วันศุกร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ 2562 เวลา 10.00 น. นายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี ในฐานะประธานอนุกรรมการติดตามและขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริพื้นที่ภาคเหนือ พร้อมคณะอนุกรรมการฯ เดินทางไปติดตามและรับฟังสรุปผลความก้าวหน้าและเยี่ยมชมการดำเนินงานโครงการก่อสร้างแก้มลิงห้วยใหญ่ ก่อสร้างสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้าพร้อมระบบส่งน้ำบ้านห้วยแหน ขุดสระเก็บน้ำ หมู่ที่ 4 และขุดลอกคลอง หมู่ที่ 14 อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตำบลห้วยใหญ่ อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบูรณ์ ทั้งนี้เพื่อสนองพระราชปณิธานสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ทรงมุ่งมั่นที่จะบรรเทาความเดือดร้อนและสร้างประโยชน์สุขให้กับราษฎรอย่างยั่งยืน จังหวัดเพชรบูรณ์อยู่ในภาคเหนือตอนล่างมีพื้นที่ประมาณ 12,688 ตารางกิโลเมตร หรือ 7.9 ล้านไร่ พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่เกษตรกรรมไม่มีระบบชลประทานขนาดใหญ่ มีเพียงอ่างเก็บน้ำในระบบชลประทานขนาดกลางเพียง 11 แห่ง ที่มีปริมาณกักเก็บน้ำ 193 ล้านลูกบาศก์เมตรไม่เพียงพอสำหรับพื้นที่การเกษตร ราษฎรจึงร่วมกันขอพระราชทานโครงการก่อสร้างระบบส่งน้ำจากอ่างเก็บน้ำห้วยใหญ่ ต่อมาเมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2560 สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงไว้เป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เพื่อบรรเทาปัญหาการขาดแคลนน้ำสำหรับอุปโภคบริโภคและทำการเกษตรในฤดูแล้ง ให้กับราษฎรในหมู่ที่ 4, 7, 8 และ 10 ตำบลห้วยใหญ่ และหมู่ 14 ตำบลบ้านโคก โดยลักษณะของโครงการ ประกอบด้วย 4 ส่วนได้แก่ 1) งานก่อสร้างแก้มลิงห้วยใหญ่ ในพื้นที่ 50 ไร่ ความจุประมาณ 373,000 ลูกบาศก์เมตร 2) งานขุดสระเก็บน้ำในพื้นที่หมู่ที่ 4 ตำบลบ้านโคก 3) งานขุดลอกคลอง หมู่ที่ 14 ตำบลบ้านโคก และ 4) ก่อสร้างสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้าพร้อมระบบส่งน้ำบ้านห้วยแหนความยาว 4 กิโลเมตร โดยใช้น้ำต้นทุนจากแก้มลิงห้วยใหญ่ ซึ่งการดำเนินการเสร็จเรียบร้อยแล้ว คงเหลือการก่อสร้างสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้าพร้อมระบบส่งน้ำบ้านห้วยแหน ซึ่งจะแล้วเสร็จในเดือนมีนาคม 2562 นี้ และสามารถส่งน้ำสนับสนุนพื้นที่การเกษตรในช่วงฤดูฝน จำนวน 2,000 ไร่ ช่วงฤดูแล้ง จำนวน 400 ไร่ นอกจากนี้ยังสนับสนุนน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคและทำการเกษตรของราษฎร หมู่ที่ 7 บ้านห้วยแหน และหมู่บ้านใกล้เคียงให้มีน้ำใช้ตลอดทั้งปี อีกทั้งช่วยบรรเทาปัญหาอุทกภัยในช่วงฤดูน้ำหลากให้กับราษฎรในพื้นที่อีกด้วย โอกาสนี้ องคมนตรี และคณะฯ ร่วมปล่อยพันธุ์ปลายี่สกเทศจำนวน 100,000 ตัว เพื่อแพร่ขยายพันธุ์เป็นแหล่งอาหารโปรตีนให้กับราษฎร ต่อไป กองประชาสัมพันธ์ สำนักงาน กปร.