วันที่ 20 กรกฎาคม 2568 ที่ สภ. พนมดงรัก จ.สุรินทร์ พล.ต.ท.วัฒนา ยี่จีน ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 ออกคำสั่งด่วนให้ทุกหน่วยในสังกัดเร่งยกระดับการเตรียมพร้อมสูงสุด หลังพบสัญญาณความเคลื่อนไหวผิดปกติบริเวณแนวชายแดนไทย–กัมพูชา โดยเฉพาะพื้นที่ใกล้ ปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งอยู่ห่างจากชายแดนไม่ถึง 1 กิโลเมตร
พล.ต.ท.วัฒนา กล่าวย้ำว่า การปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ต้องอยู่บนหลักกฎหมาย ความอดทน และความเป็นมืออาชีพ โดยเฉพาะในช่วงที่สถานการณ์ชายแดนอาจเกิดความตึงเครียด “เราจะไม่ปล่อยให้ความไม่มั่นคงข้ามพรมแดนเข้ามา ความปลอดภัยของประชาชนคือภารกิจสูงสุดของตำรวจภูธรภาค 3 ขอให้กำลังพลทุกนายปฏิบัติหน้าที่ด้วยความอดทน อดกลั้น ยึดหลักกฎหมาย และหลักยุทธวิธีอย่างเคร่งครัด”
พล.ต.ท.วัฒนา กล่าวว่า พื้นที่เป้าหมายเฝ้าระวังเข้มหน่วยงานในสังกัดตำรวจภูธรภาค 3 ได้รับคำสั่งให้ยกระดับมาตรการรักษาความปลอดภัยใน 4 จังหวัดชายแดน ได้แก่: • สุรินทร์ • บุรีรัมย์ • ศรีสะเกษ • อุบลราชธานี
โดยเฉพาะ อำเภอพนมดงรัก จ.สุรินทร์ ที่มีชายแดนติดต่อโดยตรงกับกัมพูชา และอยู่ใกล้โบราณสถานสำคัญอย่าง “ปราสาทตาเมือนธม” ซึ่งถือเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่มีความอ่อนไหวทั้งทางประวัติศาสตร์และความมั่นคง
พล.ต.ท.วัฒนา. กล่าวว่า สำหรับมาตรการภาคสนาม เพื่อความมั่นคงของพื้นที่และความปลอดภัยของประชาชน ได้สั่งการดังนี้:1. จัดตั้งจุดตรวจถาวร 24 ชั่วโมงบริเวณรอบแนวป่าใกล้ชายแดน 2. ติดตั้งกล้องวงจรปิดเชื่อมศูนย์สั่งการ และใช้ โดรนบินลาดตระเวน เพื่อตรวจการณ์ต่อเนื่อง. 3. ประสานหน่วยข่าวกรองตำรวจ–ทหาร–ฝ่ายปกครอง เพื่อวิเคราะห์และประเมินสถานการณ์ล่วงหน้า 4. จัดตั้ง ศูนย์ปฏิบัติการส่วนหน้า (ศปก.) ณ สภ.พนมดงรัก ให้เป็นฐานบัญชาการภาคสนาม โดยมี พล.ต.ต.ประสงค์ เรืองเดช รอง ผบช.ภ.3 เป็นผู้บัญชาการประจำพื้นที่ 5. วางแผนอพยพประชาชนหมู่บ้านแนวชายแดน หากสถานการณ์บานปลาย 6. จัดชุดปฏิบัติการร่วม (ตำรวจ–ฝ่ายปกครอง–อปพร.–อาสาสมัคร) ดูแลหมู่บ้าน–โรงเรียน–สถานพยาบาล–ศูนย์ราชการทุกจุด
พร้อมปกป้องประชาชนคือภารกิจสูงสุด นอกจากนี้ได้สั่งการให้ทุกสถานีตำรวจในแนวชายแดนเตรียมพร้อมอย่างเต็มที่ในการดูแลชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน โดยเน้นปกป้อง: • โรงพยาบาลพนมดงรัก และสถานพยาบาลใกล้เคียง • โรงเรียนในรัศมี 30 กิโลเมตร
• ศูนย์ราชการ–อปท.–ศูนย์อพยพ • หมู่บ้านในแนวตะเข็บชายแดนทุกแห่ง
ส่วนสถานการณ์ล่าสุด (เวลา 14.30 น.)
• พื้นที่ยังคง สงบเรียบร้อย แต่มีการเฝ้าระวังสูงสุด
• เจ้าหน้าที่ทุกจังหวัดในความรับผิดชอบของ ภ.3 ได้รับคำสั่งเตรียมพร้อม 100% • ศูนย์บัญชาการเฉพาะกิจชายแดนไทย–กัมพูชา เริ่มปฏิบัติการแล้ว
• หน่วยความมั่นคงอื่นพร้อมให้การสนับสนุนเมื่อมีการร้องขอทันที. “ในภาวะที่พื้นที่ชายแดนเผชิญกับความตึงเครียด เจ้าหน้าที่ทุกนายต้องมีวินัย ใช้สติ ไม่ตอบโต้โดยใช้อารมณ์ และยึดมั่นในความปลอดภัยของประชาชนเป็นหัวใจหลักของการปฏิบัติหน้าที่”