วันที่ 24 ก.ค.2568 เวลา 11.48 น.ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาฯ ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ เป็นประธานการประชุม ก่อนเข้าสู่ระเบียบวาระกระทู้ถามสด นายวิทยา แก้วภราดัย สส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ ขอเสนอญัตติด่วนด้วยวาจา เพื่อพิจารณาปัญหาชายแดนไทย จากการบุกรุกดินแดนไทย ของประเทศกัมพูชา ทำให้กองทัพต้องแสดงศักยภาพปกป้องอาณาบริเวณของไทย ปัญหาชายแดน 4 จังหวัด ปะทะตลอดแนว เป็นเรื่องความมั่นคงตามข้อบังคับ จึงเสนอญัตติเพื่อเสนอแนะรัฐบาล ในช่วงที่ ไม่มีนายกฯตัวจริง และไม่มีรมว.กลาโหม ดังนั้นสภาฯต้องมีบทบาทพิทักษ์และปกป้อง

ขณะที่ นายสนอง เทพอักษรณรงค์ สส.บุรีรัมย์ พรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า เห็นด้วยกับการเสนอญัตติด่วน และกระทู้และญัตติไม่สำคัญเท่ากับความมั่นคงของประเทศ โดยเฉพาะเรื่องชายแดน ที่บริเวณช่องบก จ.อุบลราชธานี มีกระสุนปืนใหญ่ตกใส่ชาวบ้าน ไม่รู้มีคนเจ็บกี่คน ดังนั้นรัฐสภาจะนิ่งเฉยไม่ได้ ต้องให้สภาฯเสนอทางออกเพื่อหาทางเยียวยาให้กับประชาชน

อย่างไรก็ดีนายณัฐวุฒิ บัวประทุม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ประท้วงการเสนอญัตติด่วนดังกล่าวและขอให้พักการประชุม เพื่อให้วิปทั้ง 2 ฝ่ายได้หารือร่วมกัน อย่างไรก็ดีมี สส.ของพรรคเพื่อไทยเห็นแย้ง แต่ นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า “ผมเป็นประธานคนเดียว ขอพักการประชุม 15 นาที เพื่อให้ได้เข้าห้องนำ้และรับประทานอาหาร” และได้สั่งพักประชุมเมื่อ 11.52 น.

จากนั้นเวลา12.20น. ได้กลับมาเปิดประชุมอีกครั้ง พร้อมขอให้ตัวแทนวิปทั้ง2ฝ่าย แจ้งผลการหารือ โดยนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล(วิปรัฐบาล) ชี้แจงว่า จากการหารือกับวิปทุกพรรค รวมถึงฝ่ายค้าน เห็นว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นความเดือดร้อนประชาชนอย่างเร่งด่วนไม่ได้คาดคิดมาก่อน ทุกพรรคห่วงใยสถานการณ์ และประเทศชาติบ้านเมือง จึงตกลงกันว่าจะให้มีการยื่นญัตติด่วนต่อสภาฯ โดยจะให้แต่ละพรรคเสนอญัตติแบบเปิดเผยไปก่อน เพื่อให้ประชาชนรับทราบ หลังจากนั้นหากมีการอภิปรายสนับสนุนของแต่ละพรรคก็จะขอให้มีการอภิปรายปิด หรือประชุมลับ เนื่องจากทุกพรรคหารือกันแล้วว่าเป็นสถานการณ์ที่ละเอียดอ่อน อาจกระทบปัญหาระหว่าง2ประเทศ ทำให้ขยายความขัดแย้งรุนแรงขึ้น

ขณะที่นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน ชี้แจงในรายละเอียดว่า ตามข้อตกลงที่ได้ตกลงกัน จำนวนเจ้าของญัตติที่จะเสนอ แบ่งเป็นฝั่งรัฐบาล 3 ญัตติ และฝ่ายค้าน 3 ญัตติ นอกจากนี้ทั้ง2ฝ่ายยังเห็นตรงกันว่าเรื่องนี้ละเอียดอ่อน จึงอยากให้มีการประชุมลับ

ส่วนนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง ในฐานะสส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ยืนยันญัตติเรื่องสถานการณ์ชายแดน รัฐบาลให้ความสำคัญ ขอบคุณที่สภาฯจะให้ข้อคิดเห็นที่เป็นประโยชน์กับรัฐบาล โดยการประชุมบางช่วงอาจเป็นการประชุมลับ เพราะสถานการณ์ละเอียดอ่อน พร้อมเสนอให้ตัวแทนคณะรัฐมนตรี(ครม.) ขึ้นไปบนบัลลังก์เพื่อรับฟังข้อคิดเห็นอีกด้วย

จากนั้นได้ให้ตัวแทนสมาชิกของแต่ละพรรคเสนอญัตติ พบว่ามีทั้งสิ้น 7 ญัตติ แบ่งเป็น ฝ่ายรัฐบาล 4 ญัตติ และฝ่ายค้าน 3 ญัตติ โดยฝั่งสส.พรรคร่วมรัฐบาล นายธเนศ เครือรัตน์ สส.ศรีสะเกษ พรรคเพื่อไทย ได้เสนอญัตติเป็นคนแรก จากนั้นเป็นตัวแทนของพรรครวมไทยสร้างชาติ พรรคประชาธิปัตย์ พรรคกล้าธรรม ลุกขึ้นเสนอญัตติ ส่วนพรรคร่วมฝ่ายค้าน ได้แก่ พรรคประชาชน พรรคภูมิใจไทย และพรรคเป็นธรรม ซึ่งจะให้ตัวแทนเสนอญัตติ พร้อมอภิปรายเหตุผลในการเสนอญัตติ จากนั้นการอภิปรายสนับสนุนของสมาชิก จะเป็นการประชุมลับ

นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า เมื่อญัตตินี้ไม่มีใครเสนออภิปรายลับก็ขอให้สมาชิกอภิปรายระมัดระวังความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ