ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร ลงพื้นที่อำเภอป่าติ้ว จังหวัดยโสธร จับมือชุมชนวางระบบรับมือน้ำท่วมซ้ำซากในพื้นที่ลุ่มน้ำลำเซบายและลำห้วยโพงในช่วงฤดูน้ำหลากที่จะมาถึงนี้ ซึ่งคาดว่าในปี 2568 นี้ จะมีความเสี่ยงพื้นที่การเกษตรถูกน้ำท่วมถึง 1,064 ไร่
วันนี้ (9 ก.ค.2568) เวลา 10.00 น. นายชาญชัย ศรศรีวิชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร พร้อมด้วยป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดยโสธร และหัวหน้าส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ลงพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมซ้ำซากในอำเภอป่าติ้ว จังหวัดยโสธร เพื่อหารือกับนายอำเภอ คณะผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน และผู้ใหญ่บ้าน เพื่อวางแผนรับมือสถานการณ์น้ำเชิงรุก ป้องกันความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นในช่วงฤดูน้ำหลากของปีนี้
โดยการลงพื้นที่ในครั้งนี้ได้ร่วมกันถอดบทเรียนลำน้ำสำคัญที่ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมซ้ำซาก ซึ่งรับน้ำจากลำเซบายที่ไหลมาจากอำเภอเลิงนกทา และอำเภอไทยเจริญ จังหวัดยโสธร ก่อนจะไหลเข้าสู่พื้นที่อำเภอป่าติ้ว และอำเภอคำเขื่อนแก้ว จังหวัดยโสธร และลำห้วยโพง ที่รับน้ำต่อจากอำเภอเลิงนกทา และอำเภอไทยเจริญ ก่อนจะไหลไปบรรจบลำน้ำเซบาย โดยในปี 2567 ที่ผ่านมาในพื้นที่ของอำเภอป่าติ้วมีพืชผลทางการเกษตรถูกน้ำท่วมได้รับความเสียหาย จำนวน 4,110 ไร่ ใน 5 ตำบล 15 หมู่บ้าน
และมีการคาดการณ์ว่าในปี 2568 จะมีพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมใน 3 ตำบล คือ ตำบลโพธิ์ไทร ตำบลเชียงเพ็ง และตำบลศรีฐาน เนื้อที่ประมาณ 1,064 ไร่ ก่อนจะวางแผนรับมือสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้น ทั้งในเรื่องแผนเผชิญเหตุ ที่จะมีการจัดตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ระดับอำเภอ และศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินในระดับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชน ตลอดจนจิตอาสาเตรียมความพร้อมรองรับพื้นที่เสี่ยงภายในชุมชน และร่วมกันกำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำ จัดชุดปฏิบัติสำหรับการเข้าช่วยเหลือแบบเร่งด่วนในพื้นที่ประสบภัย
ส่วนกรณีเส้นทางคมนาคมเสียหายจะมีเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกการจราจร แนะนำเส้นทางที่ปลอดภัย มีการทำป้ายแจ้งเตือนจุดอันตราย รวมทั้งจัดยานพาหนะที่เหมาะสม เพื่อให้ประชาชนสัญจรไปได้ โดยจะมีการเร่งซ่อมแซมเส้นทางที่ชำรุดเสียหาย หรือถูกตัดขาดอย่างเร่งด่วน นอกจากนี้ยังได้กำหนดเจ้าหน้าที่คอยประสานงานประจำ เวลาเกิดสถานการณ์ฉุกเฉินจะได้ทำงานได้อย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ และหากเกิดสถานการณ์ที่มีความเสี่ยงสูงจะมีการอพยพประชาชนไปยังพื้นที่ปลอดภัย โดยมีการจัดตั้งศูนย์พักพิงชั่วคราว
นอกจากนี้ยังมีการพูดคุยในเรื่องของการฟื้นฟูช่วยเหลือหลังเกิดภัยที่มีการกำชับให้เร่งสำรวจความเสียหายและผลกระทบที่เกิดขึ้น การให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยตามระเบียบและหลักเกณฑ์ต่าง ๆ รวมถึงการรายงานสถานการณ์อุทกภัยและดินถล่มที่อาจเกิดขึ้น ในโอกาสนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธรได้เน้นย้ำในเรื่องทิศทางน้ำ ที่อยากให้ทุกฝ่ายได้ร่วมกันลงพื้นที่วิเคราะห์คาดการณ์ให้ดี เพราะในพื้นที่มีการก่อสร้างโรงงานที่มีการถมที่ ทำให้ทางน้ำเกิดการเปลี่ยนได้ อีกทั้งในเรื่องของมาตรการเฝ้าระวังน้ำทั้งในพื้นที่และพื้นที่ต้นน้ำที่จะต้องรู้และคาดการณ์ล่วงหน้าเพื่อวางแผนสำหรับการเตือนภัยล่วงหน้าให้ประชาชนได้อุ่นใจในทุกขั้นตอนการปฏิบัติ