บุรีรัมย์ หยุดเข้าพรรษา ปชช.แห่เที่ยวชม ด่านชายแดน “ช่องสายตะกู” ให้กำลังใจทหาร
ในช่วงวันหยุดยาว เทศกาลวันเข้าพรรษา ประจำปี 2568 นี้ ได้มีประชาชนและนักท่องเที่ยวจำนวนหนึ่ง เดินทางมาเที่ยวชม บริเวณด่านชายแดนไทย-กัมพูชา ที่จุดผ่อนปรนการค้าชายแดน ช่องสายตะกู-จุ๊บโกกี เพื่อให้กำลังใจทหารและเจ้าหน้าที่ ซึ่งปฎิบัติหน้าที่รักษาอธิปไตยบริเวณหน้าด่านชายแดน ขณะที่ฝั่งไทยยังคงเปิดประตูช่องทางเข้า-ออกข้ามแดนตามปกติ ส่วนฝั่งกัมพูชาก็ยังคงไม่มีการเปิดประตูด่านชายแดนแต่อย่างใด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเวลา 08.00 น. ของวันนี้(11ก.ค.68) เจ้าหน้าที่ฝั่งไทย โดยทหาร ตำรวจตรวจตนเข้าเมือง ศุลกากร และเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ ยังคงทำการไขกุญแจเปิดประตูช่องทางเข้า-ออก สำหรับราษฎรฝั่งไทยและราษฎรฝั่งกัมพูชา ที่บริเวณจุดผ่อนปรนการค้า ช่องสายตะกู อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ตามปกติ
เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกด้านมนุษยธรรม และเป็นการปฎิบัติตามระเบียบและหลักสากล เช่น ด้านการรักษาพยาบาล การส่งต่อผู้ป่วยเข้ารับการรักษาพยาบาลกรณีเร่งด่วน ด้านการศึกษาของนักเรียน และนักศึกษาในพื้นที่ การซื้อขายผักผลไม้ เครื่องอุปโภคบริโภคในครัวเรือน ตามความเหมาะสมและจำเป็น เป็นต้น
โดยได้มีการปรับเปลี่ยนห้วงระยะวันเวลาการเปิด-ปิดประตูด่าน จากเดิมที่เปิดในช่วงเวลา 09.00-12.00 น. ของทุกวันอังคาร พุธ และวันพฤหัสบดี มาเป็นเปิดให้บริการทุกวันทำการ ตลอดทั้งสัปดาห์ตั้งแต่วันอาทิตย์ถึงวันจันทร์ ตั้งแต่เวลา 08.00 น.-15.00 น. แต่ยังคงงดไม่ให้ประชาชนและนักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทยและต่างชาติ เดินทางเข้า-ออกในช่องทางดังกล่าว รวมถึงการค้าขายทุกประเภท และงดไม่ให้ยานพาหนะทุกประเภทผ่านเข้า-ออก ในช่องทางดังกล่าว
ทั้งนี้ ภายหลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยได้ทำการไขกุญแจเปิดประตูช่องทางเข้า-ออกด่านชายแดน แต่ปรากฎว่าทางฝ่ายกัมพูชา ก็ยังไม่ได้มีการเปิดประตูช่องทาง การเดินทางเข้า-ออกผ่านแดนแต่อย่างใด ในขณะเดียวกันหลังจากที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยได้เปิดประตูด่านชายแดน ก็ได้มีประชาชน และนักท่องเที่ยว รวมถึงพระสงฆ์ จากทั้งในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ และต่างจังหวัด ทยอยเดินทางมาเที่ยวชมหน้าด่านชายแดน พร้อมกล่าวทักทายเพื่อให้กำลังใจแก่ทหาร และเจ้าหน้าที่หน่วยงานความมั่นคง ที่ปฎิบัติหน้าที่รักษาอธิปไตยบริเวณด่านชายแดน จุดผ่อนปรนทางการค้าช่องสายตะกู-จุ๊บโกกี ต.จันทบเพชร อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ด้วยก่อนที่จะเดินทางไปเที่ยวชมประสาทตาเมือนธม อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ต่อไป.