วันที่ 23 ก.ค.2568 เมื่อเวลา10.00 น.ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คมนาคม ในฐานะแกนนำพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีงานดินเนอร์พรรคร่วมรัฐบาลเมื่อวันที่ 22 ก.ค.ที่ผ่านมา ที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ประกาศว่าจะจับมือกับพรรคร่วมรัฐบาลปัจจุบันไปจนถึงหลังการเลือกตั้งครั้งหน้าว่า สิ่งที่นายทักษิณพูด ก็เป็นเรื่องที่พรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคอยากจะจับมือกันอยู่แล้ว ซึ่งปกติหลังการเลือกตั้งพรรคร่วมรัฐบาลเดิมก็คิดที่จะจับมือกันกับรัฐบาลเดิมเป็นอันดับแรก หัวหน้าพรรคทุกพรรคก็คิดเช่นนั้น ดังนั้น สิ่งที่นายทักษิณ พูดไม่ใช่เรื่องแปลก
เมื่อถามว่า การพูดเช่นนี้เหมือน เป็นการตัดพรรคภูมิใจไทยออกจากสมการ ไม่สามารถจับมือกันได้ในอนาคตแล้วใช่หรือไม่ นายสุริยะ กล่าวว่า ปกติภายหลังการเลือกตั้ง เราก็จะมาดูผลแพ้ชนะว่าเป็นอย่างไร หากพรรคร่วมรัฐบาลเดิมจับมือกันแล้วได้เสียงเกินไปเยอะ ก็ไม่จำเป็นต้องหาเสียงจากพรรคฝ่ายค้านเดิมมาร่วม แต่หากไม่เพียงพอ ก็ต้องไปพูดจากัน
เมื่อถามว่า ครั้งนี้จำนวนเสียงปริ่มนํ้า นายทักษิณ ขอให้ทุกพรรคสามัคคีและจับมือกัน โดยเฉพาะการดูแลเสียงในสภา ที่เคยทำหน้าที่ ที่ผ่านมา ทำบัญชีเพื่อประสานกับ ส.ส.ซึ่งคนอาจจะมองว่าเป็นการจ่ายเงินจ่ายทองหรือไม่ นายสุริยะ กล่าวว่า คงไม่ใช่ การที่มีเสียงปริ่มนํ้า จะทำให้พรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรครู้ดีว่าจะต้องมีความสามัคคีกันให้มากขึ้น ขณะเดียวกันถ้าเสียงเกินไปพอประมาณ ก็อาจทำให้มีการประมาท และอาจทำให้เป็นปัญหามากกว่าเสียงปริ่มนํ้าก็ได้
เมื่อถามว่า การที่นายทักษิณมาพูดในงานของพรรคร่วมรัฐบาล อาจทำให้มีผู้ไปร้องว่าเป็นการครอบงำรัฐบาล นายสุริยะ กล่าวว่า เท่าที่ตนฟังดู ก็ไม่เห็นมีตรงไหนที่เป็นการครอบงำรัฐบาล เพราะทุกอย่างเป็นเรื่องพรรคร่วมรัฐบาลที่จะตัดสินใจ นายทักษิณ คงไม่สามารถบังคับพรรคร่วมรัฐบาล หรือแม้แต่พรรคเพื่อไทยได้ เพราะทุกพรรคก็มีกรรมการบริหารพรรคดำเนินการอยู่ แต่การที่ท่านมาพูด เพราะเป็นคนที่เคยมีประสบการณ์ จึงมาแชร์ให้พรรคร่วมรัฐบาลทราบ
เมื่อถามว่า นายทักษิณประกาศว่าได้ลูกมาเป็นนายกรัฐมนตรี และได้พ่อมาช่วยงานด้วย ทำให้แยกเรื่องการครอบงำไม่ได้ นายสุริยะ กล่าวว่า ความเป็นพ่อลูก การมาพูดคุยกัน มาแชร์ประสบการณ์กัน เป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว ไม่ได้มีเรื่องการครอบงำแต่อย่างใด