# น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม  ได้รับมอบหมายจากคณะรัฐมนตรีให้ร่วมคณะกับ พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม เดินทางไปยังโรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี เพื่อเยี่ยมให้กำลังใจทหารพราน 3 นาย ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุเหยียบกับระเบิดในพื้นที่ช่องบก อำเภอน้ำยืน จ.อุบลราชธานี ที่ผ่านมา

พร้อมมอบสิ่งของจำเป็นให้แก่กำลังพล 3นายได้แก่ พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน, ส.อ.ปฏิพัทธิ์ ศรีลาศักดิ์ และพลทหารณัฐวุฒิ ศรีเข้ม และกล่าวยกย่องความกล้าหาญและเสียสละของทั้ง 3 นาย

# นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลได้รับรายงานการประชุม ศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา (ศบ.ทก.) มีรายละเอียดเกี่ยวกับ ทหารออกลาดตระเวนเหยียบทุ่นระเบิดดังกล่าว ขณะนี้กองทัพบกส่งหน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดด้านมนุษยธรรม (นปท.) เข้าพื้นที่เพื่อเก็บหลักฐานและดำเนินการวิเคราะห์โดยผู้เชี่ยวชาญด้านวัตถุระเบิด คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2–3 วัน เพื่อพิสูจน์ชนิดของทุ่นระเบิดและช่วงเวลาที่ถูกนำมาติดตั้ง

หากพบว่าเป็นทุ่นระเบิดที่ถูกวางใหม่ จะถือเป็นการละเมิดต่อ “อนุสัญญาออตตาวา” ว่าด้วยการห้ามใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ซึ่งไทยและกัมพูชาเป็นภาคีมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2542  รัฐบาลไทยขอยืนยันว่า หากพบว่าเป็นการกระทำใหม่จะไม่เพิกเฉย  จะดำเนินการตอบโต้ที่ชัดเจนและจะดำเนินการตามข้อเท็จจริงโดยยึดหลักสากล 

# นายสุชาติ  ตระกูลเกษมสุข  ประธานคณะกรรมการ ป.ป.ช. ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ ป.ป.ช. ตั้งองค์คณะไต่สวนคลิปเสียงสนทนาระหว่าง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กับสมเด็จฯ ฮุน เซน​ ว่า​ ​ เรื่องนี้มาถึงขั้นตอนการไต่สวนแล้ว​ โดยกรรมการ​ ป.ป.ช ทั้งคณะเป็นคณะกรรมการไต่สวน​ และมีตนเองนั่งเป็นประธาน​ และเป็นผู้รับผิดชอบส่วนกรอบระยะเวลาการไต่สวน เป็นไปตามกฎหมาย​ คือ​ 2 ปี + 1 ปี แต่ตนได้มอบนโยบายไปแล้ว​ว่า​ คดีอะไรที่มีความสำคัญที่ประชาชนสนใจ เราจะทำให้เร็วยิ่งขึ้น​ มีกรอบระยะเวลาที่ชัดเจน