วันที่ 23 ก.ค.68 บรรยงค์ สุวรรณผ่อง โพสต์ข้อความผ่าน เฟซบุ๊ก Banyong Suwanpong ระบุว่า...
ถลกขแมร์ 6: ตัวอักษร - ไทยลอกเขมร (?)
ไทยกับขอม (ที่ไม่ใช่เขมร) สัมพันธ์กันมาช้านานก่อนสมัยสุโขทัย ภาษาจึงเชื่อมโยงกัน เมื่อขอมเสื่อมสลาย ขณะที่ไทยเป็นปึกแผ่น ตั้งสุโขทัยเป็นราชธานี แล้วประดิษฐ์ 'ลายสือไทย' ขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อพุทธศักราช 1826 ดังปรากฏหลักฐานในศิลาจารึกพ่อขุนรามคำแหง หลักที่ 1 (ตั้งแสดงที่พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ พระนคร) แล้วมีพัฒนาการตามยุคสมัย อาทิ 'อักษรพระยาลิไท' และ 'อักษรพระนารายณ์' จนคงรูปเป็นอักษรไทยปัจจุบัน
ศิลาจารึกพ่อขุนรามคำแหง ได้รับการขึ้นทะเบียนมรดกความทรงจำโลก (the Memory of the World Register) โดยองค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (United Nations Educational, Scientific and Cultural Organization: UNESCO) เมื่อ 16 ตุลาคม 2546
ส่วนเขมร เพิ่งมีภาษาเขียนเมื่อสมเด็จพระสุคนธาธิบดี (ปาน) เข้ามาบวชเป็นพระที่วัดสระเกศ แล้วถวายตัวเป็นศิษย์ของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ร่ำเรียนเป็นพระเปรียญ ได้นำต้นแบบอักษรขอมฉบับสยามพัฒนา และตัวเลขสยาม ไปประดิษฐ์เป็นอักษรเขมร - พระสุคนธาธิบดีต่อมา ได้เป็นพระสังฆราชกัมพูชา
การเหมาว่าไทยลอกอักษรเขมร ไม่ใช่เรื่องแรก ทั้งเสื้อผ้าอาภรณ์ ศิลปะการต่อสู้ ไม่เว้นแม้วรรณกรรมที่นำมาสอดแทรก ก็ถูกเหมามาแล้ว ประสาอะไรกับ 3 ปราสาท ในดินแดนอธิปไตยไทย
ภาพ: ประกาศนียบัตรการขึ้นทะเบียนศิลาจารึกพ่อขุนรามคำแหง เป็นมรดกความทรงจำโลก โดย UNESCO เมื่อ 16 ตุลาคม 2546