เมื่อเสียงสะท้อนจากประชาชนดังขึ้นเรื่อย ๆ และแรงกดดันจากทั้งในและนอกประเทศถาโถมใส่รัฐบาลเพื่อไทย นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ผู้อยู่เบื้องหลังพรรคเพื่อไทยก็ไม่อาจนิ่งเฉยได้อีกต่อไป

ในเวทีเสวนาพิเศษ "ผ่าทางตันประเทศไทย" นายทักษิณได้ออกมาเปิดไพ่ 3 ทางเลือกอย่างตรงไปตรงมา ทั้งในเชิงกฎหมาย การเมือง และความอยู่รอดของรัฐบาลที่ลูกสาวของเขา น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ซึ่งขณะนี้ถูกสักพักการปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว

ทักษิณเปิด 3 ทางเลือก “อยู่ต่อ – เสนอชัยเกษม – ยุบสภา”

นายทักษิณระบุชัดว่าคดีของน.ส.แพทองธารจะมี 3 ทางออกคือ

1) หากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าไม่ผิด นายกฯแพทองธารก็สามารถกลับมาทำหน้าที่ต่อได้ทันที และอยู่ยาว

2) หากวินิจฉัยว่าผิด พรรคเพื่อไทยจะเสนอชื่อ “นายชัยเกษม นิติสิริ” แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีคนที่ 3 แทน

3) หากทางเลือกแรกและสองไม่สามารถสร้างเสถียรภาพหรือรับการสนับสนุนได้ ก็อาจต้องไปสู่ทางเลือกสุดท้ายคือ “ยุบสภา” เพื่อคืนอำนาจให้ประชาชน

การออกมาให้สัมภาษณ์ของนายทักษิณในครั้งนี้ เปรียบเสมือนการประกาศว่าพรรคเพื่อไทยไม่มีทางเลือกมากนัก การเปลี่ยนตัวนายกฯจากน.ส.แพทองธารมาเป็นนายชัยเกษมอาจเผชิญแรงเสียดทานจากพรรคร่วมบางพรรค เพราะนายชัยเกษมเคยสนับสนุนการแก้ ม.112 และยังไม่ได้รับความนิยมในระดับมวลชน อีกทั้งการยุบสภาก็เท่ากับยอมรับความล้มเหลวในการประคองรัฐบาล ซึ่งจะส่งผลกระทบทั้งในเชิงภาพลักษณ์และยุทธศาสตร์ทางการเมือง

แต่การอยู่ต่อก็ใช่ว่าจะง่าย เมื่อพรรคภูมิใจไทยถอนตัวออกจากรัฐบาล ความมั่นคงทางเสียงในสภาของพรรคเพื่อไทยก็เริ่มสั่นคลอน เสียงในสภาที่เหลืออาจไม่เพียงพอจะฝ่าวิกฤติสำคัญ เช่น การผ่านงบประมาณรายจ่ายปี 2569 และการบริหารโครงการขนาดใหญ่ที่รัฐบาลตั้งเป้าไว้

เตือนข้าราชการอย่าเกียร์ว่าง

ในบทสัมภาษณ์ นายทักษิณพยายามสร้างความมั่นใจว่าการเมืองแม้จะสั่นคลอน แต่ระบบราชการต้องเดินต่อ เขาย้ำว่าไม่มีสุญญากาศ ข้าราชการไม่ควรใส่เกียร์ว่าง และพยายามส่งสัญญาณว่าตนเองยังอยู่ ไม่ทอดทิ้งประเทศ แม้ไม่ได้ดำรงตำแหน่งใดแล้ว

คำพูดเหล่านี้อาจมองได้ว่าเป็นความพยายามดึง “เสถียรภาพจำแลง” มาเสริมภาพลักษณ์ให้รัฐบาลเพื่อไทยในยามที่คะแนนนิยมถดถอย และเสียงต้านจากโซเชียลมีเดียพุ่งสูงขึ้นทุกวัน

ทางออกอยู่ที่ใคร? “เพื่อไทย” ต้องเลือกให้ชัด!

ท้ายที่สุด ทิศทางการเมืองหลังจากนี้จะพุ่งไปทางใด ขึ้นอยู่กับปัจจัย 3 ประการ คือ

1. คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ต่อคดีนายกรัฐมนตรีแพทองธาร ซึ่งจะชี้เป็นชี้ตายของรัฐบาลในทางกฎหมาย

2. ท่าทีของพรรคร่วมรัฐบาล ว่าจะพร้อมหนุนนายชัยเกษมเป็นนายกฯ หรือไม่ หรือจะใช้จังหวะนี้เปลี่ยนขั้วการเมือง

3. แรงกดดันจากมวลชน หากเพื่อไทยประเมินว่าไม่อาจควบคุมสถานการณ์ภายนอกได้ อาจต้องยุบสภาเพื่อหาทางรีเซ็ตเกมใหม่อีกครั้ง

สรุป: การเมืองไทยเข้าสู่โหมดเดิมพันสุดท้าย

การออกมาเปิดไพ่ของนายทักษิณในครั้งนี้ ทำให้เห็นว่าพรรคเพื่อไทยกำลังเดินอยู่บนเส้นด้ายบาง ๆ ทุกทางเลือกมีต้นทุนและความเสี่ยง ยืนระยะต่อก็อาจพัง เปลี่ยนตัวก็ไม่รับประกันว่าจะรอด ยุบสภาก็เท่ากับนับหนึ่งใหม่ท่ามกลางมรสุม

แต่ไม่ว่าจะเลือกทางไหน การตัดสินใจหลังจากนี้จะเป็นบททดสอบสำคัญของพรรคเพื่อไทย และของนายทักษิณ ในฐานะผู้นำเงาที่คนทั้งประเทศยังจับตา

 

#ทักษิณ #รัฐบาลเพื่อไทย #อุ๊งอิ๊ง #ยุบสภา #ชัยเกษม #ภาษีทรัมป์ #ม็อบกดดัน #วิกฤตการเมือง #เกมการเมือง #บทวิเคราะห์การเมือง