วันที่ 23 ก.ค.2568 ที่รัฐสภา นายโสภณ ซารัมย์ สส.บุรีรัมย์ พรรคภูมิใจไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการศึกษา สภาผู้แทนราษฎร แถลงว่า กมธ.ได้พิจารณาแนวนโยบาย และประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการจัดการศึกษาในปัจจุบัน มีข้อเสนอแนะคือจากการสูญเสียครูมัท (น.ส.อนุสรา ชวนรัมย์) มีสาเหตุหลักมาจากความคับข้องใจในการปฏิบัติหน้าที่ครูการเงินโรงเรียน ซึ่งโรงเรียนขนาดเล็กมักจะพบกับปัญหานี้อยู่เสมอ เนื่องจากครูมีหน้าที่หลักในการจัดการเรียนการสอน ต้องรับผิดชอบในการจัดการชั้นเรียนให้กับนักเรียนทุกคน และหน้าที่อื่นๆ อีกมากมาย ยังต้องจัดทำเอกสารด้านการเงิน การบัญชี และพัสดุ ให้ถูกต้องตามระเบียบกฎหมาย พร้อมรับการตรวจสอบจากหน่วยงานต้นสังกัดและหน่วยงานภายนอกตลอดเวลา ครูส่วนใหญ่จะไม่มีความรู้ ความเข้าใจหรือพื้นฐานด้านการเงิน การบัญชีและพัสดุ เมื่อปฏิบัติหน้าที่มักจะสุ่มเสี่ยงต่อการกระทำผิดกฎหมาย จึงเป็นเหตุของความเครียด จึงอยากให้มีการทบทวนหรือหาทางออกแห่งปัญหาดังกล่าว โดยเฉพาะโรงเรียนขนาดเล็กที่มีบุคลากรไม่เพียงพอ และการที่ทาง สพฐ. ให้โรงเรียนประถมศึกษา จัดซื้อลำไยให้นักเรียนรับประทาน เพื่อช่วยเหลือเกษตรกร เนื่องจากราคาลำไยตกต่ำอาจมีผลกระทบต่อการจัดทำเมนูอาหารกลางวันของโรงเรียน ตามโปรแกรม Thai School Lunch โรงเรียนก็ได้จัดเมนูอาหาร ซึ่งเป็นผลไม้ตามฤดูกาล ถือเป็นการสนับสนุนเกษตรกรรายย่อยอยู่แล้ว ส่วนการสั่งซื้อลำไยจากเกษตรกรรายใหญ่ ก็ต้องมีภาระเพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็นค่าจัดส่ง ระยะเวลา  การจัดเก็บ อาจเกิดปัญหาเรื่องการเน่าเสียและคุณภาพของอาหารก่อนถึงผู้บริโภคได้

นายโสภณ กล่าวต่อว่า อยากให้ทบทวนพิจารณาจากความขาดแคลนอัตรากำลังครู ให้กับโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษาและโรงเรียนขนาดเล็กที่มีครูไม่ครบชั้นหรือไม่เพียงพอต่อการจัดการเรียนการสอน ส่งผลต่อการต่อการจัดการเรียนการสอนและคุณภาพด้านการศึกษาของประเทศในระยะยาว ทั้งนี้ควรปรับหลักเกณฑ์ในการกำหนดอัตรากำลังให้เหมาะสม เปิดโอกาสให้ครูได้ย้ายหรือเกลี่ยอัตรากำลังให้กับโรงเรียนดังกล่าวตามความสมัครใจ รวมทั้งเพิ่มสวัสดิการแก่ครูและบุคลากรทางการศึกษาให้มากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นค่าตอบแทนพิเศษ หรือสวัสดิการด้านอื่นๆ เพื่อเป็นขวัญกำลังใจ และสร้างแรงจูงใจ ให้กับครูและบุคลากรของโรงเรียนขนาดเล็ก ดังนั้นการลดภาระครู แม้จะมีนโยบายออกมาอย่างต่อเนื่อง แต่แท้จริงแล้ว ครูก็ยังมีภาระอื่น

ประธานกมธ.ศึกษา กล่าวอีกว่า นอกเหนือจากการจัดการเรียนการสอนและงานในหน้าที่ที่มากเหมือนเดิม เช่น การประกวดตามนโยบาย โครงการหรือกิจกรรมต่างๆ ทั้งหน่วยงานภายใน และหน่วยงานภายนอกมีหลายร้อยรายการ และมีหลายรายการมีความซ้ำซ้อนของเนื้อหาประกวด อาทิเช่น ITA โรงเรียนสีขาว  โรงเรียนสุจริต  รวมถึงการประเมินอีกหลายรายการ โดยเฉพาะการประเมิน ของ สมศ. ถือว่าเป็นภาระของครูเป็นอย่างมาก ที่จะต้องจัดเตรียมจัดทำ จัดเตรียม จัดหา เอกสารหลักฐานเพื่อรองรับการประเมิน จึงเห็นควรยกเลิกการประเมินภายนอก จาก สมศ. เพื่อลดภาระงานครู

“ต้องการให้กระทรวงศึกษาธิการเร่งกระจายอำนาจให้สถานศึกษาอย่างแท้จริง และไม่เห็นด้วยที่ให้ สกสค.ไปตั้งสหกรณ์ ซึ่งจากปัญหาด้านการศึกษา กมธ.อยากให้รัฐบาลเห็นควรให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เร่งนำเสนอร่างพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ โดยด่วน”นายโสภณ กล่าว