“ชัช เตาปูน” หนุน “พีระพันธุ์” เดินหน้าปฏิรูปโครงสร้างไฟฟ้า ช่วยคนจน

หมายเหตุ : “ชัชวาลล์ คงอุดม”  สส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ  ให้สัมภาษณ์พิเศษรายการ “สยามรัฐสัปดาหวิจารณ์” ออกอากาศทางช่องยูทูบ Siamrathonline  เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2568 โดยได้วิเคราะห์และสะท้อนถึงปัญหาค่าไฟฟ้าแพง ซึ่งเป็นหนึ่งในปัญหาที่กระทบต่อค่าครองชีพของประชาชนคนไทยทั้งประเทศ  ล่าสุดมีความคืบหน้าในการแก้ปัญหาด้วยการปฏิรูปโครงสร้างไฟฟ้าทั้งประเทศ โดย “นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค” รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน มีสาระที่น่าสนใจดังนี้

- ปัญหาปากท้องของประชาชนที่ส่วนหนึ่งมาจากค่าไฟฟ้าที่สูง ในฐานะที่มีความใกล้ชิดกับประชาชน ได้รับเสียงสะท้อนอย่างไรบ้าง

ที่ได้รับเสียงสะท้อนคือพี่น้องประชาชนต่างบ่นกันแทบทุกบ้านว่าทำไม ค่าไฟแพงขึ้น เราก็มีความรู้สึกว่าหากมีอะไรที่สามารถแก้ไขได้ ก็อยากให้ช่วยแก้ไขกัน อะไรที่ไม่ควรให้เสียประโยชน์ ก็อย่าให้เสียไป เราอยากให้เป็นอย่างนั้น

- ปัญหาเหล่านี้สะสมมาหลายยุคแล้ว แต่ก็ยังไม่มีใครมองเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ ล่าสุดทางกระทรวงพลังงานเอง โดยเฉพาะรัฐมนตรีฯพีระพันธุ์ เตรียมเดินหน้าผ่าระบบโครงสร้างไฟฟ้าของประเทศ ถ้าสามารถทำได้ จะช่วยแก้ไขปัญหาระยะยาวได้หรือไม่

ได้แน่นอน เพราะถ้าค่าไฟฟ้าไม่สูงมากเกินกว่าเหตุ  ภาระค่าใช้จ่ายในบ้านจะลดลง สมมติเราอาจจะเสียค่าไฟฟ้าเดือนละ 4พันบาท แต่ถ้าลดลงมาได้เหลือ 2,500 บาทส่วนที่เหลืออีก 1,500 บาท ยังเหลือไปให้ลูกๆไปเรียนหนังสือได้  ให้ลูกไปรับประทานอาหารได้อิ่ม

-นอกจากประชาชนที่จะได้รับประโยชน์ ยังอาจมีในส่วนของกลุ่มเอสเอ็มอี ภาคธุรกิจขนาดย่อม น่าจะได้ประโยชน์ไปด้วย

ถูกต้อง เนื่องจากปัญหาค่าไฟฟ้า นั้นกระทบแทบทุกอย่าง ในส่วนของโรงงานเองก็ต้องใช้ไฟ ดังนั้นหากลดค่าไฟฟ้าลงได้เกือบครึ่ง จะส่งผลให้ต้นทุนทางธุรกิจลดลง และยังช่วยไปถึงประชาชนที่มาจับจ่ายซื้อของอีกด้วย จะทำให้อะไรๆลดลงได้ ความเป็นอยู่ก็จะดีขึ้นตามมา

ยังจะทำให้มีเงินเหลืออยู่ในครอบครัวอีกมาก สามารถนำไปใช้เรื่องอื่นๆได้อีก  ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการศึกษา หรือแม้แต่เรื่องการซื้อชุดนักเรียนให้ลูกๆ ผู้ปกครองไม่ต้องวิตก

-โดยเฉพาะในสถานการณ์เศรษฐกิจไทยที่ฝืดเคือง และเรายังอาจได้รับผลกระทบจากนโยบายภาษีของสหรัฐฯ ถ้ารัฐบาลแก้ปัญหาได้อย่างยั่งยืน จะถือเป็นเรื่องที่ดีมาก

เท่าที่ทราบ คุณพีระพันธุ์ ได้ให้ความสำคัญเรื่องนี้มาก  เห็นปัญหา ในเรื่องค่าความพร้อมจ่าย ซึ่งเรื่องนี้ถือเป็นต้นทุน ที่รัฐต้องจ่าย ปีละประมาณ1แสนล้านบาท ซึ่งที่ผ่านมามีบริษัทที่รับเงินส่วนนี้ไปแล้ว เดือนละประมาณ 3 พันล้านบาท แม้จะไม่มีการจ่ายกระแสไฟฟ้า  เรื่องนี้น่าเป็นห่วงว่า ทำไมจะต้องให้ประชาชนไปเสียแทนด้วย

- ประเด็นนี้ในเรื่องของเอกชนที่รัฐไปทำสัญญาไว้ ย่อมได้ประโยชน์ แต่ประชาชนได้รับผลกระทบ และเป็นการผลักภาระมาให้

เรื่องนี้ประชาชน ไม่ควรต้องมารับภาระ แต่ควรจะทำอย่างไรที่จะช่วยลดค่าใช้จ่ายให้กับประชาชน เพื่อให้ชีวิตประชาชนดีขึ้น

- ล่าสุดมีความคืบหน้าในส่วนของกระทรวงพลังงาน เตรียมเดินหน้าปฏิรูประบบโครงสร้างไฟฟ้าทั้งประเทศ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม และยั่งยืน แต่เรื่องนี้ต้องอาศัยเวลา และการผลักดันข้อกฎหมายออกมาบังคับใช้ แต่ขณะเดียวกันมีแรงกดดันไปที่ตัวคุณพีระพันธุ์

สิ่งที่คุณพีระพันธุ์ ยอมทนให้คนวิพากษ์วิจารณ์ ซึ่งบางครั้งคนก็เข้าใจท่านผิด ซึ่งท่านเองไม่ได้มีความต้องการ อยากจะเป็นใหญ่หรือมีอำนาจแต่อย่างใด ซึ่งเรื่องนี้ทราบว่ามีการเสนอไปแล้ว อยากให้ผ่านกฎหมายออกมา

ในส่วนของนายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร เอง ก็ยังมีประเด็นที่ต้องรอการวินิจฉัยจากศาลรัฐธรรมนูญ เราคนไทยถึงอย่างไรต้องให้เกียรติกัน ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญ ยังไม่ได้ตัดสินอะไรออกมา ดังนั้นจะให้ไปทิ้งกันเลย คงไม่ใช่

นอกจากนี้ประชาชนยังจะได้ประโยชน์ จากการปฏิรูปโครงสร้างไฟฟ้าทั้งประเทศ โดยการผลักดันของคุณพีระพันธุ์

- หนึ่งในแผนของการปฏิรูประบบโครงสร้างไฟฟ้า ทราบว่าเตรียมที่จะมีการรื้อแผนพัฒนากำลังการผลิต โดยให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) มีบทบาทมากขึ้น ลดการพึ่งพา หากทำได้จะมีประโยชน์มาก

ที่คุณพีระพันธุ์ เคยเล่าให้ฟัง คือต้องการให้เราใช้ศักยภาพของสิ่งที่เรามีอยู่แล้ว ก็ผลิตไฟฟ้าเอง ลดการพึ่งพา เมื่อผลิตไปเองก็สามารถส่งไปยังการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ตามต่างจังหวัด  ในส่วนกลางที่กรุงเทพฯ ก็มีการไฟฟ้านครหลวงอยู่แล้ว สิ่งเหล่านี้จะสามารถลดรายจ่ายได้

- นอกจากนี้ยังมีแผนผลักดันกฎหมาย ส่งเสริมการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ ให้ประชาชนสามารถเข้าถึงการติดโซลาร์ เซลล์ ได้ในราคาที่ถูกลง จะมีการลดขั้นตอนต่างๆ หากทำได้ จะได้เห็นอะไรจากนี้ไป

ชัดเจนว่าหากทำได้ จะสามารถลดค่าไฟฟ้าได้มากกว่าครึ่ง และยังลดมลภาวะไปได้ด้วย เรื่องของการขอติดตั้งโซลาร์เซลล์ จะทำได้ง่ายขึ้น เพียงแต่แจ้งให้ทราบ สามารถติดตั้งได้เลย ผมเชื่อว่าอะไรๆก็จะดีขึ้นหมด

รวมถึงพี่น้องประชาชนที่อยู่ในต่างจังหวัด เอง จะได้ประโยชน์จากการติดตั้งโซลาเซล สามารถทำไร่ ทำนาได้หมด  ตามปกติแล้ว ราคาในการติดตั้งโซลาเซล ก่อนหน้านี้จะอยู่ที่ราว 1.8 แสนบาท แต่ต่อไปราคาจะเหลืออยู่แค่ 7-8 หมื่นบาทเท่านั้น

คุณพีระพันธุ์ เล่าให้ฟังว่า เมื่อครั้งที่ไปประเทศจีน ทางสมาคมผู้ประกอบการ ด้านโซลาร์เซลล์ได้เชิญมา แล้วได้พบกัน เขาบอกว่ายินดีเลย และต้นทุนจริงๆแล้วจะอยู่ที่ราย หมื่นกว่าบาทเท่านั้น แต่เมื่อมีการผ่านหลายทอด หลายขั้นตอน แต่จากนี้ไป เมื่อให้ประชาชนติดตั้งได้เอง ราคาจะถูกลงเหลือเพียง 6-7 หมื่นบาท คนจนก็ยังติดได้ การทำไร่ ทำนา ทำสวน ทุกอย่างจะดีหมด ทราบว่าร่างกฎหมายนี้กำลังจะเข้าสู่การพิจารณาของสภา

-อยากให้ฝากถึงพี่น้องประชาชน ให้ทำความเข้าใจ และมีความหวังฝากไปถึงรองนายกฯและรมว.พลังงาน ควรมองเรื่องนี้อย่างไร

ขอให้ประชาชนเข้าใจว่าท่านพีระพันธุ์ ไม่ได้มีความต้องการอยากจะเป็นใหญ่ อยากมีตำแหน่ง ท่านเป็นคนที่ตั้งใจทำงานมาก  เสียสละ คนต่อว่าท่านก็วางเฉย  บางครั้งก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์ ค่อนข้างมาก  แต่ขอให้รอพิสูจน์สักนิดว่าหากสิ่งที่ท่านได้ทำให้ประชาชน สำเร็จออกมาแล้ว จะได้ประโยชน์อย่างไรบ้างจากที่เราเห็นว่าท่านเงียบ

- เรื่องนี้ถือว่าไม่ง่ายเนื่องจากเป็นการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน ขณะเดียวกันยังเป็นเรื่องที่ต้องสร้างความเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย  แต่ก็อาจกระทบกับบางส่วน

บางครั้งก็เป็นเรื่องของอารมณ์ของคนเรา ขอยกกรณีของนายกฯแพทองธาร ชินวัตร ที่ไปพูดคุยในคลิปเสียง ทำให้ประชาชนไม่พอใจ  และตั้งคำถามถึงพรรครวมไทยสร้างชาติว่าทำไม ไม่ลาออกจากการร่วมรัฐบาล เราก็เข้าใจ แต่ขอให้ใจเย็น เวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ ว่าเป็นคนดีหรือไม่ดี ถ้าเราดีจริงก็ไม่ต้องห่วง

อย่างกรณีเรื่องน้ำมัน ท่านพีระพันธุ์ อยากให้ราคาเหลืออยู่ที่ 25 บาท  จากเดิมลิตรละ 40 กว่าบาท หากลดลงไปลิตรละ กว่า 10 บาทก็ถือว่ามากแล้ว ถ้าเราเคยใช้น้ำมันวันละ 10 ลิตร หมายความว่า เราจะได้เงินกลับมาประมาณ 100 บาท ในห้วง 1 เดือน ก็จะได้เงินกลับมา 3 พันบาทแล้ว ท่านพีระพันธุ์ ต้องการทำ ให้ราคาลง ซึ่งหากทำได้เชื่อว่า สิ่งต่างๆที่เคยเป็นปัญหาปากท้องก็จะดีขึ้นตามมา

ส่วนค่าไฟฟ้า หากสามารถลดลงมาได้ อะไรก็จะดีหมด สิ่งเหล่านี้ท่านมีความตั้งใจมาก ที่จะทำให้กับประชาชน ไม่ต้องห่วง ท่านตั้งใจเต็มที่

อย่างเรื่องน้ำมัน เวลาเราเติมน้ำมัน เงินจะเข้าไปที่กองทุนประมาณ 5 บาท แต่ก็มาคิดกับประชาชน แต่ต่อไป ส่วนนี้คงไม่ต้องมาคิดกับประชาชนแล้ว นำเอากองทุนน้ำมันไปฝากเอาไว้ที่คลังน้ำมันเลย ไม่ต้องมาคิดกับประชาชนแล้ว

สำหรับผมเองนั้น ทั้งชีวิต อยากให้คนดี มีความสามารถทำงาน  สมัยท่านอาจารย์คึกฤทธิ์ ท่านเคยถามผม ตอนที่ท่านเป็นนายกฯ แล้วผมได้อะไร ผมบอกท่านว่า ผมไม่ได้อะไร แต่ขอให้ประเทศได้ก็พอแล้ว เรามองตรงนั้น

ท่านทักษิณ ก็เช่นกัน ตอนที่เราเห็นว่าเขาเก่ง  อะไรที่เราช่วยได้ เราก็ช่วยหมด แต่เมื่อมีอะไรที่ไม่ถูกต้อง  หรือเป็นสิ่งที่เรารับไม่ได้  เราก็อยู่ของเรา

ดังนั้นอยากให้คนดีได้ทำงาน และหากต่อไปถ้ามีการเลือกตั้ง ผมขอให้เลือกคนแบบท่านพีระพันธุ์ ซึ่งสิ่งที่ท่านกำลังทำเพื่อช่วยประชาชน จะทำให้ค่าไฟ ค่าน้ำมันลดหมด จะส่งผลให้มีอะไรดีๆเกิดขึ้นตามมา ทั้งในด้านอุตสาหกรรม หรือการผลิตต่างๆ ในภาคธุรกิจก็จะเดินหน้าต่อไปได้

นอกจากนี้โดยส่วนตัวผมเอง มีความตั้งใจว่า อยากสนับสนุนส่งเสริมด้านการศึกษา อยากให้เด็กได้เรียนฟรี ในชีวิตผม เท่าที่อยู่กับคนจน มาโดยตลอด พบว่าบางคนสอบเข้ามหาวิทยาลัยของรัฐได้แล้ว แต่ไม่เงินเรียนต่อ แต่ถ้าเราช่วยให้เด็กได้เรียนฟรีอย่างจริงจัง ผมเชื่อว่าเราจะทันโลกได้หมด อยากให้เรียนฟรีตั้งแต่อนุบาลไปจนถึงระดับปริญญาตรี 

ผมมองว่าคุณพีระพันธุ์ เป็นความหวังที่จะทำให้กับคนจนได้ ผมกับท่านมีใจเป็นแนวเดียวกัน ดังนั้นผมเองจึงขอให้กำลังใจและสนับสนุนท่าน เราไม่ได้อะไรก็ไม่เป็นไร