เมื่อการท่องเที่ยวไทยอยู่ท่ามกลางความผันผวนของเศรษฐกิจโลก รวมถึงการเมือง และเศรษฐกิจไทยเองแต่ถึงอย่านั้นรายได้หลักจำเป็นจะต้องพึ่งพิงกับการท่องเที่ยวเป็นหลัก จึงทำให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ ททท.ซึ่งเป็นเสาหลักในการขับเคลื่อนตลาด โฟกัสการขับเคลื่อนการท่องเที่ยวยั่งยืน ด้วยการเน้นคุณภาพมากกว่าจำนวนนักท่องเที่ยว เน้นเจาะกลุ่มท่องเที่ยวเฉพาะเซ็กเม้นท์ ชูและ SOFT POWER เสน่ห์ไทยทั้ง 77 จังหวัด
เจาะนทท.คุณภาพ-ยกระดับสินค้า
นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ ททท. กล่าวถึง การประชุมบูรณาการแผนปฏิบัติการ ททท. ปี 2569 (Tourism Authority of Thailand Action Plan 2026 : TATAP 2026) ได้มีกรอบปฏิบัติงานในการเดินหน้าขับเคลื่อนอุตสาหกรรมท่องเที่ยว มุ่งปรับสมดุลโครงสร้างตลาด เจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพ และยกระดับสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวสู่มาตรฐานความยั่งยืน (Move toward Sustainability)
ดังนั้น ในปี 2569 ททท. จะเน้นกระตุ้นการใช้จ่าย และวันพักเฉลี่ยของนักท่องเที่ยวให้เพิ่มขึ้น รวมถึงโฟกัสการเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวในกลุ่มอินเซ็นทีฟ เวดดิ้ง เฮลธ์แอนด์เวลเนส ด้วยกลยุทธ์ แอร์ไลน์ส โฟกัส รวมถึงกระตุ้นไทยเที่ยวไทย เพื่อบริหารความเสี่ยง ควบคู่กับการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ เพื่อสร้างรายได้ในระยะสั้น และวางรากฐานที่แข็งแกร่งสำหรับการเติบโตที่ยั่งยืนในระยะยาว ผ่านแนวคิดหลัก เดินหน้าอย่างมีเป้าหมาย ทำงานด้วยข้อมูล บูรณาการเครือข่ายอย่างมืออาชีพ และปรับตัวให้ทันสถานการณ์
ซึ่งตลาดระยะใกล้และระยะไกล ส่งเสริมเศรษฐกิจฐานราก กระจายรายได้สู่ผู้ประกอบการท้องถิ่นผ่านการเชื่อมโยงการท่องเที่ยวเมืองหลักสู่เมืองน่าเที่ยว และเตรียมพร้อมรับมือวิกฤตในทุกรูปแบบ ขณะเดียวกันต้องส่งเสริมให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวตระหนักและปรับตัวสู่ความยั่งยืนในทุกมิติ โดยตลาดต่างประเทศเน้นตลาดหลัก-ศักยภาพ-ใหม่ เพิ่มเที่ยวบิน และสร้างพันธมิตร ด้านตลาดในประเทศ ผลักดันเมืองรอง วันหยุดยาว แคมเปญระดับชาติ การสื่อสารการตลาด เสริมแบรนด์ Amazing Thailand เน้นสื่อสารเชิงสร้างสรรค์ รับมือวิกฤต ด้านข้อมูลและดิจิทัล พัฒนาระบบข้อมูลแม่นยำ ทันเหตุการณ์ ใช้งานได้จริง
ขณะที่ ตลาดในประเทศจะมุ่งเพิ่มความถี่ในการเดินทางของคนไทยทั้งภายในภูมิภาคและข้ามภูมิภาคด้วยการจัดกิจกรรมและบิ๊กอีเวนต์ให้เกิดการเดินทางตลอดทั้งปี การใช้กลยุทธ์ City Marketing นำเสนอจุดขายใหม่ๆ พร้อมบอกเล่าเรื่องราวเสน่ห์ไทย เพื่อส่งเสริมการเดินทางสู่เมืองน่าเที่ยว การสร้างสมดุลตลาดระหว่างนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติในพื้นที่เมืองหลักยอดนิยม ทั้งในเชิงพื้นที่และเวลา
ทั้งนี้ นางสาวฐาปนีย์ กล่าวว่า ในปี 2569 ททท.ตั้งเป้าการเติบโตของรายได้เพิ่มขึ้น 7 % จากปี 2568 หรือไม่ต่ำกว่า 3 ล้านล้านบาท จากแนวโน้มรายได้การท่องเที่ยวในปี 2568 ที่คาดว่าอยู่ที่ 2.87 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศของคนไทย 1.1 ล้านล้านบาท และรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ 1.7 ล้านล้านบาท ขณะที่จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติน่าจะใกล้เคียงกับปี 2567 คืออยู่ที่ราว 35 ล้านคน
กระตุ้นตลาดนทท.ต่างประเทศเชิงรุก
ด้าน นางสาวภัทรอนงค์ ณ เชียงใหม่ รองผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ ททท.ด้านตลาดเอเชีย และแปซิฟิกใต้ กล่าวว่า การสร้างเครือข่ายอุตสาหกรรมการบินและการท่องเที่ยว เพื่อเดินหน้ากระตุ้นตลาดนักท่องเที่ยวต่างประเทศเชิงรุก ทั้งกลุ่มตลาดระยะใกล้ (Short-haul) กลุ่มตลาดระยะไกล (Long-haul) และการท่องเที่ยวในเมืองรอง ของประเทศไทย โดยการผสานความร่วมมือกับสายการบินและหน่วยงานพันธมิตรเข้าร่วมกว่า 50 หน่วยงาน เพื่อเสริมการท่องเที่ยวทั้งในด้านการตลาด ช่วยผลักดันการดำเนินงานได้อย่างตรงจุด เพื่อผลักดันการท่องเที่ยวปลายปีให้บรรลุเป้าหมายจำนวนนักท่องเที่ยว 39 ล้านคนตามที่วางไว้
โดย นางสาวภัทรอนงค์ กล่าวต่อว่า ด้วยการสนับสนุนจากรัฐบาลทั้งเที่ยวบินเช่าเหมาลำ (Charter Flight) และสนับสนุนเที่ยวบินพาณิชย์ (Commercial Flight) กับสายการบินทั้งในและต่างประเทศมากขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังน่าจะกระตุ้นนักท่องเที่ยวให้เดินทางเข้าไทยมากขึ้น ซึ่ง ททท.ยังคงมุ่งเป้าฟื้นการท่องเที่ยวเต็มที่ โดยใช้กลยุทธ์ดันตลาดระยะใกล้ที่ยังฟื้นตัวไม่เต็มที่ โดยเฉพาะจีนและอาเซียน พร้อมส่งเสริมตลาดอินเดียและโอเชียเนียเป็นดาวรุ่ง ขณะที่ตลาดระยะไกลยังคงมีบทบาทสำคัญในการสร้างรายได้
สำหรับแนวนโยบายเร่งฟื้นตลาดระยะใกล้นั้น ททท.จะชูกลยุทธ์ 3 แกนหลัก ประกอบด้วย 1 ยกระดับรายได้ต่อหัวนักท่องเที่ยว โดยเน้นกลุ่มที่มีค่าใช้จ่ายสูง เพิ่มความถี่ในการเดินทาง และขยายระยะพำนัก 2.กระจายการเดินทางตลอดปี ลดฤดูกาลท่องเที่ยว เพื่อลดความแออัด และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ทรัพยากร เช่น ที่พักและเที่ยวบิน และรักษาตลาดหลักที่มีจำนวนนักท่องเที่ยวหลักล้านคน เช่น จีน มาเลเซีย อินเดีย ญี่ปุ่น และเกาหลี พร้อมหาตลาดใหม่ที่มีศักยภาพให้เติบโตจนแตะระดับล้านคนต่อปี
ส่วน นางจิระวดี คุณทรัพย์”รองผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ ททท.ด้านตลาดยุโรป อเมริกา ตะวันออกกลาง และแอฟริกา กล่าวว่า ตลาดระยะไกล หรือ Long-Haul Market ในครึ่งปีหลังนี้ได้เร่งเครื่องเต็มสูบพร้อมตั้งเป้าดันสัดส่วนนักท่องเที่ยวจากกลุ่มนี้ให้ถึง 10.74 ล้านคน คิดเป็น 28% ของนักท่องเที่ยวต่างชาติเป้าหมายทั้งปีที่ 39 ล้านคน ซึ่งหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ช่วยกระตุ้นการเติบโต คือการเพิ่มเที่ยวบินตรงจากสายการบินหลัก รวมถึงเที่ยวบินใหม่ที่เชื่อมต่อเมืองรองโดยตรงจะช่วยกระจายตัวนักท่องเที่ยวจากเมืองหลัก และลดแรงกดดันจากโอเวอร์ทัวริซึ่ม