คณะกรรมาธิการความมั่นคงฯ ลงพื้นที่ชายแดนสระแก้ว ตรวจสอบช่องทางลักลอบและปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ข้ามชาติ

"รังสิมันต์" เสนอรัฐบาลยกระดับเป็นวาระความมั่นคง ชี้ต้องใช้ความร่วมมือระดับนานาชาติปราบเครือข่ายใหญ่ในกัมพูชา เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 6 ก.ค.68 คณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนโทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร นำโดย นายรังสิมันต์ โรม ประธานคณะกรรมาธิการ , นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน , นายชุติพงศ์ พิภพภิญโญ เป็นประธานคณะอนุกรรมาธิการพิจารณาศึกษาแนวทางการป้องกัน ปราบปราม และแก้ไขปัญหาขบวนการค้ามนุษย์, แก๊งคอลเซ็นเตอร์, และบัญชีม้า  ลงพื้นที่จังหวัดสระแก้ว เพื่อศึกษาดูงาน เรื่อง "ปัญหาความมั่นคงและการบริหารกิจการชายแดนไทย - กัมพูชา" เพื่อรับทราบข้อมูล ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสถานการณ์ความมั่นคงชายแดน 

โดยจุดแรก ลงไปในพื้นที่ด้านหลังบิ๊กซี ต.ป่าไร่ ใกล้ตลาดโรงเกลือ จุดนี้จะต้องผ่านโกดังสินค้ามือสอง ที่มีเอกชนเป็นผู้ครอบครอง  เมื่อเดินเข้าไปสำรวจด้านในพบเป็นที่ดินโล่ง  ช่องกำแพงมีการก่อปูนปิดมิดชิด  มีลวดหนามขึงเป็นแนวยาว  ช่องที่พบว่าก่อนหน้านี้สามารถรอดไปได้เจ้าหน้าที่ได้นำตะแกรงเหล็กมาเชื่อมติดเรียบร้อยแล้ว พันเอกเมธี คำเต็ม ผู้บังคับการชุดควบคุมกรมทหารพรานที่ 12 กองกำลังบูรพา  ได้ให้ข้อมูลกับคณะกรรมาธิการว่า ได้ดำเนินการปิดช่องที่เป็นทางเข้าออกของผู้ลักลอบ ตลอดแนว 6.3 กม. พร้อมติดตั้งกล้องวงจรปิดทุกจุดเรียบร้อยแล้ว ซึ่ง กองกำลังบูรพาสามารถดูได้ตลอด 24ชม. ขณะที่เสาส่งสัญญาณเครือข่ายมือถือและอินเทอร์เน็ต ก็ได้มีการลดระดับสัญญาณลง ตอบสนองนโยบายการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ของรัฐบาลก่อนหน้านี้

ขณะเดียวกัน นายรังสิมันต์ โรม  กล่าวว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของภารกิจติดตามการทำงานของอนุกรรมาธิการที่ตั้งขึ้นเพื่อศึกษาและเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์อย่างเป็นระบบ โดยมีชุติพงศ์ เป็นประธานอนุกรรมาธิการ ซึ่งได้รับมอบหมายจากกรรมาธิการใหญ่มาดำเนินการ โดยระบุว่า ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะกัมพูชา ยังมีความรุนแรงและความคืบหน้าในการปราบปรามไม่เป็นที่น่าพอใจเท่ากับเมียนมา เราได้รับข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ว่ามีการจับกุมเป็นระยะ แต่เครือข่ายมีขนาดใหญ่และซับซ้อน จนถึงขั้นสามารถระบุตำแหน่งพิกัดของแหล่งปฏิบัติการทั่วกัมพูชาได้แล้ว

นายรังสิมันต์ กล่าวย้ำว่า ปัญหาคอลเซ็นเตอร์ไม่ใช่แค่การหลอกลวงทางการเงิน แต่เกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ ซึ่งเป็นอาชญากรรมร้ายแรงในระดับโลก กฎหมายไทยอาจไม่สามารถเอื้อมถึง แต่สามารถใช้กลไกความร่วมมือระหว่างประเทศในการจัดการได้ โดยได้เสนอให้รัฐบาลยกระดับประเด็นคอลเซ็นเตอร์และการค้ามนุษย์เป็นวาระความมั่นคงระดับชาติ โดยผลักดันความร่วมมือกับประเทศต่างๆ เช่น ญี่ปุ่น ซึ่งได้รับผลกระทบอย่างมากจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่มีต้นทางจากกัมพูชาเช่นกัน

นายรังสิมันต์ยังเปิดเผยต่ออีกว่า ได้รับข้อมูลรายชื่อบุคคลสำคัญที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการดำเนินกิจกรรมคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งบางรายอาจเชื่อมโยงกับผู้มีอำนาจในกัมพูชา โดยเตรียมนำข้อมูลเสนอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการต่อไปสำหรับประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการใช้อินเทอร์เน็ต ไฟฟ้า และระบบสาธารณูปโภคในกัมพูชา ตั้งข้อสังเกตว่าอาจเป็นปัจจัยที่เอื้อให้เกิดการตั้งฐานปฏิบัติการขนาดใหญ่ พร้อมเสนอให้ใช้เทคโนโลยีทันสมัย เช่น เสาเซ็นเซอร์ AI ตรวจจับสิ่งมีชีวิตตามแนวชายแดนไทย เพื่อสกัดการลักลอบข้ามแดน การแก้ไขปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์และการค้ามนุษย์จะต้องอาศัยความร่วมมือหลายฝ่าย และไม่สามารถทำได้ในชั่วข้ามคืน กรรมาธิการความมั่นคงพร้อมสนับสนุนหน่วยงานปฏิบัติทุกด้าน และจะติดตามนโยบายของรัฐบาลต่อไปอย่างใกล้ชิด