ชาวสวนมังคุดตามหาจุดรับซื้อของกรมการค้าภายในฟุ้งต่อหน้ารัฐมนตรีพาณิชย์ระดมเอกชนซื้อ 3 พันตัน กำนันจี้ถามหลังรัฐมนตรีกลับชาวบ้านมึนไม่รู้ตั้งจุดซื้อตรงไหน-จ่อเคลื่อนไหวอีกครั้งแฉใช้บริการล้งใหญ่ไม่ถึงมือเกษตรกร

วันที่ 8 ก.ค.68 ที่นครศรีธรรมราช สถานการณ์ราคามังคุดยังคงผันผวนสร้างความเดือดร้อนให้กับเกษตรกรอย่างรุนแรง ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมามีราคาตำต่ำเหลือเพียง 7-8 บาทต่อกิโลกรัม ราคาสูงสุดไม่เกิน 15 บาท โดยช่วงเย็นวานนี้ (7ก.ค.) เกษตรกรชาวสวนมังคุดได้นำมังคุดสุกหลายร้อยกิโลกรัมมาวางไว้หน้าสนามที่ว่าการอำเภอพรหมคีรี จังหวัดนครศรีธรรมราชแล้วมารวมตัวกันปรับทุกข์ร่วมกันจากสถานการณ์ ซึ่งเป็นภาวะวิกฤตส่งผลให้เกษตรกรอยู่ในความยากลำบากจากรายได้ที่ไม่พอค่าใช้จ่าย และการขาดทุนจากต้นทุนการผลิตมังคุดคุณภาพที่สูงแม้จะได้ผลผลิตที่มีคุณภาพแต่อยู่กลับขาดทุนอย่างหนัก

หลังจากมีการแจกจ่ายมังคุดคุณภาพรับประทานหน้าท่าการอำเภอพรหมคีรี โดยมีตำรวจและฝ่ายปกครองมาเฝ้าระวัง และมีการเจรจากับแกนนำเพื่อไม่ให้มีการประท้วงเทผลมังคุด แกนนำเกษตรกรได้มีผลัดเปลี่ยนขึ้นปราศรัยถึงความเดือดร้อน ขณะที่นางอาภรณ์ คีรีคช หรือ “กำนันภรณ์” กำนันตำบลพรหมโลก ได้กล่าวปราศรัยติดตามทวงถามหลังจากที่นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และคณะเดินทางมายังจังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อช่วยเหลือชาวสวนมังคุด โดยมีนายกรนิจ โนนจุ้ย รองอธิบดีกรมการค้าภายใน ได้นำเอกชนค้าปลีค้าส่งรายใหญ่ในเครือซีพี สถานีบริการน้ำมันเช่น ปตท. บางจาก ซัสโก เข้ามาแสดงตัวเพื่อช่วยซื้อในโครงการเชื่อมโยงมังคุดถึงราว 3 พันตัน

นางอาภรณ์ ระบุว่าที่อื่นไม่รู้แต่ที่อำเภอพรหมคีรี เป็นแหล่งผลิตมังคุดขนาดใหญ่ แต่เรากำลังตามหาปริมาณการรับซื้อของค้าภายในหรือกระทรวงพาณิชย์ที่ได้ประกาศไว้ 3 พันตันซื้อตรงไหนอย่างไรอยู่ที่ไหน โควต้ามีอำเภอไหนบ้าง 3 พันตันคือ 3 ล้านกิโลกรัม จนถึงขณะนี้ยังไม่เห็นจุดรับซื้อที่เคยบอกที่รัฐมนตรีพาณิชย์มาเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาและจำนวน 3 พันตันนี้ยังหาไม่พบว่าไปอยู่ที่ใด

อย่างไรก็ตามแกนนำเกษตรกรอยู่ในระหว่างการหารือเพื่อเคลื่อนไหวอีกครั้ง แต่สถานการณ์เป็นไปด้วยความยากลำบากเนื่องจากช่วงฤดูกาลเก็บเกี่ยวล่วงเลยไปกว่า 70-80 เปอร์เซ็นแล้ว ทำให้เกษตรกรต่างสิ้นหวังและเข้าสู่รูปแบบเดิมคือถูกทิ้งประวิงเวลาเพื่อให้หมดฤดูกาลเก็บเกี่ยวมังคุดหมดจากสวนแล้วปัญหาจะจบไปเอง ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวพยายามติดตามข้อมูลการรับซื้อ 3 พันตันของทางการ เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องในกระทรวงพาณิชย์ให้ข้อมูลว่า ได้มีการเลือกใช้ล้งขนาดใหญ่รายหนึ่งเป็นผู้รวบรวมผลผลิต ดังนั้นราคาซื้อจึงไปสร้างผลกำไรให้ล้งโดยที่ไม่ได้ตกถึงมือเกษตรกร