงพื้นที่ของเสี่ยเป้กับนายสาโรจน์ นาคสุขปาน ปลัด อบต.บางขนุน มาให้ดู เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ ตนจึงส่งภาพนั้นให้แฟนน้องสาวดู  ปรากฏว่าแฟนของน้องสาวรู้จักกับท่านปลัดจริงๆจึงทำการติดต่อไปยังปลัดสาโรจน์ จึงทราบว่าถูกหลอก ก่อนทางท่านปลัดจะติดต่อเสี่ยเป้ตัวจริงและจึบได้มีการพูดคุยจนเข้าใจกันว่า มีคนแอบอ้างใช้ชื่อ และภาพมาหลอกตน

ตนได้เข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.บางระกำ จ.พิษณุโลก เมื่อวันที่ 15 ก.ค.68 เพื่อดำเนินคดีกับมิจฉาชีพที่หลอกลวงตน และในวันนี้ ได้เดินทางมายัง สภ.บางกรวย พร้อมกับเสี่ยเป้ตัวจริง และปลัด อบต.บางขนุน เพื่อแจ้งความซ้ำอีกครั้งและยืนยันว่าเสี่ยเป้ตัวจริงไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการหลอกลวงในครั้งนี้ 

ด้านนายโชติอนันต์ หรือ“เสี่ยเป้ บางกรวย” เปิดเผยว่า ตนรู้สึกเสียใจอย่างมากที่มีคนเดือดร้อนเพราะมีบุคคลนำชื่อและภาพตนไปใช้หลอกลวง โดยที่ผ่านมาเคยถูกแอบอ้างมาแล้วหลายครั้ง แต่ไม่เคยรู้ว่ามีผู้เสียหายต้องสูญเงินสูงขนาดนี้ ตนยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้องใด ๆ ทั้งสิ้น และวันนี้เดินทางมาด้วยตนเองเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ พร้อมจะติดตามคดีนี้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ  ยุคนี้ภัยออนไลน์มาในทุกรูปแบบ อยากฝากเตือนพี่น้องประชาชนว่าอย่ารีบ อย่าเชื่อ อย่าโอน ตรวจสอบให้แน่ชัดก่อนจะตัดสินใจทำธุรกรรมกับใคร ทั้งนี้อยากฝากถึง ”เสี่ยเป้“ ตัวปลอมว่า “หากยังไม่หยุด เดี๋ยวเราคงได้เจอกันแน่