วันที่ 7 ก.ค.68 ที่รัฐสภา ว่าที่ ร.ต.อาพัทธ์ สุขะนันท์ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีที่พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ จะเสนอชื่อแคนดิเดตเสนอชื่อนายกรัฐมนตรี โดยยึดจำนวนเสียงของ สส. ตามที่เคยได้เลือกตั้งมาในครั้งแรกนั้น โดยยืนยันว่าไม่ได้ ต้องใช้เสียงสส.ปัจจุบัน ในการเลือกนายกรัฐมนตรี ซึ่งกระบวนการเสนอชื่อเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทั้งนี้ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 หมวด 8 คณะรัฐมนตรี มาตรา 159 ให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีจากบุคคลซึ่งมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตาม มาตรา 160 และเป็นผู้มีชื่ออยู่ในบัญชีรายชื่อที่พรรคการเมืองแจ้งไว้ตาม มาตรา 88 เฉพาะจากบัญชีรายชื่อของพรรคการเมืองที่มีสมาชิกได้รับเลือกเป็น สส.ไม่น้อยกว่า ร้อยละ 5 ของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของสภาผู้แทนราษฎร
การเสนอชื่อตามวรรคหนึ่งต้องมีสมาชิกรับรองไม่น้อยกว่าหนึ่งในสิบของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของสภาผู้แทนราษฎร มติของสภาผู้แทนราษฎรที่เห็นชอบการแต่งตั้งบุคคลใดให้เป็นนายกรัฐมนตรี ต้องกระทำโดยการลงคะแนนโดยเปิดเผย และมีคะแนนเสียงมากกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของสภาผู้แทนราษฎร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทั้งนี้บุคคลที่สามารถได้รับการเสนอชื่อ จะต้องเป็นบุคคลที่มีรายชื่อในบัญชีที่เสนอต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตั้งแต่ก่อนการเลือกตั้ง โดยพรรคที่สามารถเสนอชื่อบุคคลเป็นนายกฯได้ จะต้องมี ส.ส. ร้อยละ 5 ของ ส.ส. 500 คน คือมี ส.ส. 25 คน ตามมาตรา 159 วรรคหนึ่ง ซึ่งในปัจจุบันมีสส.ที่ปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร จำนวน 494 คน โดย ร้อยละ 5 คือ 24.70
ทั้งนี้ในปัจจุบันพรรคพลังประชารัฐมี สส. จำนวนทั้งสิ้น19 คน จาก 20 คน เนื่องจากเป็น สส.งูเห่า พรรคกล้าธรรม 1 คน จึงไม่สามารถเสนอบุคคลในบัญชีรายชื่อคือ พล.อ.ประวิตร เป็นนายกรัฐมนตรี ได้ ตามมาตรา 159 วรรคหนึ่ง เกี่ยวกับที่มาของนายกรัฐมนตรี