เมื่อวันที่ 20 ก.ค.68 พล.ต.ต.ทรงกลด เกริกกฤตยา ผบก.ปคม., พ.ต.อ.กรีธา ตันคณารัตน์ , พ.ต.อ.ดวงโชติ สุวรรณจรัส , พ.ต.อ.รัชภูมิ กุสุมาลย์ รอง ผบก.ปคม., สั่งการ พ.ต.อ.ศราวุธ จันต๊ะวงค์ ผกก.3 บก.ปคม., พ.ต.ท.พลวุฒิ ผาตินุวัติ, พ.ต.ท.ทรงวุฒิ ใจดีจริง รอง ผกก.3 บก.ปคม.พ.ต.ท.ศักดิ์สิทธิ์ นิลมิตร สว.กก.3 บก.ปคม. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ปคม. ปฏิบัติการทลายแหล่งค้าประเวณีเด็กในพื้นที่อำเภอบ้านดุง จังหวัดอุดรธานี สามารถจับกุม นางสาวศิริจรรยาฯ อายุ 46 ปี ข้อหา “ค้ามนุษย์ ด้วยการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากการค้าประเวณีฯ
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบทราบว่า มีร้านคาราโอเกะแห่งหนึ่งแอบแฝงการค้าประเวณีเด็กอายุไม่ถึง 18 ปี จึงวางแผนส่งสายลับแฝงตัวเป็นลูกค้าเข้าไปในร้านดังกล่าว บริเวณตรอกโนนกกบาก หมู่ 1 ตำบลบ้านดุง อำเภอบ้านดุง จังหวัดอุดรธานี
สายลับสังเกตเห็นเด็กหญิง 3 คน ซึ่งเชื่อว่าอายุไม่ถึง 18 ปี คอยให้บริการลูกค้า และได้เสนอขายบริการทางเพศในราคาคนละ 1,500 บาท รวม 3 คน เป็นเงิน 4,500 บาท โดยให้สายลับนำเงินไปจ่ายกับ นางสาวศิริจรรยาฯ อายุ 46 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของร้าน หลังจากตกลงกันได้ สายลับจึงนำเงินที่เตรียมไว้จำนวน 4,500 บาท ไปจ่ายให้กับนางสาวศิริจรรยาฯ และพาเด็กสาวออกจากร้านไปยังรีสอร์ทแห่งหนึ่ง
เมื่อถึงห้องพัก สายลับได้ส่งสัญญาณให้ชุดจับกุมที่ซุ่มรออยู่เข้าดำเนินการทันที เจ้าหน้าที่แสดงตัวพร้อมเข้าตรวจค้นภายในร้าน พบเงินสดที่ใช้ล่อซื้อ อยู่กับนางสาวศิริจรรยาฯ ในเวลาเดียวกัน เจ้าหน้าที่ได้เข้าช่วยเหลือเหยื่อเด็กสาวผู้เสียหายได้ 3 ราย ซึ่งทั้งหมดอายุ 16 ปี ที่ถูกชักชวนมาขายบริการทางเพศที่ร้านดังกล่าว อีกด้วย
สอบสวน นางสาวศิริจรรยาฯ ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาว่า ตนเองเปิดร้านคาราโอเกะและชักชวนเด็กผู้หญิงมาขายบริการทางเพศ โดยหักค่าหัวคิว 300 บาทต่อคน เหลือให้เด็ก 1,200 บาท ก่อนควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไป
ขณะที่ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ย้ำเตือนภัยว่า การค้าบริการเด็กเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องให้ความสนใจอย่างยิ่ง เนื่องจากเด็กที่ถูกล่อลวงเข้าสู่วงจรค้าประเวณีจะได้รับผลกระทบทั้งทางร่างกายและจิตใจอย่างรุนแรง ครอบครัวและสังคมต้องร่วมมือกันในการป้องกันและแก้ไขปัญหานี้อย่างเร่งด่วน