ทหารประชาธิปไตย การประท้วงของทูตอิสราเอลต่อการนำเอาเสื้อยึดมีเครื่องหมายสวัสดิกะของนาซีมาใส่ของวงดนตรีวงหนึ่งขณะซ้อมและมีการเผยแพร่ภาพออกมานั้น ไม่ใช่ครั้งแรก เพราะไม่นานมานี้ก็มีการประท้วงที่นักเรียนมัธยมแห่งหนึ่งแต่งกายแฟนซีและมีบางคนแต่งเครื่องแบบนาซี ทำให้มองเห็นได้ชัดเจนว่า อิสราเอลจะพยายามนำเอาภาพที่ชาวยิวถูกเข่นฆ่าในสมัยนาซีมาขยายผลเพื่อขอความเห็นใจจากชาวโลก เหมือนเช่นที่พยายามเอาภาพยนตร์เรื่องฮอลโลคอสมาฉายซ้ำแล้วซ้ำอีก ซึ่งก็น่าเห็นใจชาวยิวที่ถูกสังหารในเวลานั้น แต่ก็มีประเด็นที่ต้องพิจารณาคือ ประการแรก ยิวพยายามไปจับประเด็นเล็กน้อยที่จะไปเบี่ยงเบนประเด็นใหญ่ นั่นคือการกดขี่เข่นฆ่าชาวปาเลสไตน์ ตลอดจนพยายามทำลายเผ่าพันธุ์ปาเลสไตน์ในพื้นที่ด้วยการปิดล้อมกาซา ควบคุมอาหาร ยารักษาโรค แม้แต่ของเล่นเด็กๆ เพื่อทำลายพัฒนาการของเด็กปาเลสไตน์ให้เติบโตอย่างพิการ ง่อยเปลี้ยเสียขาปัญญาอ่อน ซึ่งนับว่าอำมหิตโหดเหี้ยมอย่างยิ่ง นอกจากนี้ยังกั้นรั้ว กักกันควบคุมปาเลสไตน์อย่างกับสัตว์ในสวนสัตว์ โดยอ้างความปลอดภัยของตนเอง ซึ่งละเมิดมติองค์การสหประชาชนนับครั้งไม่ถ้วนในหลายๆเรื่อง แต่การใช้ความรุนแรงในการแก้ปัญหาปาเลสไตน์ก็มิอาจสร้างความสงบให้เกิดขึ้นได้ ทุกวันนี้ชาวยิวก็ยังคงอยู่ด้วยความหวาดวิตก แม้จะใช้มาตรการเข้มข้นเพื่อทำลายปาเลสไตน์ที่ตนเองเป็นฝ่ายไปยึดครองดินแดนของเขาการอ้างดินแดนเหล่านี้ว่าเป็นดินแดนตามพันธสัญญาของพระเจ้า เป็นการกล่าวอ้างฝ่ายเดียว และดินแดนดังกล่าวก็มีอาณาเขตออกไปอีกโดยครอบคลุมเลบานอน จอร์แดน ซีเรีย และบางส่วนของอิรัก ซึ่งชาวยิวก็ได้วางแผนไว้แล้วที่จะขยายดินแดนของตนออกไป เมื่อมีโอกาส นั่นก็คือ ความก้าวร้าวของอิสราเอล ที่คงไม่เป็นที่ประสงค์ของพระเจ้าอย่างแน่นอน ในขณะที่มักจะนำเอาโศกนาฏกรรมในอดีตสมัยนาซีมาเรียกร้องขอความเห็นใจ ซึ่งก็น่าสงสารชาวยิวในขณะนั้น แต่ชาวยิวในปัจจุบันกลับอาศัยสิ่งนั้นมากระทำย่ำยีกับชาวปาเลสไตน์ เฉกเช่นที่ตนเคยถูกกระทำในอดีต มาอ้างว่าเป็นความถูกต้องชอบธรรมที่จะกระทำต่อชาวปาเลสไตน์ที่ไม่เคยเกี่ยวข้องกับโศกนาถกรรมของชาวยิวในอดีตเลย ประการต่อมาชาวยิวมิได้หยุดยั้งความก้าวร้าวและทะเยอทะยานของตน ชนชั้นสูงของยิวได้รวมตัวกันจัดตั้งเป็นขบวนการที่เรียกว่า “ไซออนิสต์” ประกอบด้วยนายทุนในหลายธุรกิจตั้งแต่การเงิน อุตสาหกรรมอาวุธ สื่อแขนงต่างๆ ตลอดจน สื่อบันเทิง นักวิทยาศาสตร์ และนักการเมือง เข้าควบคุมหลายประเทศ โดยเฉพาะสหรัฐฯที่เป็นมหาอำนาจที่ปัจจุบันมีหลายคนเปิดโปงว่า รัฐบาลสหรัฐฯถูกควบคุมด้วย “รัฐลึก” “DEEPSTATE” ที่ทำให้รัฐบาลสหรัฐฯต้องตอบสนองต่อผลประโยชน์ของไซออนิสต์และรัฐบาลอิสราเอล เป้าหมายสูงสุดคือการจัดตั้งรัฐบาลโลก ด้วยการจัดระเบียบโลกใหม่ ซึ่งก็ต้องมีการดำเนินการก่อสงครามในภูมิภาคต่างๆ เพื่อตักตวงทรัพยากร และควบคุมรัฐบาลนั้นๆ ประการที่สาม บรรดาเยาวชนรุ่นใหม่ของไทย ที่ได้มีความสนใจในเรื่องราวของนาซีและยิวในอดีต เขาเหล่านั้นเห็นเป็นของแปลกก็นำมาประดับ ซึ่งทูตอิสราเอลก็น่าจะรู้ดี แต่ที่ประท้วงเพราะต้องการจุดประเด็นให้เป็นข่าว เพื่อหาความเห็นใจ จะได้อ้างความชอบธรรมที่ตนเองทำกับชาวปาเลสไตน์ ประการที่สี่มีการจัดตั้งขบวนการนาซีในเยอรมันและหลายประเทศในยุโรปที่เป็นขบวนการที่แอนตี้ศาสนาต่างๆ รวมทั้งยูดาย (ยิว) และอิสลาม และมีการก่อเหตุ เช่น การกราดยิงโบสถ์ยิวในชานเมืองปารีส หรือการโจมตีชาวยิว และมุสลิมในเยอรมันก็ไม่เคยได้ยินว่าจะมีการประท้วง แม้แต่การก่อตัวของกลุ่มผิวขาวขวาจัดในสหรัฐฯ คือ คลูคลักแคลนซึ่งแอนตี้คนผิวสีทั้งหมดก็ไม่เห็นทูตยิวจะออกมาประท้วงเลย ประการสุดท้ายขบวนการไซออนิสต์เป็นขบวนการที่อยู่เบื้องหลังการขยายตัวของระบบทุนนิยมผูกขาดระหว่างประเทศ เพื่อกอบโกยความมั่นคั่งมาสู่กลุ่มของตนเอง และจัดตั้งรัฐบาลโลก โดยใช้ความได้เปรียบทางเทคโนโลยี ดังนั้นเมื่อมีใครมาทำให้กลุ่มตนเสียประโยชน์ก็จะทำลายเสีย เช่น การที่พันเอกกัตดาฟีแห่งลิเบียพยายามจัดตั้งสหภาพอาฟริกาและใช้เงินตราของตนเองโดยอิงทองคำ พวกนี้ก็ทำลายเสียยับเยินโดยอาศัยผู้นำสหรัฐฯและตะวันตกอย่างฝรั่งเศส หรือกรณีที่บริษัทหัวเหว่ยพัฒนาเทคโนโลยี 5 G ขึ้นมาก็จะทำให้กลุ่มนี้เสียประโยชน์อย่างมากในการผูกขาดด้านไอทีที่ผ่านมา จึงต้องทำลายให้ย่อยยับด้วยการจับกุมผู้บริหารของหัวเหว่ย และทำการกีดกันแซงชั่นบริษัทหัวเหว่ย ซึ่งแน่นอนจีนก็ตอบโต้ สุดท้ายแทนที่ชาวโลกจะได้ของดีราคาถูก ก็จะต้องใช้ของแพงอันเกิดจากระบบผูกขาด ใครที่เคยทำธุรกรรมกับยิว จะพบว่าเขาเหล่านั้นได้คืบเอาศอก ไม่เคยรู้จักพอ “ฉะนั้นยิวแม้อ้างยุติธรรม (ซึ่งเป็นของตนฝ่ายเดียว) จงกำหนดจดจำไว้ด้วยว่า ในกระแสแห่งยุติธรรมา ยากจะหาความเกษมและเปรมใจ” (พระราชนิพนธ์เวนิสวาณิช ต้นเรื่องจากเชคสเปียร์ของล้นเกล้ารัชกาลที่ 6 พระมหาธีรราชเจ้า)