รวบ รปภ.โรงเรียนดังปัตตานี หลังผู้ปกครอง 12 รายแจ้งจับ ฐานล่วงละเมิดเด็กหญิงคาดเหยื่ออาจจะสูงถึง 40 คน

สืบเนื่องเมื่อวันที่ 14 ก.ค.68 ที่ผ่านมา พ.ต.อ.เจฟฟรีย์ ไศลมานกุล ผู้กำกับการ สภ.เมืองปัตตานี ได้รับแจ้งความร้องทุกข์จากกลุ่มผู้ปกครองนักเรียนหญิงชั้น ป. 6 จากโรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่งในจังหวัดปัตตานี จำนวน 12 คน เข้าร้องเรียนต่อพนักงานสอบสวน ว่า บุตรหลานของตนถูกกระทำอนาจารโดย นายทรงพันธ์ อายุ 46 ปี  ชาว จ.ปัตตานี ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย (ลูกจ้าง) ของโรงเรียนดังกล่าว

จากการให้ปากคำของเด็กและผู้ปกครอง พบว่าเหตุการณ์ล่วงละเมิดเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2567 จนถึงปี 2568 โดยพฤติการณ์ของผู้ต้องหาคือ ใช้ขนมล่อลวงเด็กก่อนลงมืออนาจารเด็กหญิงที่ตกเป็นเหยื่อ ซึ่งเหตุการณ์เริ่มเปิดเผยเมื่อเด็กหญิงรายหนึ่งได้ไปเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้คุณครูฟัง ก่อนที่ครูจะประสานไปยังผู้ปกครอง 

หลังรับแจ้ง พ.ต.ท.เฉลิมพล รุ่งรัตน์ รองผู้กำกับการสอบสวน สภ.เมืองปัตตานี ได้เร่งดำเนินการสอบปากคำผู้เสียหายและผู้ปกครอง พร้อมรวบรวมหลักฐาน และขออนุมัติหมายจับนายทรงพันธ์ ที่ศาลจังหวัดปัตตานี 399/2568 ลงวันที่ 15 กรกฎาคม 2568 จนล่าสุด​ เวลาประมาณ 17.00 น. หลังจากที่ศาลอนุมัติหมายจับ เจ้าหน้าที่สามารถติดตามจับกุมนายทรงพันธ์ ได้ที่บ้านพักภายในเขตเมืองปัตตานี ก่อนควบคุมตัวส่ง เพื่อมารับทราบข้อกล่าวหาที่ สภ.เมืองปัตตานีเบื้องต้นผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ จึงได้ฝากขังที่ สภ.เมืองปัตตานี

จากการสอบสวนเบื้องต้น พบว่า เด็กนักเรียน ป.6 รายหนึ่งถูกนายทรงพันธ์ กระทำอนาจาร โดยอ้างว่ามีผู้ต้องหาได้ใช้ขนมล่อลวงเด็ก ก่อนพาไปยังสถานที่ลับตา และลงมือกระทำอนาจาร ด้วยการใช้มือลูบคลำร่างกาย ภายหลังเกิดเหตุ เด็กได้เล่าเรื่องให้ครูประจำชั้นฟัง เมื่อคุณครูทราบจึงแจ้งให้ผู้ปกครอง โดยผู้ปกครองจึงได้สอบถามกับผู้ปกครองของเด็กคนอื่นเพิ่มเติม เพื่อหาข้อมูลว่ามีเด็กคนใดตกเป็นเหยื่อในลักษณะเดียวกันหรือไม่ จนกระทั่งพบว่ามีเด็กนักเรียนหลายรายถูกกระทำอนาจารโดยบุคคลเดียวกัน เมื่อได้ข้อมูลแน่ชัด ผู้ปกครองจึงรวมตัวกันเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนสภ.เมืองปัตตานี โดยได้ขอให้มีการดำเนินคดีอย่างเร่งด่วน เพื่อปกป้องสิทธิของเด็กและไม่ให้เกิดเหตุซ้ำอีก

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างการสอบสวนอย่างละเอียด โดยจะเรียกตัวผู้เกี่ยวข้องมาสอบปากคำเพิ่มเติม ทั้งครู ผู้ปกครอง และเด็กผู้เสียหาย พร้อมตรวจสอบหลักฐานแวดล้อม เช่น ภาพจากกล้องวงจรปิดในพื้นที่ และพยานบุคคลอื่น ๆ หากพบว่ามีมูลความผิด จะดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด