พร้อมเดินหน้าในการพัฒนาเส้นทางถนนเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้ทางในการเดินทางเลียบชายฝั่งทะเลภาคใต้ที่สวยงาม ภายใต้ชื่อ โครงการถนนเลียบชายฝั่งทะเลภาคใต้ (ไทยแลนด์ ริเวียร่า) ระยะกว่า 1,900 กิโลเมตร วงเงินก่อสร้างกว่า 20,000 ล้านบาท ซึ่งกำกับดูแลการก่อสร้างโดย “กรมทางหลวงชนบท”
ทั้งนี้ “สยามรัฐสัปดาหวิจารณ์” ได้ติดตามความคืบหน้าโครงการไทยแลนด์ริเวียร่า ซึ่ง “นายมนตรี เดชาสกุลสม” อธิบดีกรมทางหลวงชนบท (ทช.) เปิดเผยว่า โครงการไทยแลนด์ ริเวียร่า พื้นที่แขวงทางหลวงชนบทเพชรบุรี จ.เพชรบุรี สำหรับโครงการไทยแลนด์ ริเวียร่า มีระยะทางทั้งหมดประมาณ 1,900 กม. งบประมาณก่อสร้างกว่า 2 หมื่นล้านบาท มีทั้งก่อสร้างถนนใหม่และปรับปรุง 2 ขยายถนนเดิม ตามแผนงานจะแล้วเสร็จภายใน 10 ปี (2578) ประกอบด้วย 1.เส้นทางท่องเที่ยวเลียบชายฝั่งทะเลอ่าวไทย 950 กม. วงเงินกว่า 1.36 หมื่นล้านบาท เริ่มก่อสร้างปีงบประมาณ 2552 ผ่านพื้นที่ 14 จังหวัด ตั้งแต่ จ.สมุทรปราการ, สมุทรสาคร, สมุทรสงคราม, เพชรบุรี, ประจวบ คีรีขันธ์, ระนอง, ชุมพร, สุราษฎร์ธานี, นครศรีธรรมราช, สงขลา, ปัตตานี และนราธิวาส
แบ่งก่อสร้าง 4 ระยะ (เฟส) โดยเฟส 1 ช่วง จ.สมุทรสาคร-เพชรบุรี-ประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร ระยะทาง 515 กม. วงเงิน 2,549 ล้านบาท ก่อสร้าง แล้วเสร็จ อยู่ระหว่างดำเนินการ ,เฟส 2 ช่วง จ.ชุมพร-สุราษฎร์ธานี-นครศรี ธรรมราช-สงขลา 150 กม. ในขั้นตอน การสำรวจออกแบบและจัดทำรายงาน การประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) จะเริ่มก่อสร้างปี 2570 เปิดบริการปี 2572-2573
เฟส 3 ช่วงสมุทรปราการ-สมุทร สาคร-สมุทรสงคราม หรือโครงการ 3 สมุทร 85 กม. วงเงิน 4,275 ล้านบาทสำรวจออกแบบแล้วเสร็จ แบ่งเป็น 4 ช่วง ได้แก่ สัญญาที่ 1 ช่วงสมุทรปราการ- สมุทรสาคร ด้านตะวันออกของแม่น้ำ ท่าจีน ปรับปรุงถนนเดิม ตามแนวคลองสรรพสามิต คลองสหกรณ์ คลองพิทยาลงกรณ์ เพิ่มป้ายจราจร และอุปกรณ์อำนวยการจราจรให้สมบูรณ์ และปลอดภัยขึ้นวงเงิน 788.2 ล้านบาท ,สัญญาที่ 2 ช่วงข้ามแม่น้ำท่าจีน ก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำท่าจีนใหม่ขนาด 4 ช่องจราจร ตามแนวทางหลวงชนบทสาย สค.5017 บริเวณวัดกำพร้า เชื่อมทางหลวงชนบท สค. 2020 บริเวณวัดบางหญ้าแพรก ต.บางหญ้าแพรก อ.เมือง จ.สมุทรสาคร สะพานใหม่จะคู่ขนานถนนวงแหวนรอบที่ 3 ด้านใต้ของกรมทางหลวง (ทล.) พร้อมทางต่างระดับ วงเงิน 2,342 ล้านบาท ออกแบบแล้วเสร็จ เตรียมงานเวนคืนที่ดิน คาดว่าเริ่มก่อสร้างหลังปี 2571 ,สัญญาที่ 3 ช่วง จ.สมุทรสาคร ด้านตะวันตกของแม่น้ำท่าจีน ถึง จ.สมุทรสงคราม ปรับปรุงถนนเดิม 4.4 กม. และก่อสร้างถนนใหม่ 12.3 กม. วงเงิน 829.5 ล้านบาท จะเสนอขอรับงบฯปี 2570 วงเงิน 829.5 ล้านบาท จะเริ่มก่อสร้างปี 2571 เปิดบริการปี 2573-2574 และสัญญาที่ 4 ปรับปรุงถนนเดิม 14.5 กม. วงเงิน 315.4 ล้านบาท เชื่อมส่วนปลายของสัญญาที่ 3 บริเวณบ้านชายทะเลรางจันทร์ จ.สมุทรสาคร ไปสู่ส่วนที่เป็นดอนหอยหลอด และเชื่อมถนนริเวียร่าเดิมที่บ้านคลองโคน จ.สมุทรสงคราม
และเฟส 4 ช่วง สงขลา-ปัตตานี-นราธิวาส 200 กม. อยู่ระหว่างศึกษาความเป็นไปได้ แล้วเสร็จภายในปี 2569
2.เส้นทางท่องเที่ยวเลียบชายฝั่งทะเลอันดามัน ครอบคลุมพื้นที่ 6 จังหวัด ระนอง, พังงา, ภูเก็ต, กระบี่, ตรัง และสตูล กำลังศึกษาความเหมาะสม ระยะทาง 600 กม. และ 3. เส้นทางท่องเที่ยวเลียบชายฝั่งทะเลภาคใต้ ด้านตะวันตก ถนนท่องเที่ยวตะนาวศรีคีรีพัฒน์ รวม 10 ช่วง ระยะทาง 350 กม. เริ่มก่อสร้างช่วงที่ 3 เขาบันได-บ้านน้ำพุร้อน อ.หนองหญ้า ปล้อง, เขาย้อย จ.เพชรบุรี 37.24 กม. วงเงิน 714.28 ล้านบาทแล้ว ต้นเดือน ก.ค. 2568 จะออกหนังสือแจ้งให้ผู้รับจ้างเริ่มงาน (NTP) ช่วงที่ 10 สามแยกถนนชัยพัฒนา ตัด ทล.3218-ทล.4 อ.หัวหิน อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ทั้ง 2 ช่วงจะแล้วเสร็จและเปิดบริการปี 2570 เปิดบริการครบทั้ง 10 ช่วงปี 2576
ส่วนเรื่องแผนงานโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ กรอบวงเงิน 157,000 ล้านบาท หลังคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบนั้น นายมนตรี กล่าวว่า จากงบประมาณที่ทช.ได้รับการจัดสรรทั้งหมด 14,725.09 ล้านบาท สำหรับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานคมนาคมนั้น ทช.ได้แบ่งออกเป็น 4 โครงการหลัก 1,959 รายการ ที่จะครอบคลุมทั่วประเทศ ดังนี้ 1.โครงการโครงข่ายทางหลวงชนบทได้รับการบำรุงรักษา ทั้งหมด 162 รายการ มูลค่า 1,574.36 ล้านบาท 2.โครงการอำนวยความปลอดภัยและปรับปรุงแก้ไขบริเวณเสี่ยงอันตราย จำนวน 1,266 รายการ มูลค่า 7,607.85 ล้านบาท 3.โครงการพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (เน้นการทำเส้นทางเชื่อมต่อไปยังสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญในพื้นที่ชนบท) จำนวน 57 รายการ มูลค่า 1,017.0 ล้านบาท และ 4.โครงการบำรุงถนนเพื่อส่งเสริมพื้นที่เกษตรกรรมและเศรษฐกิจทางการเกษตร จำนวน 474 รายการ มูลค่า 4,525.8 ล้านบาท
นายมนตรี กล่าวว่า ทุกโครงการเป็นโครงการขนาดเล็ก และเป็นโครงการที่ได้รับการคัดเลือกจากโครงการเดิมที่เคยเสนอแล้วแต่ยังไม่ได้รับงบประมาณ และนำมาผ่านการกลั่นกรองอีกครั้งเพื่อให้สามารถเดินหน้าได้ทันทีที่ได้รับการอนุมัติ สำหรับกรอบระยะเวลาดำเนินงานจะเริ่มได้ตั้งแต่เดือนกันยายนปี 2568 นี้ และต้องแล้วเสร็จไม่เกินเดือนกันยายนปี 2569 ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นโครงการที่ใช้เวลาดำเนินการประมาณ 4 ถึง 6 เดือน บางโครงการอาจใช้เวลา 9 เดือน แต่จะไม่เกินกรอบเวลาที่กำหนด
“ทุกโครงการที่คัดเลือกจะเน้นการกระจายไปในพื้นที่ชนบททั่วประเทศ เพื่อให้เกิดการจ้างงานในท้องถิ่นและกระจายรายได้ลงสู่ระดับรากหญ้าอย่างแท้จริง พร้อมเน้นว่าทุกโครงการจะต้องออกแบบให้สอดคล้องกับลักษณะพื้นที่ และตอบโจทย์ความต้องการของชุมชนเป็นหลัก”
สำหรับโครงการแรกที่จะสามารถเริ่มดำเนินการประมูลจัดซื้อจัดจ้าง จะแบ่งเป็น 3 โครงการหลัก คือ โครงการโครงข่ายทางหลวงชนบทได้รับการบำรุงรักษา โครงการพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน และโครงการบำรุงถนนเพื่อส่งเสริมพื้นที่เกษตรกรรมและเศรษฐกิจทางการเกษตร ซึ่งทั้งหมดคาดว่าจะสามารถเริ่มดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างได้ตั้งแต่ภายในเดือนกรกฎาคม 2568 เป็นต้นไป
อีกไม่นานหลังจากนี้การเดินทางของประชาชนจะสะดวก สบาย มากยิ่งขึ้น!!!