กรมส่งเสริมสหกรณ์ผุดโครงการสนับสนุนสหกรณ์การเกษตรผสมปุ๋ยเพื่อจำหน่ายให้เกษตรกร ขายถูกกว่าท้องตลาด 3,378 บาท/ตัน ช่วยเกษตรกรลดต้นทุนการผลิต 300–400 บาท/ไร่ กรมพัฒนาที่ดินร่วมวิเคราะห์ค่าดิน เพื่อกำหนดสูตรปุ๋ยให้สหกรณ์ผลิตปุ๋ยที่มีแร่ธาตุเหมาะสมกับดินแต่ละพื้นที่ กระทรวงพาณิชย์เตรียมเจรจากับผู้ประกอบการนำเข้าแม่ปุ๋ย เพื่อให้ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จำกัด ได้ซื้อแม่ปุ๋ยจากบริษัทนำเข้า ในราคาที่ถูกกว่าราคาตลาด เพื่อส่งกระจายต่อให้สหกรณ์การเกษตรนำไปผลิตปุ๋ยขายเกษตรกรได้ในราคาถูก วันนี้ (31 ม.ค.62) นายพิเชษฐ์ วิริยะพาหะ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เปิดเผยว่า ขณะนี้กรมฯมีโครงการสนับสนุนให้สหกรณ์การเกษตรผลิตปุ๋ยใช้เองจำหน่ายให้กับสมาชิกและเกษตรกรทั่วไปในแต่ละพื้นที่ เพื่อช่วยลดต้นทุนการผลิตให้แก่เกษตรกร เนื่องจากปัจจุบัน เกษตรกรส่วนใหญ่ประสบกับปัญหาต้นทุนการผลิตที่เพิ่มสูงขึ้น และใช้ปุ๋ยไม่เหมาะสมกับสภาพพื้นดิน ซึ่งส่งผลทำให้ผลผลิตต่อไร่ต่ำกว่ามาตรฐาน รัฐบาลจึงมีนโยบายที่จะช่วยเหลือเกษตรกรในการลดต้นทุนการผลิต โดยให้สหกรณ์การเกษตรในระดับอำเภอผลิตปุ๋ยที่มีคุณภาพและจำหน่ายในราคาที่เป็นธรรมแก่เกษตรกร ซึ่งกรมพัฒนาที่ดินจะช่วยวิเคราะห์ข้อมูลดินของแต่ละพื้นที่ เพื่อกำหนดสูตรปุ๋ยที่มีแร่ธาตุเหมาะสมกับสภาพดินให้สหกรณ์นำไปผลิต กรมส่งเสริมการเกษตรจะจัดเวทีให้ความรู้แก่เกษตรกรถึงข้อดี ในการผลิตปุ๋ยใช้เองแทนปุ๋ยสำเร็จรูป และกรมวิชาการเกษตรจะออกใบอนุญาตผลิตและจำหน่ายปุ๋ยให้กับสหกรณ์ที่เข้าร่วมโครงการ รวมถึงการให้คำแนะนำตามหลักวิชาการการผสมปุ๋ยและมอบใบรับรองปุ๋ยที่สหกรณ์ผลิตขึ้นว่ามีคุณภาพมาตรฐาน เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับเกษตรกรที่จะเลือกซื้อไปใช้ ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์จะเจรจากับผู้ประกอบการนำเข้าแม่ปุ๋ย เพื่อให้ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทยได้ซื้อแม่ปุ๋ยจากบริษัทนำเข้าในราคาที่ถูกกว่าราคาตลาดและกระจายต่อให้กับสหกรณ์การเกษตรในแต่ละจังหวัดนำแม่ปุ๋ย ซึ่งเป็นปุ๋ยที่มีธาตุอาหารหลักพืช คือ N P K สูตรเข้มข้น เป็นวัตถุดิบเพื่อนำไปผสมและผลิตปุ๋ยตามค่าวิเคราะห์ดิน หรือสูตรที่เกษตรกรต้องการใช้ จำหน่ายให้กับเกษตรกร สำหรับเงินทุนในการผลิตปุ๋ยจำหน่ายให้เกษตรกร ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ได้จัดสรรวงเงินสินเชื่อ 1,300 ล้านบาท ให้สหกรณ์กู้ยืมในอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 2 โดยรัฐบาลชดเชยดอกเบี้ยให้ร้อยละ 2 และธ.ก.ส.รับภาระดอกเบี้ย ร้อยละ 1 ต่อปี “เดือนเมษายนเมื่อเข้าฤดูทำนาเกษตรกรก็จะสามารถใช้ปุ๋ยผสมเองนี้ได้ ขณะนี้กรมฯได้เปิดรับสมัครสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรที่สนใจเข้าร่วมโครงการแล้ว 403 แห่งในพื้นที่ 66 จังหวัด และได้ประสานสหกรณ์เพื่อสำรวจปริมาณความต้องการปุ๋ยผสมใช้เองของสมาชิกและเกษตรกรในพื้นที่ ซึ่งสหกรณ์จะได้มีข้อมูลในการผลิตปุ๋ยได้ตรงกับความต้องการของเกษตรกร คาดว่าสหกรณ์จะเริ่มผลิตปุ๋ยและจำหน่ายได้ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2562 เป้าหมายประมาณ 100,000 ตัน ซึ่งจะจำหน่ายราคาถูกกว่าปุ๋ยสำเร็จที่ขายตามท้องตลาดตันละ 3,378 บาท คาดว่าจะช่วยลดต้นทุนการผลิตไร่ละ 300–400 บาท และสามารถลดต้นทุนจากการใช้ปุ๋ยคิดเป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้น 337.8 ล้านบาท”อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ กล่าว