ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า วันที่ 11 ก.ค.68 เวลา 21.00 น.ที่สน.ราษฎร์บูรณะ ร้อยตำรวจเอก นราศักดิ์ วงค์โปทา รอง สว.สอบสวน สน.ราษฎร์บูรณะ รับแจ้งเหตุรถเฉี่ยวชนกันหลายคัน บริเวณถนนสุขสวัสดิ์ ใกล้เคียงปากซอยสุขสวัสดิ์ 35 ทิศทางมุ่งหน้าสามแยกพระประแดง มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย จึง รายงานผู้บังคับบัญชาทราบ รุดตรวจสอบื่เกิดเหตุพร้อมประสานอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน ( อปพร.เขตราษฎร์บูรณะ ) และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูตรวจสอบที่เกิดเหตุ
เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึงที่เกิดเหตุพบจุดเกิดเหตุอยู่บนถนนสุขสวัสดิ์ ใกล้เคียงปากซอยสุขสวัสดิ์ 35 ทิศทางมุ่งหน้าสามแยกพระประแดง ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกพ่วง 22 ล้อบรรทุกทรายมาเต็มลำ ยี่ห้ออีซูซุ สีน้ำเงิน หัวพ่วง ทะเบียน 53-5845 กทม. ส่วนท้ายพ่วงทะเบียน 53-5846 กทม. อยู่ในสภาพชนเข้ากับท้ายรถประจำทางปรับอากาศ สาย 21 E สีน้ำเงิน หมายเลขข้างรถ 5-70053 ทะเบียน 16-1360 กทม.
จนรถประจำทางคันดังกล่าวได้พุ่งไปชนกับรถยนต์นั่งส่วนบุคคล สีน้ำเงิน ทะเบียน ฐธ 1362 กรุงเทพมหานคร จนรถยนต์นั่งส่วนบุคคลชนติดคาอยู่กับต้นไม้ข้างทาง แล้วเสาของป้ายบอกทางถึงกับหักโค่นไปทับรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ยามาฮ่า รุ่น แกรนฟีราโน่ สีดำ ทะเบียน 7 ขห 8450 กรุงเทพมหานคร ได้รับความเสียหายทั้งคัน
ส่วนด้านหลังรถพ่วงมีรถตู้ยี่ห้อโตโยต้า สีขาว ทะเบียน 16-3148 กรุงเทพมหานคร จอดนิ่งสนิทอยู่ในสภาพ ประตูหน้าด้านขวามีร่องรอยของการถูกเฉี่ยวชนอย่างรุนแรง กระจกมองข้างหลุดกระเด็นออกจากตัวรถหายไป กันชนหน้าพังเสียหายยับเยิน
จากการสอบถามนายพิทักษ์ ว่าตนขับขี่รถเก๋ง มากับลูกสาว จอดรถรอรับน้องสาวอยู่ที่ช่องทางซ้ายสุดบนถนนสุขสวัสดิ์ จู่ ๆ มีรถเมล์พุ่งเข้ามาชนด้านท้าย ทำให้ตกใจมองเห็นรถเมล์ขับมุ่งหน้ามาทางรถของตนโดยไม่มีการเบรค เบื้องต้นทราบว่ารถบรรทุกพ่วง 22 ล้อพุ่งมาตั้งแต่อยู่บนทางด่วน ชนท้ายรถตู้โดยสาร และรถโดยสารประจำทางโดยลูกสาวมีอาการเจ็บสึกมึนศีรษะ
นายศักดิ์ดา (สงวนนามสกุล) กล่าวว่าตนจอดรถจักรยานยนต์รอรับลูกสาว ริมถนนสุขสวัสดิ์ได้ยินเสียงดังโครม จึงรีบกระโดดออกจากตัวรถจักรยานยนต์ เมื่อหันไปก็เห็นรถชนต่อกันมาเป็นทอด ๆ ก่อนที่รถเก๋งพุ่งเข้าชนรถจักรยานยนต์ของตนและต้นไม้ข้างทาง
สำหรับผู้บาดเจ็บทั้งหมด 55 คน เจ้าหน้าที่นำส่งโรงพยาบาลส่วนใหญ่มีอาการบาดเจ็บเล็กน้อย ส่วนสาเหตุพนักงานสอบสวน สน.ราษฏร์บูรณะ ทำการตรวจสอบและเก็บรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อพิจารณาต่อไป