วันที่ 17 ก.ค. 68 ที่รัฐสภา นายชลัฐ รัชกิจประการ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย แถลงภายหลังนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังไม่มาตอบกระทู้สด ที่ตนตั้งถามถึงรายละเอียดการเจรจาภาษีกำแพงสหรัฐอเมริกา    ก่อนที่จะมีผลใช้บังคับ 36% ในวันที่ 1 ส.ค.นี้    ว่า สถานการณ์ปัจจุบัน เมื่อเทียบกับเพื่อนบ้านของไทย อย่างสิงคโปร์ ก็ได้ให้ประชาชน และภาคธุรกิจเตรียมพร้อมรับมือ และมีแผนเยียวยา หรือเวียดนามที่เจรจาสำเร็จแล้ว 

 

นายชลัฐ กล่าวว่า ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา นายพิชัย ระบุรายละเอียดการเจรจา ไม่สามารถเปิดเผยได้    แต่บรรยากาศเป็นไปได้ด้วยดี ซึ่งสุดท้ายสหรัฐอเมริกา ก็ยังคงยืนยันกำแพงภาษี 36% เท่าเดิม ดังนั้นจึงกังวลว่าใน 2 สัปดาห์สุดท้ายประชาชนจะต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง และจะเกิดผลกระทบต่อประชาชน และภาคธุรกิจอย่างไร ซึ่งสถานการณ์อยู่ในความมืดมน ไม่รู้จะต้องเลี้ยวซ้ายหรือเลี้ยวขวา ไม่มีการชี้แจงให้ประชาชนทราบว่าจะต้องรับมืออย่างไร หรือรัฐบาลมีการเตรียมแผนรับมือแต่ละฉากทัศน์อย่างไร และรัฐบาลมีเจรจา โดยมีสิ่งใดแลกเปลี่ยนบ้าง เพราะก็กังวลต่ออธิปไตยของไทย 

 

นายชลัฐ กล่าวว่า ทั้งนี้หลังปรากฏข่าวมีการยื่นเงื่อนไขให้สหรัฐอเมริกาใช้ฐานทัพเรือพังงา และนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ก็ออกมาเปิดเผยว่า มีดีลลับจริง ซึ่งขณะนี้ มีประเด็นปัญหาความมั่นคงชายแดนอยู่แล้ว หากมีประเทศอื่น มาใช้ฐานทัพซ้อมรบในไทย ก็อาจกระทบต่ออธิปไตยไทยได้ และจะคุ้มค่ากับเงื่อนไขการแลกเปลี่ยนหรือไม่ โดยเฉพาะกับการท่องเที่ยวในพื้นที่ที่มีทั้งรัสเซีย และจีน  ซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวหลัก ซึ่งหากสหรัฐฯ ไปตั้งฐานทัพในพื้นที่ดังกล่าว ก็อาจจะเกิดผลกระทบได้ 

 

นายชลัฐ กล่าวว่า ขอเรียกร้องให้รัฐบาลเปิดเผยแผนการเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากกำแพงภาษีสหรัฐอเมริกา ทั้งผู้ประกอบการรายใหญ่ รายเล็ก หรือแรงงานในประเทศ 

 

เมื่อถามว่า นายพิชัย ระบุการเจรจากำแพงภาษีทรัมป์ก่อนที่สหรัฐฯ จะใช้บังคับ 1 ส.ค.นี้ จะเป็นการเจรจาแบบออนไลน์ นายชลัฐ กล่าวว่า หากนายพิชัยเจรจาสำเร็จได้ดี สามารถชี้แจงรายละเอียดได้ในเร็วๆ นี้ว่า มีการแลกเปลี่ยนเงื่อนไขใดบ้าง  ก็จะเป็นประโยชน์ต่อประเทศ ซึ่งตนไม่มีปัญหา