“ครม.”เห็นชอบ ถอนร่างฯเอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ ตามที่ ก.คลัง เสนอ หลังมีการปรับ ครม.ใหม่ และมีประเด็นที่เกี่ยวข้องกับภาคสังคม ที่ต้องให้เวลาในการทำความเข้าใจกับสังคม “จุลพันธ์” ปัดถอนร่างคอมเพล็กซ์”กลัวถูกคว่ำในสภาฯ ย้ำเสียงรัฐบาลเกินครึ่ง ตัดพ้อประเทศเสียโอกาส คาดคาดเด้ง “2 อธิบดีฯ” เข้ากรุ ดัน “2 ผู้ว่าฯ” เสียบแทน

เมื่อวันที่ 8 ก.ค.68 นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)มีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอให้มีการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำแหน่งบริหารระดับสูงรวม 4 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ จากอธิบดีกรมการปกครอง ไปเป็นผู้ตรวจราชการกระทรวงฯ นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร จากผู้ว่าฯเชียงใหม่ ไปเป็นอธิบดีกรมการปกครอง นายนฤชา โฆษาศิวิไลซ์ จากอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ไปเป็นผู้ตรวจราชการกระทรวงฯ และร.ต.ท.ภพชนก ชลานุเคราะห์ จากผู้ว่าฯเพชรบุรี ไปเป็นอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น

นายจิรายุกล่าวต่อว่านอกจากนี้นที่ประชุม ครม.ยังเห็นชอบตามที่ กระทรวงการคลัง (กค.) นำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณา อนุมัติให้ถอน“ร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ....” ออกจากการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งที่ผ่านมา กระทรวงการคลังได้เสนอร่างฯ ซึ่งมีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้มีการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรโดยกำหนดกลไกการดำเนินการผ่านระบบคณะกรรมการ 2 ระดับ คือ คณะกรรมการนโยบายสถานบันเทิงครบวงจรและคณะกรรมการบริหารสำนักงานควบคุมการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรโดยมีสำนักงานควบคุมการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรเป็นหน่วยธุรการของคณะกรรมการดังกล่าว กำหนดหลักเกณฑ์การอนุญาต รวมทั้งกำหนดมาตรการควบคุมและกำกับดูแลการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรให้มีมาตรฐานและเหมาะสม 
           
 “วันนี้ ที่ประชุม ครม. สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีพิจารณาแล้วเห็นว่า กระทรวงการคลังได้เสนอขอถอนร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว ที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร นั้น เนื่องจากได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้รัฐมนตรีพ้นจากความเป็นรัฐมนตรีและมีการแต่งตั้งรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 30 มิ.ย.68 ประกอบกับร่างพระราชบัญญัติฯ ดังกล่าว มีประเด็นที่เกี่ยวข้องกับภาคสังคม เห็นสมควรถอน ร่างพระราชบัญญัติในเรื่องนี้ ออกจากการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร”

ด้าน นายจุลพันธุ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง ให้สัมภาษณ์ภายหลังจากที่ประชุมครม.มีมติให้เลื่อนร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) สถานบันเทิงครบวงจร ออกไปก่อน ซึ่งพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ระบุรัฐบาลไม่ได้ตั้งใจถอนร่างดังกล่าว ว่า ไม่ได้ห่วงเรื่องเสียงในสภา ในวันนี้ได้มีการย้ำในที่ประชุมว่า ครม. ก็ต้องไปทำงานที่สภา เพราะเสียงไม่ได้เยอะเหมือนแต่ก่อน  แต่การรัฐบาลนั้นก็ต้องมั่นใจว่า ว่ามีเสียงเกินกึ่งหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นการถอนหรือเลื่อน ล้วนต้องใช้เสียงข้างมากทั้งสิ้น ส่วนที่มีการกล่าวอ้างว่ามีบางพรรคร่วมรัฐบาลไม่เห็นด้วย จึงจำเป็นต้องถอนไปก่อน นายจุลพันธ์กล่าวว่า ยังไม่มีพรรคใดระบุว่าไม่เห็นด้วย แต่สาเหตุที่ถอนเพราะต้องการให้ พิจารณาอีกครั้ง เพราะครม.เปลี่ยนหน้าเยอะจริงๆ เมื่อถามย้ำว่าจะไม่ใช่การยกเลิก ใช่หรือไม่นายจุลพันธ์ย้ำว่า ถอนครับ เราต้องใช้คำที่อยู่ในกฎหมาย

นายจุลพันธ์กล่าวต่อว่า เราต้องยอมรับความจริง องค์ประกอบของรัฐบาลมีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งเป็นเหตุผลที่เหมาะสมที่จะดึงกลับมาให้ทุกคนได้พิจารณาอีกครั้ง ขณะเดียวกันก็มีจังหวะเวลาในการทำความเข้าใจกับสังคมให้มากขึ้น เพราะเวลานี้อาจจะไม่ใช่เวลาที่เหมาะสม ส่วนเวลาที่จะเหมาะสมเมื่อเมื่อไหร่นั้น นายจุลพันธ์กล่าวว่า ตนเองก็ยังตอบไม่ได้ แต่สถานการณ์การเมืองในเวลานี้ ก็เป็นช่วงเวลาที่สำคัญที่เห็นว่าควรชะลอ และรอเวลาที่เหมาะสมก่อน
เมื่อถามว่า พรรคภูมิใจไทยระบุว่า รัฐบาลกลัวเสียงในสภา เนื่องจากมีพรรคร่วมบางพรรคอาจจะไม่โหวตให้ นายจุลพันธ์กล่าวว่า ตนเองยังไม่ได้ได้ยินว่าจะมีพรรครัฐบาลพรรคใดไม่โหวตให้ ขณะนี้ยังไม่ได้รับสัญญาณใดๆ ดังนั้นความเชื่อมั่นในส่วนของพรรคร่วมรัฐบาลนั้นเรายังมีความเชื่อมั่น ส่วนจำนวนเสียงในสภา เราต้องมั่นใจว่าเกินกึ่งหนึ่ง ดังนั้นประเด็นนี้ไม่ใช่ประเด็นที่เราห่วงใย

เมื่อถามว่า เหตุใดการถอนร่างกฎหมายนี้ ต้องนำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ไม่สามารถถอนในรัฐสภาใช่หรือไม่ ขั้นตอนขั้นตอนตามกฎหมายเป็นอย่างไร นายจุลพันธ์กล่าวว่า การถอนครั้งนี้กระบวนการเป็นไปตามกฎหมาย เนื่องจากกฎหมายดังกล่าวนี้เสนอผ่านคณะรัฐมนตรี โดยกระทรวงการคลัง ซึ่งเป็นบุคคลที่เสนอเรื่องเข้ามา เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่จะเป็นกลไกตามปกติ หลังจากนี้ก็คาดว่าจะมีร่างกฎหมายเข้ามาอีกจำนวนมาก ที่เสนอโดยรัฐมนตรีที่ไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่แล้ว จึงถือว่าเป็นเหตุเป็นผลที่เหมาะสม เนื่องจากมีบางกระทรวงกำลังพิจารณาว่าบางฉบับอาจจะต้องให้รัฐมนตรีใหม่มาพิจารณาให้รอบคอบก่อนที่จะนำเสนอคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง

เมื่อถามว่าหากจะนำร่างพระราชบัญญัติสถานบันเทิงครบวงจรเข้าสู่ที่ประชุมสภา ต้องผ่านคณะรัฐมนตรีหรือไม่ นายจุลพันธ์กล่าวว่า  ถูกต้อง ต้องเริ่มต้นใหม่ เข้าสู่กระบวนการของคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง

เมื่อถามว่า นโยบายดังกล่าวนี้เป็นนโยบายเรือธงของพรรคเพื่อไทย แล้วเมื่อไรจะได้ทำ นายจุลพันธ์กล่าวว่า เราอยู่กับความเป็นจริง นาทีนี้อาจจะไม่ใช่เวลาที่เหมาะสม เรายอมรับและต้องยอมถอยหนึ่งก้าว เพื่อให้ประเทศเดินหน้าได้ รัฐบาลก็จะมองถึงจังหวะเวลาที่มีความพร้อมและเหมาะสมต่อไป ไม่ได้เป็นประเด็นคอขาดบาดตาย แต่ส่วนตัวรู้สึกเสียดายความล่าช้า จะเป็นการสูญเสียโอกาสของประเทศ ตนเองมีความเชื่อมั่นว่าเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์จะเป็นนโยบายที่เกิดการขับเคลื่อนปรับเปลี่ยนโคตรสร้างของประเทศได้อย่างรูปธรรม มองว่าก็น่าเสียดาย ช้าแค่ไหนก็คือความสูญเสียของประเทศ

เมื่อถามว่ามั่นใจ หากเข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภาจะผ่านได้ใช่หรือไม่ นายจุลพันธ์กล่าวว่า เราเป็นรัฐบาลเราก็ต้องมั่นใจว่าเสียงเกินครึ่ง