วันที่ 8 ก.ค. 68 พล.ต.ต.ธนันท์ธร รัตนสิทธิภาคย์ ผบก.น.4 พ.ต.อ.ณรัช มูลศาสตรสาทร รอง ผบก.น.4 พ.ต.อ.ธนาพันธ์ ผดุงการ ผกก.สน.ลาดพร้าว สั่งการให้ พ.ต.ท.รัฐฉัตร์ อัศวเลิศหิรัญ รองผกก.สส.สน.ลาดพร้าว พ.ต.ท.อรรถพล กิตติคุณศรี พ.ต.ต.เฉลิมพันธุ์ ภูสมหมาย  สว.สส.สน.ลาดพร้าว ร่วมกันจับกุม นายฮาน อายุ 40 ปี สัญชาติ มาเลเซีย นาย ภัทรพงษ์ อายุ 26 ปี และนายทัตพงศ์  อายุ 24 ปี พร้อมของกลาง หัวบุหรี่ไฟฟ้า   เครื่องบุหรี่ไฟฟ้า หัวน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า ถุง กล่อง เทปกาว ใช้แพ็คบุหรี่ รวม 1,028 ชิ้น โดยจับกุมได้บ้านพักหลังหนึ่งในหมู่บ้าน ซ.ลาดพร้าว 101 แยก 53 แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กทม. 

 

ซึ่งการจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนสน.ลาดพร้าว สืบทราบว่า บริเวณบ้านเลขที่ 2/21 ซึ่งอยู่ในหมู่บ้านแห่งหนึ่งในซอยลาดพร้าว101 แยก 53 แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กทม. มีการลักลอบจำหน่ายและเป็นที่เก็บบุหรี่ไฟฟ้าจำนวนมาก จึงได้ขอหมายค้นศาลอาญาเข้าค้นบ้านหลังดังกล่าว พบ นายฮาน อายุ 40 ปี สัญชาติ มาเลเซีย นายภัทรพงษ์ อายุ 26 ปี และนาย ทัตพงศ์ อายุ 24 ปี อยู่ภายในบ้านเจ้าหน้าที่ได้แสดงหมายค้น ผลการตรวจค้นพบหัวบุหรี่ไฟฟ้า  M switch จำนวน 240 หัว เครื่องบุหรี่ไฟฟ้า M switch จำนวน 48  เครื่อง เครื่องพร้อมหัวบุหรี่ไฟฟ้า M switch จำนวน 38 เครื่อง บุหรี่ไฟฟ้า ยี่ห้อ KS จำนวน 80 ชิ้น บุหรี่ไฟฟ้า ยี่ห้อ VLUX  จำนวน 57 ชิ้น บุหรี่ไฟฟ้า ยี่ห้อ NEXAS   จำนวน   57 ชิ้น เครื่องบุหรี่ไฟฟ้า ยี่ห้อ RELX  จำนวน 30 ชิ้น น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า ยี่ห้อ RELX จำนวน 150 ชิ้น หัวน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า ยี่ห้อ INFY  จำนวน 160 ชิ้น หัวน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า ยี่ห้อ  RELX  จำนวน 39 ชิ้น บุหรี่ไฟฟ้า ยี่ห้อNEXBAR จำนวน 8 ชิ้น บุหรี่ไฟฟ้า ยี่ห้อMBAR จำนวน 129 ชิ้น ถุงแพ็คบุหรี่ จำนวน 4 ห่อ กระดาษกล่องลัง จำนวน  140 ลัง และ เทปใส จำนวน 3 ม้วน วางอยู่ภายในบริเวณห้องรับแขกชั้นที่ 1 จึงได้ตรวจยึดไว้เป็นของกลาง

จากการสอบถามผู้ต้องหาทั้งหมดยอมรับว่าบุหรี่ไฟฟ้าฯของกลางดังกล่าวเป็นของตนเองจริง โดยการซื้อขายจะรับออเดอร์การสั่งซื้อจากลูกค้าผ่านกลุ่มไลน์ที่สร้างขึ้นมา และรับชำระค่าบุหรี่ไฟฟ้าโดยให้ลูกค้าโอนเงินเข้าบัญชีธนาคาร ก่อนจะแพ็คของและส่งบุหรี่ไฟฟ้าให้กับลูกค้าตามที่มีการสั่งซื้อ 

อย่างไรก็ตามกลุ่มผู้ต้องหายังไม่ยอมให้การใดๆเกี่ยวกับที่มาของบุหรี่ไฟฟ้า เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา ร่วมกันขายสินค้าที่คณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคสั่งห้ามขาย เพราะสินค้านั้นเป็นอันตรายแก่ผู้บริโภค และร่วมกันช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาไปเสีย ซื้อ รับจำนำ หรือ รับไว้โดยประการใด ซึ่งของอันตนรู้ว่าเป็นของที่เข้ามาในราชอาณาจักรโดยยังมิได้ผ่านพิธีศุลกากรโดยถูกต้อง ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ.2522 มาตรา 36,56 แก้ไขเพิ่มเติมตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค(ฉบับที่4)พ.ศ.2562มาตรา 29/9,56/4 ประกอบคำสั่งคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคที่24/2567 ลง 18 ก.ค.2567”และตาม พ.ร.บ.ศุลกากร 2560 มาตรา 246 วรรคหนึ่ง นำตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สน.ลาดพร้าวดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป