วันที่ 9 ก.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า ที่กองบังคับการตำรวจนครบาล 6 โดย พล.ต.ต.สามารถ พรหมชาติ ผบก.น.6,พ.ต.อ.นริศ ปรารถนาพร รอง ผบก.น.6, พ.ต.อ.เอกรัตน์  เปาอินทร์  รอง ผบก.น.6 ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.เชิดศักดิ์ รอดเข็ม ผกก.กก.สส.บก.น.6, พ.ต.ท.ประเสริฐ ชะเอมทอง  รอง ผกก.สส.บก.น.6, พ.ต.ท. วิสิทธิ์ สายบัวทอง รอง ผกก.สส.บก.น.6, พ.ต.ท.กิตติศักดิ์ จุติวรกุล รอง ผกก.สส.บก.น.6,พ.ต.ท.ชูชีพ วงษ์บุญเพ็ญ  สว.กก.สส.บก.น.6,พ.ต.ต.ปัณณวัชร์  จิรัฐธรรมฤทธิ์สว.กก.สส.บก.น.6 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.บก.น.6 หน่วยข่าวกรองทหาร กองทัพบก โดย พล.ต.ธีรนันท์ นันทขว้าง ผบ.ขกท.,พ.อ.พูลศักดิ์ พรประเสริฐ ผบ.สปข.ขกท.ศปก.ทบ., พ.ท.ปรเมษฐ์ ปาลกะวงศ์ ณ อยุธยา รอง ผบ.สปข.ขกท.ศปก.ทบ. จับกุมตัว นายสัมฤทธิ์ อายุ 36 ปี ภูมิลำเนา ต.โคกใหญ่ อ.โนนสัง จ.หนองบัวลำภู ของกลาง 1. ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) จำนวน 11 กระสอบ กระสอบละ 250,000 เม็ด รวมจำนวนยาบ้าทั้งหมดประมาณ 2,750,000 เม็ด 2. รถยนต์ ยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นปาเจโร่ สีดำ ติดแผ่นป้ายทะเบียนหมายเลข 7กต 50xx กรุงเทพมหานคร  3. โทรศัพท์มือถือยี่ห้อ Samsung Galaxy A05s สีฟ้า ของผู้ถูกจับ

โดยกล่าวหาว่า "ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า เป็นการก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน เป็นการทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป"


 
พฤติการณ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.บก.น.6 ได้ทำการสืบสวนทราบว่า จะมีการขนลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่รอบปริมณฑลนำมาเก็บไว้ภายในซอยรามคำแหง 112 แขวงสะพานสูง เขตสะพานสูง กรุงเทพมหานคร เพื่อรอกระจายส่งให้กับลูกค้าในชุมชน ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้เฝ้าสังเกตการณ์มาหลายวันอย่างต่อเนื่อง จนเชื่อว่ามีรถยนต์ยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นปาเจโร่ สีดำ ติดแผ่นป้ายทะเบียนหมายเลข 7 กต 50xx กรุงเทพมหานคร ได้ลักลอบขนลำเลียงยาเสพติดหรือสิ่งของผิดกฎหมาย และนำมาเก็บพักไว้ภายในซอยดังกล่าว

ต่อมาวันที่ 8 ก.ค.68 เวลาประมาณ 01.40 น. ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ได้กระจายกำลังเฝ้าสังเกตการณ์อยู่ พบว่ารถยนต์คันดังกล่าวขับเข้ามาภายในซอยรามคำแหง 112 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้สะกดรอยติดตามไป โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ได้ขับติดตามมาด้านหลัง พบว่าคนขับรถคันดังกล่าวมีลักษณะท่าทางมีพิรุธต้องสงสัย และสังเกตเห็นว่ารถคันดังกล่าวมีลักษณะน้ำหนักมากผิดปกติ จึงได้สกัดให้รถยนต์คันดังกล่าวจอดหยุดรถอยู่บริเวณริมถนน ในซอยรามคำแหง 112 พบว่ามี นายสัมฤทธิ์ (ทราบชื่อภายหลัง) ผู้ถูกจับ เป็นผู้ขับขี่ ตรวจค้นในรถยนต์พบยาบ้า  บรรจุอยู่ในถุงกระสอบสีรุ้ง ซุกซ่อนอยู่ในช่องเก็บของบริเวณท้ายรถคันที่ผู้ถูกจับขับมา จำนวน 11 กระสอบ รวมจำนวนยาบ้า 2,750,000 เม็ด และพบโทรศัพท์มือถือจำนวน 1 เครื่อง อยู่ที่ตัวของนายสัมฤทธิ์ฯ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้จับกุมตัว  

จากการสอบถามนายสัมฤทธิ์  ผู้ถูกจับ ยอมรับว่ายาเสพติดของกลางที่เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจพบนั้นเป็นของตนจริง โดยตนได้ทำหน้าที่ในการขับรถยนต์คันดังกล่าวไปรับยาเสพติดและขนลำเลียงยาเสพติดตามสถานที่ต่างๆ จากนั้นจะนำมาส่งให้แก่ลูกค้าตามคำสั่งของผู้สั่งการ ได้รับค่าจ้างครั้งละ 30,000 บาท มาใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน โดยการขนยาเสพติดครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 จึงได้ถูกจับกุมตัว 

ตรวจสอบประวัติการกระทำความผิดของผู้ต้องหาพบกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด 2 ครั้ง 1. ปี 2558  พบถูกจับกุมในข้อหา ครอบครองยาเสพติดให้โทษประเภท 1 เพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย   (สน.มีนบุรี) 2. ปี 2565  พบถูกจับกุมในข้อหา ครองครองยาเสพติดให้โทษประเภท 1 โดยผิดกฎหมาย (สน.คันนายาว)               

พล.ต.ต.สามารถ  กล่าวว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร,, พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง รอง ผบ.ตร/ผอ.ศอ.ปส.ตร., พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร./รอง ผอ.ศอ.ปส.ตร.  กำหนดเปิดปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นพร้อมกันทั่วประเทศ เพื่อตัดวงจรการค้ายาเสพติดรายสำคัญ กวาดล้างยาเสพติดในพื้นที่แพร่ระบาด รวมทั้งการยึด และอายัดทรัพย์สินกับกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดทุกราย

ทั้งนี้ กองบัญชาการตำรวจนครบาล โดย พล.ต.ท.สยาม  บุญสม ผบช.น., พล.ต.ต.พัลลภ  แอร่มหล้า รอง ผบช.น., พล.ต.ต.นพศิลป์  พูลสวัสดิ์  รอง ผบช.น. และ พล.ต.ต.วสันต์  เตชะอัครเกษม รอง ผบช.น. ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ   ลงพื้นที่สืบสวนติดตามจับกุม สกัดกั้นลำเลียงยาเสพติด ปราบปราม และขยายผลเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดรายใหญ่ รายย่อย ทั่วทุกพื้นที่ และยึดทรัพย์ผู้ที่ให้การสนับสนุนและช่วยเหลือทุกรายโดยให้มีผลการปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม