เมื่อเวลาประมาณ 16.55 น. ของวันที่ 23 ก.ค.68 กำลังพลของกองทัพบกจากชุดลาดตระเวน กองพันทหารราบที่ 14 เหยียบทุ่นระเบิดบริเวณห้วยบอน ช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี ส่งผลให้ได้รับบาดเจ็บรวมทั้งสิ้น 5 นาย โดย 1 นายขาขวาขาดและอีก 4 นายมีอาการแน่นหน้าอก หูอื้อ จากแรงสั่นสะเทือนของแรงระเบิด ปัจจุบันอยู่ระหว่างการรับการรักษาอย่างเร่งด่วน ณ โรงพยาบาลน้ำยืน 

ต่อมา กองทัพภาคที่ 2 ปิดจุดผ่านแดน/ปราสาทตาเมือน-ปราสาทตาควาย

กองทัพภาคที่ 2 ได้ยกระดับมาตรการควบคุมการผ่านแดน โดยกำหนดให้ปิดจุดผ่านแดนตามแนวชายแดนไทย - กัมพูชา และสถานที่ท่องเที่ยวในพื้นที่รับผิดชอบ โดยมีมาตรการ ดังนี้

- งดการผ่านเข้า - ออก ของยานพาหนะทุกประเภท

- งดการเดินทางผ่านเข้า - ของประชาชน การค้าขายทุกประเภท นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ

- งดการเยี่ยมชมปราสาทตาเมือน และปราสาทตาควาย ของนักท่องเที่ยว


*ผบ.ทบ. สั่งเตรียมพร้อมแผน "จักรพงษ์ภูวนารถ"

พล.ท.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) จะลงพื้นที่ในวันนี้ เพื่อติดตามสถานการณ์ และดูแลให้กำลังใจผู้บาดเจ็บ พร้อมได้สั่งการให้กำลังกองทัพภาคที่ 1 กองทัพภาคที่ 2 และกำลังส่วนต่าง ๆ เตรียมพร้อมปฏิบัติตามแผน "จักรพงษ์ภูวนารถ" เมื่อสั่ง

*รักษาการนายกฯ สั่งลดระดับทางการทูต

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย รักษาราชการแทนนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้กองทัพภาคที่ 2 และกองทัพบกได้ทำเรื่องขอเสนอให้ปิดด่านชายแดนของกองทัพภาคที่ 2 ทั้งหมด โดยนักท่องเที่ยวห้ามเข้าเด็ดขาด โดยขณะนี้รัฐบาลสั่งการให้ปิดด่านชายแดนตามที่กองทัพเสนอ และได้พิจารณาแล้วว่าเราจะลดระดับทางการทูต โดยเรียกเอกอัครราชทูตไทยประจำกัมพูชากลับประเทศไทย และส่งเอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำประเทศไทยคืนกลับเขาไปเช่นกัน แล้วจะพิจารณาระดับความสัมพันธ์เพิ่มเติม

นายภูมิธรรม กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ ได้มีการสั่งการให้กระทรวงการต่างประเทศ ยื่นหนังสือประท้วงไปแล้ว ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นระเบิดใหม่ พิสูจน์ทราบได้ว่าเมื่อก่อนเดินลาดตระเวนเราไม่เคยมี แต่ตอนนี้เป็นระเบิดที่เกิดใหม่ทั้งหมดในเวลาใกล้เคียงกัน ดังนั้นเรายกระดับการตอบโต้ที่เหมาะสมที่สุดแล้ว

เมื่อเวลา 07.35 น. เมื่อวันที่ 24 ก.ค.68 หน่วยเฉพาะกิจที่ดูแลพื้นที่ปราสาทตาเมือน รายงานว่า ได้ยินเสียงอากาศยานไร้คนขับ (UAV) ของฝ่ายกัมพูชาบินวนอยู่บริเวณหน้าปราสาทตาเมือนธม แม้ไม่สามารถตรวจพบตัวอากาศยานได้ด้วยสายตา แต่สามารถได้ยินเสียงอย่างชัดเจน

ต่อมา ฝ่ายกัมพูชาได้นำอาวุธเข้าสู่ที่ตั้งบริเวณด้านหน้าแนวลวดหนาม และพบกำลังพลกัมพูชาจำนวน 6 นาย พร้อมอาวุธครบมือรวมทั้ง RPG เดินเข้ามาใกล้แนวลวดหนามบริเวณด้านหน้าฐานปฏิบัติการของไทย ฝ่ายไทยได้ใช้การตะโกนเจรจาเพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งและยกระดับสถานการณ์ โดยฝ่ายไทยเฝ้าระวังตลอดแนวชายแดนเพื่อเตรียมรับสถานการณ์

อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาประมาณ 08.20 น. ฝ่ายกัมพูชาได้เปิดฉากยิงเข้ามาบริเวณตรงข้ามฐานปฏิบัติการทางทิศตะวันออกของปราสาทตาเมือน ในระยะประมาณ 200 เมตร

ขณะนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของกองทัพบกกำลังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากมีข้อมูลเพิ่มเติมจะรายงานความคืบหน้าให้ทราบต่อไป