ปกครอง ตร.บุกจับผับโฮสเถื่อน หลังยกพวกถล่มอริ อย่างป่าเถื่อน เจอซองยา ฉี่ม่วงเพียบ พบเคยถูกจับแล้วหลายครั้งแต่ยังเปิด

เมื่อเวลา 04.00 น. วันที่ 11 ก.ค.68 ว่าที่ ร.ต.ชลธิศ เลยานนท์ ป้องกันจังหวัดชลบุรี พร้อมด้วย นายณฐาภพ ยมจินดา ปลัดอำเภอบางละมุง พ.ต.อ.เอนก สระทองอยู่ ผกก.สภ.เมืองพัทยา นำกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองจังหวัดชลบุรี เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอบางละมุง เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา บุกตรวจสถานบนเทิงแห่งหนึ่ง ภายในซอยบงกชพัทยาใต้ ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี 

สืบเนื่องจาก เมื่อ 2 วันที่ผ่านมา เกิดเหตุกลุ่มวัยรุ่น แต่งกายลักษณะทำงานโฮส ยกพวกไปรุมทำร้ายวันรุ่นคู่อริ โดยกล้องวงจรปิดบันทึกภาพวินาทีก่อเหตุไว้ได้อย่างชัดเจน ซึ่งเป็นการกระทำที่ป่าเถื่อนและไม่เกรงกลัวกฎหมายบ้านเมืองแต่อย่างใด จนผู้เสียหายหวาดกลัว จึงนำเรื่องมาร้องเรียนกับสื่อมวลชน กระทั่งกลุ่มผู้ก่อเหตเดินทางเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เมื่อวานที่ผ่านมา (10 ก.ค.68) ประกอบกับมีชาวบ้านร้องเรียนไปว่าผับแห่งนี้ เปิดให้บริการเกินเวลาที่กฎหมายกำหนด รวมไปถึงเคยถูกจับและพบยาเสพติดภายในร้านมาแล้วหลายครั้ง จนเจ้าหน้าที่เสนอให้ปิดบริการ 5 ปี แต่ก็ยังคงพบว่าเปิดให้บริการเย้ยกฎหมายยันรุ่งเช้ามายาวนาน ไม่มีการปิดให้บริการแต่อย่างใด 

เจ้าหน้าที่ จึงสนธิกำลังวางแผนบุกเข้าตรวจสอบ เมื่อไปถึง พบร้านดังกล่าวยังคงเปิดให้บริการจริงมีนักท่องราตรี ทั้งผู้ชายและผู้หญิง เข้าใช้บริการเป็นจำนวนมาก ทางเจ้าหน้าที่จึงสั่งให้ทางร้านปิดเพลง เปิดไฟ ตรวจค้นตามโต๊ะ พบบุหรี่ไฟฟ้าจำนวนมาก ตั้งอยู่บนโต๊ะ และยังพบถุงพลาสติกใสแบบซองซิป บรรจุผงสีขาวตกอยู่บริเวณข้างโต๊ะอีกจำนวน 1 ถุง สันนิษฐานว่าเป็นยาเสพติด แต่ไม่มีใครรับเป็นเจ้าของ ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะสั่งคัดแยกผู้ชายผู้หญิง แล้วตรวจเอกสารแสดงตัวบุคคล ตรวจปัสสาวะหาสารเสพติดในร่างกาย รวมถึงตรวจค้นภายในร้าน พบซองพลาสติกใสแบบซิป มีคราบผงสีขาวคล้ายยาเสพติดเป็นจำนวนมาก และตรวจรถยนต์ รถจักรยานยนต์ ที่จอดอยู่บริเวณหน้าร้านด้วย

เบื้องต้น ผลการตรวจปัสสาวะ พบผู้มีปัสสาวะสีม่วง 18 ราย เป็นผู้ชาย 14 ราย ผู้หญิง 4 ราย ส่วนเอกสารของร้านพบว่าไม่สามารถนำเอกสารใดๆ มาแสดงได้ ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ทำการเชิญผู้ดูแลร้าน พร้อมของกลางเป็นซองพลาสติกใสแบบซิป รวมถึงผู้ที่มีปัสสาวะสีม่วงไปตรวจสอบว่าเป็นสารเสพติดหรือไม่ หากพบว่าเป็นสารเสพติดก็จะดำเนินคดีตามฏหมาย ซึ่งทางร้านเคยถูกจับมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วนแต่ยังไม่เข็ดหลาบ ก็จะต้องทำการเสนอไปยังผู้ว่าการจังหวัดชลบุรี เพื่อเสนอปิด 5 ปี ต่อไป 

อย่างไรก็ตาม สร้างความสงสัยให้กับประชาชนเป็นอย่างมาก เกี่ยวกับสถานบันเทิงแห่งนี้ ซึ่งเคยถูกจับมียาเสพติดภายในร้านมาแล้วหลายครั้ง จนได้สมญานามว่าผับเถื่อน แต่เพราะเหตุใดยังคงลักลอบเปิดมาได้ยาวนานเช่นนี้ เพียงแค่เปลี่ยนชื่อร้านเท่านั้น