กลายเป็นข่าวใหญ่ที่สะเทือนไปทั่วประเทศ หลังการลาสิกขาของ “พระเทพวชิรปาโมกข์” หรือ “เจ้าคุณอาชว์” อดีตเจ้าอาวาสวัดตรีทศเทพ และอดีตเจ้าคณะภาค 14-15 (ธรรมยุต) ซึ่งทำการลาสิกขาด้วยความสมัครใจเมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2568 ที่วัดจันทร์สามัคคี จังหวัดหนองคาย โดยไม่มีการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการ
เบื้องหลังการลาสิกขาดังกล่าว กลับกลายเป็นปมร้อนเมื่อมีชื่อของ “สีกากอล์ฟ” หรือ “น้องดอกไม้” หญิงสาวชาวจังหวัดพิจิตร วัยเพียง 20 ปลาย ๆ เข้ามาเกี่ยวข้อง โดยเธอมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับ “เจ้าคุณอาชว์” ถึงขั้นถูกระบุว่าเป็นเหตุผลหลักที่ทำให้พระชั้นผู้ใหญ่รูปนี้ต้องขอลาออกจากสมณเพศ
จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ พบเส้นทางการเงินที่เชื่อมโยง “สีกากอล์ฟ” กับพระชั้นผู้ใหญ่อีกกว่า 12 รูป โดยบางรูปยอมรับว่ามีความสัมพันธ์ลึกซึ้ง บางรูปอ้างว่าให้ยืมเงิน ขณะที่อดีตเจ้าอาวาสวัดพระพุทธฉายยอมรับว่าโอนเงินให้สีกาหลายครั้ง รวมมูลค่ากว่า 3 ล้านบาท
ไม่เพียงเท่านั้น “สีกากอล์ฟ” ยังสารภาพว่าเคยมีความสัมพันธ์กับพระสงฆ์อย่างน้อย 8 ราย และนำเงินที่ได้ไปเล่นพนันออนไลน์ โดยบางครั้งเสียถึงหลักล้านบาท พฤติกรรมของเธอเน้นเลือกเฉพาะพระสงฆ์ที่มีฐานะดี เข้าถึงง่าย และไม่ระวังตัว
หลักฐานจำนวนมากในโทรศัพท์มือถือของเธอ กลายเป็นจิ๊กซอว์ที่ทำให้พระหลายรูปต้องลาสิกขา และบางรูปถึงขั้นถูกจับสึกเนื่องจากอาบัติปาราชิก สร้างความสั่นสะเทือนครั้งใหญ่ให้กับวงการคณะสงฆ์ไทย โดยเฉพาะในสังกัดธรรมยุต
สำหรับชีวิตเบื้องหลังของ "สีกากอล์ฟ" เธอเกิดในครอบครัวยากจนที่จังหวัดพิจิตร พ่อแม่ทำไร่ทำนา เรียนไม่จบมัธยมศึกษาปีที่ 3 ก่อนตัดสินใจเดินทางเข้ากรุงเทพฯ หวังหางานและสร้างฐานะเลี้ยงครอบครัว แต่กลับเลือกเส้นทางลัดผ่านการสร้างสัมพันธ์ลับกับบุคคลในวงการสงฆ์
ขณะเดียวกัน ยังมีรายงานว่า “สีกากอล์ฟ” เคยมีความสัมพันธ์กับ “นักการเมืองท้องถิ่น” ในจังหวัดนครปฐม แม้ยังไม่มีหลักฐานชัดเจนว่าเชื่อมโยงกับ “พรรคการเมือง” แต่ก็สร้างข้อสงสัยในวงกว้างถึงเครือข่ายความสัมพันธ์ที่อาจแผ่ขยายเกินกว่าวงการสงฆ์
ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบเส้นทางการเงิน ข้อความสนทนา และคลิปหลักฐานเพิ่มเติม เพื่อพิจารณาความผิดในด้านกฎหมายทั้งของฝ่ายสงฆ์ และฝ่ายพลเรือน โดยเฉพาะในประเด็นการฟอกเงินและพนันออนไลน์